×

สภาองค์กรของผู้บริโภคและเครือข่ายให้กำลังใจ ‘พิรงรอง’ หลังถูก TRUE ฟ้องคดีต่อศาล

18.03.2024
  • LOADING...

วันนี้ (18 มีนาคม) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. สภาองค์กรของผู้บริโภค และเครือข่ายองค์กรของผู้บริโภค นำโดย สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค และ สุภิญญา กลางณรงค์ อดีตกรรมการ กสทช. เดินทางมาให้กำลังใจ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้สั่งประทับฟ้อง จากกรณีที่บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ยื่นฟ้อง ดร.พิรงรอง ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยได้มอบดอกไม้ให้กำลังใจ รวมถึงมีการก่อตั้งกลุ่ม ‘Friend Of Pirongrong’ 

 

สุภิญญากล่าวว่า ขอให้กำลังใจอาจารย์พิรงรอง มองว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ก็หวังว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาส กสทช. มีการทำงานที่โปร่งใสขึ้น ขอให้ทำงานอย่างเข้มแข็งในการตรวจสอบธรรมาภิบาลการทำงานภายในองค์กร ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เคยมาให้กำลังใจครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อยุคที่อาจารย์เดือนเด่นถูกฟ้อง ขอให้เข้มแข็งและผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปได้ 

 

สารีกล่าวว่า ขอบคุณเพื่อนสื่อมวลชนที่วันนี้ได้มาเป็นพยานในการมาให้กำลังใจอาจารย์พิรงรอง หวังว่าการฟ้องคดีจะเป็นจุดเริ่มต้นความเปลี่ยนแปลงที่ดีใน กสทช. 

 

ในเวลาต่อมา สารีได้เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ของกลุ่มเครือข่าย โดยมีรายละเอียดสรุปว่า ขอร่วมให้กำลังใจอาจารย์พิรงรองในการทำหน้าที่เพื่อปกป้องผู้บริโภคและผลประโยชน์สาธารณะ รวมถึงเรียกร้องให้ทรูปฏิบัติตามกฎหมาย กสทช. โดยเคร่งครัด การฟ้องคดีเป็นการนำเอากระบวนการยุติธรรมมาใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อหวังระงับการปฏิบัติหน้าที่ อาจเข้าข่ายการฟ้องปิดปาก อาจเป็นการขัดขวางหรือหน่วงเวลาในการทำหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่

 

สำหรับรายละเอียดคดีนี้ จากการไต่สวนได้ความว่า โจทก์ (ทรู) เป็นผู้ประกอบกิจการ OTT (Over the Top ซึ่งเป็นบริการสื่อที่นำเสนอโดยตรงกับผู้รับบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต OTT ข้ามแพลตฟอร์มโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิล และโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) เป็นการให้บริการที่ กสทช. ยังไม่ได้มีประกาศหรือออกกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแล

 

จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าการให้บริการของโจทก์ แม้จะถือว่าเป็นการให้บริการประเภท OTT ที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทางไต่สวนมีเหตุให้เชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้สั่งการให้รักษาการรองเลขาธิการ กสทช. ในขณะนั้น ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ จำนวน 127 ราย

 

มีข้อความว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบกิจการที่ยังไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทำให้ผู้ได้รับอนุญาตเข้าใจว่าโจทก์เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้รับอนุญาตอาจระงับเนื้อหารายการต่างๆ ที่โจทก์ส่งไปออกอากาศ

 

พฤติการณ์ของจำเลยส่อแสดงเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ถือเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คดีโจทก์มีมูลจึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีดำ อท.167/2566

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising