ผู้นำชาติพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ร่วมประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวานนี้ (14 มิถุนายน) พร้อมส่งคำเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามทางทหารจากจีน โดยชี้ว่าจีนกำลังขยายคลังอาวุธนิวเคลียร์อย่างรวดเร็ว มีการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยและร่วมมือกับรัสเซียในทางทหารมากขึ้น พร้อมระบุว่าพฤติกรรมของจีนในช่วงที่ผ่านมาถือเป็น ‘ความท้าทายเชิงระบบ’
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO เตือนว่า จีนกำลัง ‘เข้าใกล้’ NATO มากขึ้น ในแง่ของการทหารและเทคโนโลยี แต่เขาย้ำว่ากลุ่มชาติพันธมิตร NATO ไม่ต้องการทำสงครามเย็นครั้งใหม่กับจีน
ทั้งนี้ NATO คือกลุ่มพันธมิตรทางการเมืองและการทหารที่ทรงอิทธิพลของโลก ประกอบด้วยชาติสมาชิกจากยุโรปและอเมริกาเหนือรวม 30 ประเทศ โดยแรกเริ่มก่อตั้งขึ้นเพื่อรับมือภัยคุกคามจากการขยายอิทธิพลของคอมมิวนิสต์หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา NATO ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการดำรงอยู่ ในขณะที่ผู้นำหลายชาติโต้แย้งเกี่ยวกับจุดประสงค์ขององค์การและการจัดหางบประมาณหล่อเลี้ยง
สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำ NATO ครั้งนี้มีไฮไลต์สำคัญคือการเข้าร่วมครั้งแรกของ โจ ไบเดน ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเกิดขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับ NATO มีรอยร้าว สืบเนื่องจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนก่อน วิจารณ์ NATO เกี่ยวกับสัดส่วนการจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนของชาติสมาชิก และตั้งคำถามเกี่ยวกับพันธกรณีที่สหรัฐฯ ต้องปกป้องชาติพันธมิตรในยุโรป
อย่างไรก็ตามไบเดนยืนยันว่า NATO มีความสำคัญต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และทางองค์การมีภาระหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ในการปฏิบัติตามมาตรา 5 ของสนธิสัญญาก่อตั้ง ซึ่งกำหนดให้ชาติสมาชิกต้องปกป้องประเทศในกลุ่มหากถูกโจมตี
ภาพ: NATO / Pool / Anadolu Agency via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: