×

ไร้เป้า GDP, เพิ่มงบกลาโหม 6.6%, ดันกฎหมายความมั่นคงคุมเข้มฮ่องกง: สรุปไฮไลต์เด่นที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนวันแรก

22.05.2020
  • LOADING...

การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) เปิดฉากขึ้นในวันนี้ (22 พฤษภาคม) ซึ่งเป็นอีเวนต์การเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจีนที่จัดควบคู่กับการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายและยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและสังคมในช่วง 1 ปีข้างหน้า รวมถึงอนุมัติงบประมาณแผ่นดินและผ่านกฎหมายสำคัญ ดังนั้น NPC จึงเป็นกลไกนิติบัญญัติสูงสุดของจีน แม้ถูกมองว่าเป็นเพียงสภาตรายางในสายตาต่างชาติที่คอยปั๊มอนุมัตินโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์ก็ตาม

 

การประชุมปีนี้ถูกเลื่อนออกมา 2 เดือน เนื่องจากเกิดวิกฤตโควิด-19 ในประเทศและทั่วโลก โดยผู้แทนประชาชนจากทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมประชุมล้วนได้รับการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาและแยกกักตัวก่อนที่อีเวนต์จะเริ่มขึ้น รวมถึงสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน ยกเว้นบรรดาผู้นำ

 

เป็นประจำทุกปีที่นายกรัฐมนตรีจีนจะรายงานผลงานของรัฐบาลในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาต่อสภาในวันแรกของการประชุม รวมถึงเผยพิมพ์เขียวยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ครอบคลุมมิติการเมือง นโยบายต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และการทหาร

 

และนี่คือไฮไลต์เด่นในการประชุมวันแรก

 

 

พิษโควิด-19 เล่นงานเศรษฐกิจ ไร้เป้า GDP ครั้งแรก

สิ่งที่โลกการเงินจับตาคือการประกาศเป้า GDP ประจำปี ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตมากน้อยแค่ไหนในปีนั้นๆ แต่ปรากฏว่าปีนี้จีนฉีกธรรมเนียมปฏิบัติที่เคยทำมา โดยไม่กำหนดเป้าหมายการเติบโตของ GDP เป็นครั้งแรก ซึ่งนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียง ให้เหตุผลว่า เนื่องจากจีนกำลังเผชิญกับปัจจัยที่คาดการณ์ไม่ได้ หลังเกิดวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก บวกกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการค้า

 

แต่ในด้านอื่นๆ รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายอัตราการว่างงานในเมืองไว้ราว 6% ซึ่งสูงจากระดับ 5.5% ในปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังตั้งเป้าสร้างงานในเมืองเพิ่ม 9 ล้านตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้วที่กำหนดไว้ 11 ล้านตำแหน่ง

 

ส่วนเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางนั้นกำหนดไว้ที่ 3.6% ของ GDP ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.8% ในปี 2019 เพื่อเพิ่มช่องว่างในการใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบจากโรคระบาด รวมถึงเตรียมออกพันธบัตรพิเศษวงเงิน 1 ล้านล้านหยวน เพื่ออัดฉีดเศรษฐกิจในปีนี้ด้วย

 

ความคืบหน้าดีลการค้าเฟส 1 

สำหรับข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ นั้น หลี่ประกาศชัดเจนว่าจีนจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงเฟส 1 ให้ได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเกิดความไม่แน่นอนขึ้นจากวิกฤตโรคระบาดจนทำให้เกิดความวิตกว่าจีนอาจนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ไม่ได้ตามเป้า

 

พร้อมย้ำว่าจีนยังยึดมั่นในระบบการค้าพหุภาคี และสนับสนุนการปฏิรูปองค์การการค้าโลก (WTO) รวมถึงเผยด้วยว่าจีนกำลังผลักดันให้เกิดเขตการค้าเสรีจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

 

ส่วนที่ประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองเมื่อวานนี้ มีการเสนอให้พัฒนาเงินดิจิทัลระดับภูมิภาคขึ้น ซึ่งหนุนโดย 4 สกุลเงินหลักของเอเชีย ได้แก่ เงินหยวนของจีน, ดอลลาร์ฮ่องกง, เยนของญี่ปุ่น และวอนของเกาหลีใต้

 

โดยเงินดิจิทัลระดับภูมิภาคนี้จะเป็น stablecoin ที่มีมูลค่าคงที่เท่ากับสกุลเงินหลัก และมีความน่าเชื่อถือในระดับรัฐบาล

 

 

ออกกฎหมายความมั่นคงป้องกันการปลุกระดมแยกตัวในฮ่องกง

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญที่คนฮ่องกงและทั่วโลกจับตาอย่างมากคือ การผลักดันกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของจีน ซึ่งมีกฎห้ามการทำกิจกรรมที่เป็นการบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยจีน และสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนในฮ่องกง

 

หลี่กล่าวว่า รัฐบาลจีนจะใช้หลักการหนึ่งประเทศสองระบบอย่างถูกต้อง รวมถึงส่งเสริมหลักการที่ให้คนฮ่องกงปกครองฮ่องกงเอง

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเห็นว่าจีนควรสร้างระบบกฎหมายและกลไกบังคับกฎหมายที่เข้มแข็ง สำหรับปกป้องความมั่นคงของชาติในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งกฎหมายใหม่นี้ยังมุ่งป้องกันการแทรกแซงจากต่างชาติด้วย

 

คาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะผ่านการโหวตเห็นชอบจากสภาประชาชน หรือ NPC ในวันปิดการประชุมวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ จากนั้นจะผ่านเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของคณะกรรมการประจำ NPC ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติสูงสุด โดยคาดว่าจะประกาศบังคับใช้กฎหมายได้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน และบัญญัติลงในธรรมนูญและกฎหมายพื้นฐาน (Basic Law) ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

 

ต่อต้านการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน

หลี่เค่อเฉียงประกาศต่อสภาว่า รัฐบาลจีนคัดค้านกิจกรรมการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน พร้อมเรียกร้องให้กระชับความสัมพันธ์กับไทเป เพื่อก้าวไปสู่การรวมชาติอย่างสันติในอนาคต

 

คำกล่าวของหลี่มีขึ้นหลังประธานาธิบดีไช่อิงเหวินของไต้หวันได้ประกาศย้ำในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ว่า ไต้หวันจะไม่ยอมเป็นส่วนหนึ่งของจีนภายใต้หลักการหนึ่งประเทศสองระบบ เพื่อทำลายสถานภาพที่เป็นอยู่ของไต้หวันอย่างแน่นอน

 

ไต้หวันยังเรียกร้องให้จีนหันมาเจรจาเพื่อหาหนทางอยู่ร่วมกันในระยะยาว และป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งเลวร้ายลง 

 

เพิ่มงบกลาโหม 6.6% 

ในที่ประชุมรัฐบาลเสนอเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็น 1.27 ล้านล้านหยวนในปี 2020 หรือเพิ่มขึ้น 6.6% จากปี 2019 แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะหดตัวลง 6.8% ในไตรมาสแรกของปีนี้ก็ตาม

 

ในช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา จีนเพิ่มงบการทหารอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขในปีนี้สูงกว่างบกลาโหมในปี 1999 (1.07 แสนล้านหยวน) ถึงกว่า 12 เท่า

 

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มงบ 6.6% ในปีนี้ถือเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 20 ปี และยังอยู่ในกรอบไม่เกิน 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)

 

หั่นงบวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี 9% แต่เพิ่มงบ R&D  

รัฐบาลจะลดงบประมาณในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลง 9% ในปีนี้ สืบเนื่องจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 

 

อย่างไรก็ตาม ในร่างงบประมาณที่เสนอโดยกระทรวงการคลังจีนระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะเพิ่มการลงทุนกว่า 3% เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายโดยรวมของประเทศในด้านการวิจัยและพัฒนา

 

นักวิเคราะห์นโยบายวิทยาศาสตร์ของจีนมองว่า งบประมาณด้าน R&D ในปีนี้บ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรม แม้อยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากก็ตาม

 

และนี่คือไฮไลต์เด่นๆ ในที่ประชุม NPC วันแรก ซึ่งหลังจากนี้ยังมีประเด็นน่าจับตาให้เกาะติดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมติเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง ซึ่งคาดว่าอาจเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้เกิดความขัดแย้งตามมา 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: 

 


 
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum
 
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising