วันนี้ (15 สิงหาคม) เวลา 09.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์พายุโซนร้อน ‘มู่หลาน’ ที่ส่งผลกระทบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่วันที่ 11-15 สิงหาคมที่ผ่านมา จนเกิดอุทกภัยในพื้นที่รวม 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, พะเยา, น่าน, ลำปาง, แพร่, พิษณุโลก, นครพนม, เลย และปราจีนบุรี รวม 35 อำเภอ 117 ตำบล 623 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,965 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (เชียงราย)
ปัจจุบันยังคงมีอุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน และปราจีนบุรี รวม 20 อำเภอ 83 ตำบล 465 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,088 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำลดลง ดังนี้
- เชียงราย ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่จัน อำเภอแม่สาย อำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอเชียงแสน รวม 8 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,672 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
- น่าน ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าวังผา อำเภอภูเพียง และอำเภอเวียงสา รวม 13 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,116 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่ยังคงเฝ้าระวังในเขตพื้นที่อำเภอเมืองน่าน
- ปราจีนบุรี เกิดน้ำไหลหากเข้าท่วมพื้นที่ตำบลวังตะเคียน อำเภอกบินทร์บุรี ส่งผลให้น้ำกัดเซาะถนนในหมู่บ้านขาด ไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการซ่อมแซมเส้นทางจนสามารถใช้สัญจรได้ตามปกติแล้ว
นอกจากนี้ จากสถานการณ์ฝนตกหนักในภาคเหนือ ทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณระหว่าง 1,400-1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นในอัตรา 1,000-1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.20-0.60 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง, คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, ตำบลลาดชิด และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 1 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งจากการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาในพื้นที่อำเภอเสนา (ตำบลหัวเวียง, บ้านกระทุ่ม, บ้านโพธิ์, บ้านแพน, รางจระเข้, เสนา) อำเภอผักไห่ (ตำบลบ้านใหญ่, ลาดชิด, กุฎี, ท่าดินแดง, ผักไห่) และอำเภอบางบาล (ตำบลวัดตะกู, บ้านคลัง, ทางช้าง, น้ำเต้า) ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,276 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งพื้นที่ที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว จะได้เร่งสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป