×

MSCI อาจถอด ‘หุ้นรัสเซีย’ ออกจากดัชนีตลาดเกิดใหม่ ลุ้นหุ้น ‘บิ๊กแคป’ ไทยรับอานิสงส์ทางอ้อม

01.03.2022
  • LOADING...
MSCI

MSCI บริษัทจัดทำดัชนีอ้างอิงยักษ์ใหญ่ของโลก ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินทั้งในส่วนของความสามารถในการเข้าถึงและศักยภาพในการเข้าลงทุนในหุ้นรัสเซีย รวมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนร่วมในตลาดเกี่ยวกับการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI ของรัสเซีย 

 

ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมีโอกาสทั้งในส่วนของการปรับให้ดัชนี MSCI หุ้นรัสเซียที่เดิมรวมอยู่ในตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets) ไปเป็นตลาดหุ้นเฉพาะตัว (Standalone Markets) 

 

ทั้งนี้ MSCI บอกว่าจะประกาศผลการตัดสินใจภายในสัปดาห์นี้

 

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ และเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นจากประกาศของ MSCI ฉบับล่าสุด ซึ่งมีรายละเอียดที่ชัดเจนขึ้นมาก โดยเฉพาะการสำรวจความเห็นของนักลงทุนที่มีต่อดัชนีตลาดหุ้นรัสเซีย 

 

ปัจจุบันตลาดหุ้นรัสเซียเข้าข่ายว่าประสบปัญหาในเรื่องของการเข้าถึง ไม่ว่าจะเป็นผลจากมาตรการแทรกแซง มาตรการห้ามนักลงทุนต่างชาติขายหุ้น การสั่งหยุดพักตลาดหุ้น รวมไปถึงการที่ธนาคารพาณิชย์รัสเซียถูกถอดออกจากระบบ SWIFT และความยากลำบากในการแปลงค่าเงินรูเบิลเป็นสกุลเงินอื่นๆ 

 

ณัฐชาตกล่าวต่อว่า ปัจจัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวขึ้นได้เป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (1 มีนาคม) รับความคาดหวังว่าเม็ดเงินลงทุนที่เคยกระจายในหุ้นรัสเซียอาจจะกระจายไปยังประเทศอื่นๆ แทน รวมถึงตลาดหุ้นไทย

 

โดยดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,997.88 จุด เพิ่มขึ้น 12.80 จุด หรือ 0.76% มูลค่าการซื้อขายรวม 4.78 หมื่นล้านบาท

 

ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน ดัชนีตลาดหุ้นรัสเซียมีน้ำหนัก 2.2% อยู่ใน MSCI Emerging Markets การถอดรัสเซียออกจาก EM จะส่งประโยชน์กับประเทศที่มีน้ำหนักมากใน EM ก่อน ได้แก่ จีน ไต้หวัน อินเดีย เกาหลีใต้ และบราซิล ส่วนตลาดหุ้นไทยอยู่ในอันดับ 10 มีน้ำหนัก 1.85% ทำให้ผลกระทบในแง่เม็ดเงินลงทุนที่จะไหลเข้าอาจไม่มากนัก

 

“จากการวิเคราะห์เบื้องต้น น้ำหนักของหุ้นไทยอาจเพิ่มจาก 1.85% มาเป็น 1.89% เมื่ออิงกับเม็ดเงินลงทุนรวมของกองทุนที่ Tracking ดัชนี MSCI EM ในเวลานี้ จำนวน 3.5 แสนล้านดอลลาร์ การที่น้ำหนักหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 0.04% จะเท่ากับ 140 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4.6 พันล้านบาท ซึ่งก็อาจจะไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงก็คงเป็นบวกมากกว่าเป็นลบ”

 

ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์สูงสุดจะเป็นหุ้นที่มีน้ำหนักใน MSCI Thailand สูง ได้แก่ CPALL, PTT, SCC, ADVANC และ AOT 

 

“ส่วนตัวมองว่าเป็นไปได้มากที่กรณีนี้จะเกิดขึ้น อิงจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่ง MSCI ให้น้ำหนักอย่างมากกับเรื่องของ Accessibility และ Investability อะไรก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนสถาบันทั่วโลก MSCI พร้อมจะปรับ เพราะสถาบันเหล่านี้คือลูกค้าโดยตรง หากลงทุนไม่ได้และผลประกอบการถูกบิดเบือน MSCI มักจะจัดการอย่างรวดเร็ว” 

 

ด้าน สรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันมูลค่าของ MSCI EM อยู่ที่ประมาณ 9 แสนล้านดอลลาร์ หากมีการถอดถอนหุ้นรัสเซียออกไปจริง จะมีเม็ดเงินของรัสเซียออกมามากกว่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ 

 

“ส่วนจะขายจริงหรือไม่ และหากขายจริงจะขายเมื่อไร อันนี้ยังไม่มีใครทราบ”

 

ทั้งนี้ตลาดหุ้น EM แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ อเมริกาใต้, ยุโรป-ตะวันออกกลาง-แอฟริกา และเอเชีย ซึ่งหากเงินทุนจากรัสเซียไหลกระจายออกไปทั้ง 3 ส่วนนี้ ตลาดหุ้นไทยก็อาจจะได้ประโยชน์ทางอ้อม 

 

สำหรับตลาดหุ้นรัสเซียมีกลุ่มอุตสาหกรรมหลักคือพลังงาน 51% รองลงมาคือการเงิน 20% 

 

“กรณีนี้เรามองได้หลายมุม นักลงทุนอาจจะปรับพอร์ตอยู่เฉพาะใน EMEA หรือ Across the Board หรืออีกกรณีคือมองในมิติของกลุ่มอุตสาหกรรม โดยอาจจะมองหาประเทศที่มีกลุ่มพลังงานคล้ายๆ กัน เช่น ซาอุดีอาระเบีย” 

 

ส่วนประเทศไทย ปัจจุบันกลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน ได้แก่ ค้าปลีก 14%, พลังงาน 14%, วัสดุ 14% และสาธารณูปโภค 10% 

 

“เราคงไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงและมีการกระจายเงินเข้ามาในหุ้นไทย ก็คงจะอยู่ในหุ้นกลุ่มท็อป 10 ของ MSCI”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising