ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนและเพื่อน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ อีกจำนวนหนึ่ง กำลังรวบรวมข้อมูลการถือครองหุ้นของ ส.ส. ฝ่ายค้าน 7 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคพลังปวงชนไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคเพื่อชาติ และพรรคประชาชาติ ที่มีชื่อเป็นผู้ถือครองหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการประเภทหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชน เพื่อทำคำร้องยื่นต่อ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เข้าข่ายขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ห้ามผู้สมัคร ส.ส. เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ โดยเบื้องต้นตรวจสอบรายชื่อ ส.ส. ฝ่ายค้านแล้วพบว่า เข้าข่ายดังกล่าวประมาณ 20 คนขึ้นไป
ทั้งนี้ กรณีที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ได้ร่วมกันยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ ส.ส. 41 คนของฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ตนเห็นว่า ควรจะต้องตรวจสอบ ส.ส. ที่มีชื่อเป็นผู้ถือครองหุ้นในลักษณะเดียวกันให้ครบทุกพรรค เพื่อความชัดเจนและปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่เลือกตรวจสอบแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเหมือนที่พรรคอนาคตใหม่ทำ เพราะหากดูจากรายชื่อ ส.ส. ที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นตรวจสอบ ล้วนเป็น ส.ส. ในฝั่งของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ปรากฏชื่อ ส.ส. ของฝั่ง 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ดังนั้น จึงอยากจะยกคำกล่าวของ สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ว่าที่เลขาธิการประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเคยบอกกับ รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ขึ้นมาเตือนสติอีกสักครั้งว่า ถ้าอยากเป็น ส.ส. ที่ดี การตรวจสอบไม่ควรเลือกปฏิบัติ
ชัยวุฒิคาดว่า จะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดประกอบคำร้องและลงชื่อร่วมกับ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลให้ครบ 50 คน และยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรภายในสัปดาห์นี้ เพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
ภาพ: พรรคพลังประชารัฐ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล