×

สธ. แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่ม 2 ราย เป็นผู้ใกล้ชิดหญิงชาวฝรั่งเศสที่ตรวจพบเชื้อก่อนหน้านี้

โดย THE STANDARD TEAM
27.10.2020
  • LOADING...
พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่ม 2 ราย เป็นผู้ใกล้ชิดหญิงชาวฝรั่งเศส

วันนี้ (27 ตุลาคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีหญิงสัญชาติฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ป่วยโรคโควิด-19 ที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

โดย นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับกรณีหญิงฝรั่งเศสที่เกาะสมุย สถานการณ์ถือว่าอยู่ในระดับควบคุมได้ แต่มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อ 2 คน ในสถานกักกันโรค Alternative State Quarantine ที่จังหวัดสมุทรปราการ รายแรกเป็นชาวเอเชีย เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา และตรวจพบเชื้อวันที่ 19 ตุลาคม อีกรายเป็นผู้ป่วยชายชาวยุโรป ตรวจพบเชื้อวันที่ 15 ตุลาคม ทำให้ตอนนี้สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการต้องปิดรับผู้กักกันรายใหม่ชั่วคราว

 

ทั้งนี้ นพ.โอภาส ย้ำว่าจากกรณีดังกล่าวจะไม่มีการแพร่กระจายโรค เนื่องจากผู้ป่วยมีสุขอนามัยที่ดี สวมหน้ากากตลอดเวลา ส่วนผู้ใกล้ชิดอย่างสามีและลูกชาย ไม่พบการติดเชื้อ ขณะที่โรงพยาบาลดำเนินการเฝ้าระวังการติดเชื้ออย่างดี ประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากากเพิ่มขึ้นเป็น 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งพิจารณาตามหลักการประเมิน Outbreak Impact Risk คือ ตัวผู้ป่วย เชื้อโรค สิ่งแวดล้อม มาตรการควบคุมโรคในพื้นที่ และมาตรการที่ประชาชนร่วมมือ

 

ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยยังคงเข้ารักษาอยู่ในห้องแยกโรค โรงพยาบาลเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่มีไข้และไม่มีอาการเหนื่อย แต่ยังมีอาการไอ ทีมแพทย์ได้ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด

 

สำหรับการสอบสวนโรคในผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้มี 126 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 46 ราย เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อแล้ว 28 ราย ผลเป็นลบหรือไม่ติดเชื้อ 27 ราย รอผล 1 ราย และอยู่ระหว่างติดตามและเก็บตัวอย่าง 18 ราย ดังนี้ 

  1. บุคคลครอบครัวเดียวกัน 2 ราย คือ สามีและลูกชาย ผลเป็นลบ ครบกำหนดติดตามวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563
  2. ผู้สัมผัสในชุมชน 30 ราย ได้แก่ เพื่อน 1 ราย ผลเป็นลบ ครบกำหนดติดตามวันที่ 29 ตุลาคม 2563 พนักงานร้านนวด 6 ราย ผลเป็นลบทุกราย ครบกำหนดติดตามวันที่ 31 ตุลาคม 2563 และในบาร์ 23 ราย เป็นเจ้าของ 2 ราย พนักงาน 3 ราย เพื่อน 2 ราย และผู้ที่สัมผัส 16 ราย ผลเป็นลบแล้ว 7 ราย อยู่ระหว่างติดตาม 16 ราย ครบกำหนดติดตามวันที่ 28 ตุลาคม 2563
  3. เที่ยวบินเดียวกัน 12 ราย เป็นผู้โดยสาร 10 ราย พบมีอาการป่วย 1 ราย ผลเป็นลบแล้ว 9 รายรวมถึงผู้ที่มีอาการป่วย และอยู่ระหว่างรอผล 1 ราย พนักงานบนเครื่อง 2 ราย ผลเป็นลบ จะครบกำหนดติดตามวันที่ 29 ตุลาคม 2563 
  4. คนขับรถแท็กซี่ 2 ราย จากสถานกักกันทางเลือกไปสถานทูตฝรั่งเศส 1 ราย และจากสถานทูตฝรั่งเศสไปสนามบิน 1 ราย อยู่ระหว่างการติดตาม โดยจะครบกำหนดติดตามวันที่ 29 ตุลาคม 2563

 

ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 80 ราย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่สนามบิน 29 ราย เที่ยวบินเดียวกัน 23 ราย จะครบกำหนดติดตามวันที่ 29 ตุลาคม 2563 และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล 28 ราย จะครบกำหนดติดตามวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 โดยทุกรายไม่มีอาการ ได้แนะนำให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่ที่มีคนรวมกันจำนวนมาก และสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

 

ทั้งนี้ ในสถานที่กักกันทางเลือก (ASQ) จังหวัดสมุทรปราการ ที่ผู้ป่วยรายดังกล่าวเข้ารับการกักกันโรคระยะเวลา 14 วันตามมาตรการของประเทศไทย ได้เก็บตัวอย่างจากพนักงานในสถานที่กักกันจำนวน 67 ราย ผลไม่พบเชื้อ และภูมิคุ้มกัน (Antibodies) เป็นลบ ซึ่งนโยบายการดำเนินงานในสถานที่กักกันจะเน้นความปลอดภัยของผู้ถูกกักกันและผู้ปฏิบัติงาน มีระบบควบคุมกำกับและตรวจสอบมาตรฐานเข้มงวด ไม่ให้ออกจากสถานที่กักกันก่อนครบกำหนด 14 วัน รวมถึงมีการทำความสะอาด Big Cleaning สุ่มตรวจซ้ำอย่างต่อเนื่อง และติดตามเฝ้าระวังผู้ถูกกักกันตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2563

 

นพ.โสภณยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องจนครบกระบวนการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนชาวไทย ทั้งนี้ การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศมีโอกาสเป็นไปได้ แต่การพบผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสให้ได้โดยเร็ว และควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดจะสามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้

 

ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชน ชุมชน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีความสำคัญในการควบคุมสถานการณ์เป็นอย่างยิ่ง ดังกรณีที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชาชนให้ความร่วมมือใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะกว่าร้อยละ 80 ทำให้ลดโอกาสการเกิดการระบาดของโรค รวมถึงมาตรการเฝ้าระวังชุมชนโดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำโรงแรม (อสร.) เป็นผลให้ควบคุมการระบาดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนการเปิดประเทศ เปิดเศรษฐกิจให้กว้างขวางขึ้นอย่างปลอดภัย สร้างสมดุลระหว่างสุขภาพ วิถีชีวิต วิถีทางสังคม และเศรษฐกิจ

 

กระทรวงสาธารณสุขขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยที่มีระบบเข้มแข็ง และขอให้ทุกคนยังคงดูแลป้องกันตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องเช่นเดิม “สวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง ลดแออัด” จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยได้ หากพบผู้ติดเชื้อ กระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปดำเนินการทันที สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising