×

ก้าวไกลโต้แย้งหลักฐานคดียุบพรรค หวังศาลรัฐธรรมนูญเปิดไต่สวน

โดย THE STANDARD TEAM
16.07.2024
  • LOADING...
ยุบพรรค

วันนี้ (16 กรกฎาคม) ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรค ก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าคดียุบพรรคก้าวไกล ภายหลังสองฝ่ายทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้อง ได้ตรวจพยานหลักฐานแล้ว

 

ชัยธวัชแถลงว่า วันนี้พรรคก้าวไกลได้ส่งทีมกฎหมายไปส่งเอกสารคำร้องสองฉบับต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยทั้งสองคำร้องนี้เป็นคำร้องเพื่อโต้แย้งหรือโต้เถียงพยานหลักฐานที่มีการตรวจเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วนสำคัญ

 

ส่วนแรก ‘หมาย ร.’ เป็นการโต้แย้งหรือโต้เถียงพยานหลักฐานของผู้ร้อง หรือ กกต. ที่ยื่นคำร้องในสำนวน เนื่องจากเมื่อตรวจเอกสารหลักฐานของ กกต. แล้วพบว่ากระบวนการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคในคดีนี้เป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายอย่างชัดเจน จึงมีการแย้งไปเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดการไต่สวนในประเด็นที่เราโต้แย้ง รวมถึงเรียกพยานเข้าไต่สวนตามประเด็นที่ได้โต้แย้ง ทั้งตนเอง และ ศ. ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายมหาชน

 

และส่วนที่สอง ‘หมาย ศ.’ เป็นการโต้แย้งหรือโต้เถียงพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้นำเข้ามาสู่สำนวน คือเอกสารที่เคยถูกใช้ในคดีก่อนหน้านี้ หรือในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พรรคก้าวไกลและ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยุติการกระทำจากคดีก่อนหน้านี้ ปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีการไต่สวนในข้อเท็จจริงที่อ้างถึงพยานหลักฐานและเอกสารดังกล่าวเลย ซึ่งทำให้พรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสที่จะต่อสู้ในแง่ข้อเท็จจริงที่ถูกระบุในเอกสารเหล่านี้

 

ดังนั้นเมื่อคดีก่อนหน้านี้เราขาดโอกาส โดยเป็นการฟังความข้างเดียว และเป็นเอกสารที่มาจากหน่วยงานความมั่นคง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่เป็นการกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลมีความเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในหลายกรณี พรรคจึงได้โต้แย้ง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับฟังพยานหลักฐานเอกสารที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง แต่เป็นเพียงความเห็นหรือการให้ข้อเท็จจริงที่เป็นเท็จ รวมถึงขอให้การมีการไต่สวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่มีการถูกกล่าวอ้างในเอกสารด้วย

 

กกต. ส่งเรื่องแบบ Fast Track

 

ชัยธวัชยังได้ลำดับเหตุการณ์ตามลำดับเวลาตั้งแต่การถูกยื่นร้องกรณีพรรคก้าวไกลกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อเกิดกรณีที่ กกต. โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่าเข้ากรณีที่ กกต. มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลกระทำการขัดต่อมาตรา 92 ก็มีการดำเนินการไปรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานตามมาตรา 93 และระเบียบของ กกต. มาโดยตลอด และยังดำเนินการไม่เสร็จด้วย

 

แต่พอถึงวันที่มีการอนุมัติให้ขยายเวลาคณะกรรมการที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวมพยานข้อเท็จจริงและหลักฐานในวันเดียวกันนั้น อยู่ดีๆ ก่อนหน้าวันที่ 12 มีนาคม กลับมีการดำเนินการให้ร่างคำร้องยุบพรรคโดยไม่สนใจการรวบรวมพยานหลักฐานข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้สนใจที่จะรอฟังการนำเสนอรายงานของคณะกรรมการวิเคราะห์และศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ถูกตั้งขึ้นมา ที่มีการนัดให้นำเสนอในวันที่ 12 มีนาคม ซึ่งเมื่อมีการนำเสนอแล้วก็สั่งให้ยุบพรรคทันที และอนุมัติคำร้องที่ถูกแก้ไขแล้วในวันเดียวกัน

 

พร้อมกันนั้นนายทะเบียนพรรคการเมืองก็ยังสั่งให้ยุติการสอบสวนที่ไม่มีเหตุตามระเบียบของ กกต. สวนทางกับข้อกล่าวอ้างของ กกต. ว่า มาตรา 92 และ 93 สามารถดำเนินการโดยเอกเทศกันได้

 

ส่วนจะมีการฟ้องร้องหรือแจ้งมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อ กกต. หรือไม่ ชัยธวัชกล่าวว่า ยังไม่ใช่ประเด็น ในตอนนี้เราต้องโต้แย้งและค้าน เพื่อให้ศาลมีการเปิดไต่สวน

 

ชัยธวัชกล่าวด้วยว่า ตามกฎหมาย ศาลรัฐธรรมนูญมีดุลพินิจที่จะเปิดไต่สวนหรือไม่ก็ได้ จะไต่สวนอย่างไรก็ได้ หรือจะเรียกพยานคนไหนก็ได้ เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญโดยเบ็ดเสร็จ เพียงแต่เราหวังว่าเพื่อให้การพิจารณาคดีในครั้งนี้ ซึ่งมีโทษรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิตพรรคการเมือง ควรจะมีการไต่สวนข้อเท็จจริง รวมถึงโต้เถียงโต้แย้งกันในข้อกฎหมายอย่างเต็มที่รอบด้านสมบูรณ์ถึงที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และให้ได้สัดส่วนกับข้อกล่าวหาที่มีโทษถึงขั้นยุบพรรคและตัดสินกรรมการบริหารพรรค แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่ดำเนินการไต่สวน เราก็ทำอะไรไม่ได้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X