วันนี้ (22 มิถุนายน) ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วาระแรก ตลอด 3 วันที่ผ่านมาว่า สส. ทำหน้าที่ได้ดี มีคุณภาพ ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็ถือเป็นที่น่าพอใจ เพราะไม่ใช่การวิพากษ์วิจารณ์เพียงอย่างเดียว แต่มองเห็นว่าประเด็นสำคัญของประเทศควรจะมีวาระอะไรบ้าง และมีข้อเสนอควบคู่ไปกับการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นทิศทางที่พรรคก้าวไกลให้ไว้ว่าจะต้องเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ไม่ใช่ค้านอย่างเดียว แต่ต้องมีข้อเสนอเชิงนโยบายเปรียบเทียบที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน
ชัยธวัชกล่าวว่า รัฐบาลก็มีส่วนทำให้บรรยากาศและเนื้อหาในการอภิปรายเป็นประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น โต้แย้งกันด้วยเหตุด้วยผลและข้อมูล เพราะมองว่าจะส่งผลดีกับประชาชน
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยก็ยังออกมาพูดว่า ฝ่ายค้านยังใช้วาทกรรมในการอภิปราย ก็คงจะเป็นฝ่ายค้านไปตลอดชีวิต ชัยธวัชกล่าวว่า “เรายังเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า เราจะเป็นรัฐบาลได้”
ให้คะแนนอภิปราย 8 เต็ม 10
เมื่อถามว่า ให้คะแนนพรรคฝ่ายค้านในการอภิปรายเท่าไร ชัยธวัชกล่าวว่า ก็คงจะ 8 เต็ม 10 และยังสามารถทำดีกว่านี้ได้อีก ส่วนมองเห็นใครเป็นดาวดวงใหม่ในสภา ตนมองว่าก็มีหลายคนที่สื่อมวลชนหรือประชาชนได้รู้จักจากการอภิปรายในครั้งนี้ และยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ฟัง คงต้องรอการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือวาระสำคัญในช่วงสภาเปิด ส่วนอีก 2 คะแนน ตนคิดว่าถ้าเราทำงานหนักกว่านี้ มีข้อมูลหนักแน่น และผลักดันนโยบายที่ควรจะลงลึกในรายละเอียด ก็สามารถดีขึ้นกว่านี้ได้อีก
“หลายคนทำได้ดีมากแล้วในการอภิปรายครั้งนี้ เพราะมีการลงรายละเอียด ไม่ได้พูดแค่ตัวเลขกว้างๆ คำพูดใหญ่ๆ ซึ่งครั้งนี้ลงรายละเอียดทุกคน แต่หลายคนทำดีได้มากกว่านั้นอีก สามารถมีข้อเสนอด้วยซ้ำ” ชัยธวัชกล่าว
‘วีระ ธีรภัทร’ นั่ง กมธ.งบประมาณ สัดส่วนก้าวไกล
เมื่อถามว่า กรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณปี 2568 มีชื่อของ วีระ ธีรภัทร นักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ ในสัดส่วนพรรคก้าวไกลด้วยนั้น ชัยธวัชกล่าวว่า พรรคคงเห็นว่าแม้จะเป็นสื่อมวลชน แต่ก็เป็นสื่อมวลชนที่มีความสนใจเรื่องมิติเศรษฐกิจและงบประมาณ โดยเอาเนื้อหาเป็นหลัก ทำงานอย่างมีคุณภาพ เราก็น่าจะชวนมาร่วมในกรรมาธิการด้วย ซึ่งตนเองก็คิดว่าเป็นมิติใหม่ที่น่าสนใจที่มีสื่อมวลชนสามารถมีบทบาทและถ่ายทอดเนื้อหา เพราะถือว่ามีประสบการณ์โดยตรง
เมื่อถามว่าไปจีบวีระอย่างไรนั้น ชัยธวัชกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกรรมการกิจการสภาของพรรคในการสรุปรายชื่อ ไม่ได้มีแค่ตนเอง จึงไม่สามารถตอบรายละเอียดได้เยอะ เพราะไม่ใช่คนประสานงาน แต่ยืนยันว่าไม่มีการต่อรองผลประโยชน์
“อาจารย์วีระเองก็เคยเอ่ยปากออกอากาศว่าสนใจ และหากมีพรรคการเมืองไหนมีประโยชน์ในการร่วมพิจารณางบประมาณด้วย ท่านก็ยินดี จึงคิดว่าน่าสนใจ เป็นมิติใหม่ๆ อย่าไปมองว่าอาจารย์วีระเป็นสื่อมวลชนอย่างเดียว ท่านก็มีบทบาทในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ท่านก็มีบทบาทในฐานะคนที่สนใจเศรษฐกิจ” ชัยธวัชกล่าว
บทเรียน ไอซ์ รักชนก
เมื่อถามว่า ในการอภิปรายวันสุดท้าย มีดราม่าเรื่อง รักชนก ศรีนอก สส. กทม. พรรคก้าวไกล กรณีที่ออกมาโวยก่อนอภิปรายว่าสภาไม่ยอมให้ขึ้นรูปนายกรัฐมนตรีนั้น มองอย่างไร ชัยธวัชกล่าวว่า ก็ต้องยอมรับว่าเป็นความเข้าใจผิดของรักชนกว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐบาล ซึ่ง ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา ก็ได้ชี้แจงชัดเจนแล้ว พร้อมยอมรับว่าดราม่าดังกล่าวนี้เป็นการกลบเนื้อหาในการอภิปราย ซึ่งถือเป็นบทเรียนของรักชนก เรื่องนี้ทำให้เกิดการเบี่ยงเบนเนื้อหาสาระ เพราะตนมองว่าเนื้อหาดีมาก สามารถอภิปรายข้อเสนอในการปฏิรูประบบงบประมาณของไทยในรูปแบบที่คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย
“จริงๆ ก็อยากให้มาฟังข้อเสนอในการอภิปรายของคุณไอซ์มากกว่าจะเป็นเรื่องดราม่าตรงนั้น” ชัยธวัชกล่าว
ทั้งนี้ ชัยธวัชยังชี้แจงว่า เมื่อวานนี้น่าจะมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องการไปยื่นศาลให้ตรวจสอบนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต โดยเมื่อวานนี้ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ถ้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีปัญหาและชัดเจนว่าผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง อาจไปยื่นศาลปกครองได้ ซึ่งจะต้องดูรายละเอียดหลังจากนี้ก่อนว่าการพยายามที่จะผลักดันโครงการนี้สุ่มเสี่ยงหรือผิดกฎหมายหรือไม่ โดยต้องย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับศาลรัฐธรรมนูญ
