ในช่วงปีที่ผ่านมา ดูเหมือนอาหารจีนจะได้รับความนิยมในหมู่นักชิมคนไทยมากขึ้นจริงๆ ทำให้ไม่ว่าจะมีร้านหรือห้องอาหารเปิดใหม่ที่ไหน ทุกคนก็พร้อมใจจองคิวกันจนยาวเหยียด เช่นเดียวกับห้องอาหารจีนแห่งใหม่ล่าสุดที่เปิดอยู่ในโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก ‘Mott 32’ ร้านอาหารจีนโมเดิร์นต้นตำรับจากฮ่องกง ที่พร้อมนำทุกรสชาติและเมนูซิกเนเจอร์มาเสิร์ฟให้คนไทยชิมแล้วที่นี่
ห้องอาหารเปิดอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรม เมื่อขึ้นมาถึงทุกคนจะพบเคาน์เตอร์บาร์สำหรับนั่งดื่มเป็นอันดับแรก และหากสังเกตการตกแต่งจะมีกลิ่นอายแบบจีนทันสมัยชัดเจนมาก ด้วยการหยิบวัสดุที่มีเอกลักษณ์ดั้งเดิมมาผสมผสานใหม่ ส่วนที่นั่งก็มีหลายมุม ทั้งแบบโต๊ะเล็กสำหรับมาเป็นคู่ โต๊ะยาวสำหรับมาเป็นกลุ่ม หรือบริเวณด้านในสุดที่มีการตกแต่งเชื่อมกันกับบาร์เครื่องดื่ม ซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนจะไม่อยากพลาดแวะเก็บภาพมุมนี้
เมื่อขึ้นมาถึงทุกคนจะพบเคาน์เตอร์บาร์สำหรับนั่งดื่มเป็นอันดับแรก
บริเวณด้านในสุดที่มีการตกแต่งเชื่อมกับบาร์เครื่องดื่ม
อย่างที่บอกว่าทุกเมนูเขาตั้งใจยกรสชาติจากฮ่องกงมาเสิร์ฟให้ชิม ‘เชฟลีแมนซิง’ พ่อครัวใหญ่จากฮ่องกงผู้ดูแลอาหารของ Mott 32 ทุกสาขา จึงบินมาถ่ายทอดเคล็ดลับการปรุงอาหารทุกจานให้กับทีมครัวประเทศไทยด้วยตัวเอง โดยมี ‘เชฟฮานหลงฮัว’ Executive เชฟประจำ Mott 32 Bangkok เป็นผู้นำทีมอีกที ซึ่งเชฟพูดไทยได้ชัดมาก
ห้องอาหารเปิดทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น มีความต่างกันตรงเมนูติ่มซำที่ตอนกลางวันมีตัวเลือกให้มากกว่า ทว่ามื้อเย็นก็ยังมีเมนูแนะนำให้สั่งอยู่บ้าง โดยสไตล์อาหารของที่นี่จะมีกลิ่นอายทั้งกวางตุ้ง ปักกิ่ง และเสฉวน เสิร์ฟในรูปแบบสมัยใหม่ และมีความดั้งเดิมผสมในสไตล์ Mott 32
เสี่ยวหลงเปาซุปเสฉวน (4 ชิ้น 160 บาท) และซาลาเปาหมูแดง (3 ลูก 220 บาท)
เมนูที่เราได้ชิมและอยากแนะนำให้สั่งก็เริ่มตั้งแต่ของกินเล่น ขนมจีบหมูไส้ไข่นกกระทาและทรัฟเฟิล (2 ลูก 160 บาท) มีความพิเศษตรงเมื่อกัดเจอไข่ด้านในจะยังคงไหลเยิ้มเป็นลาวา แถมหอมกลิ่นทรัฟเฟิลตั้งแต่นำมาเสิร์ฟด้วย ซาลาเปาหมูแดง (3 ลูก 220 บาท) ก็แปลกใหม่ดี เพราะเสิร์ฟแบบผิวเคลือบน้ำตาลกรอบๆ เหมือนขนม ส่วนไส้ด้านในใช้หมูไอเบริโก ความหวานจึงมี 2 รสชาติจากด้านนอกและด้านใน
เสี่ยวหลงเปาซุปเสฉวน (4 ชิ้น 160 บาท) จานนี้เราชอบเป็นส่วนตัว เพราะซุปด้านในมีรสเผ็ดนิดๆ สไตล์เสฉวน อีกทั้งเชฟเปลี่ยนจากไส้หมูทั่วๆ ไปมาเป็นสแกลลอปกับกุ้งแทน เพื่อให้คนไม่กินหมูกินได้ด้วย
หอยเป๋าฮื้อทอดกรอบ (1,380 บาท)
หมูไอเบริโกบาร์บีคิว (1,680 บาท)
ของกินเล่นอีกหนึ่ง หอยเป๋าฮื้อทอดกรอบ (1,380 บาท) จานหนึ่งเสิร์ฟมา 4 ตัวใหญ่ๆ ให้กินแบบเต็มปากเต็มคำ ความสุกก็กำลังดี เพราะเนื้อมีทั้งความนุ่ม แน่น คนไหนอยากลองเป๋าฮื้อเวอร์ชันนี้ดูบ้างต้องสั่ง โดยแนะนำว่าอย่าปล่อยให้เย็น
ตามมาด้วยเมนูซิกเนเจอร์ หมูไอเบริโกบาร์บีคิว (1,680 บาท) เชฟนำเนื้อหมูสเปนไปย่างน้ำผึ้งจนชุ่มฉ่ำและนุ่มลิ้น เคี้ยวแล้วได้รสชาติ แต่หากใครอยากชิมต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น เพราะในหนึ่งวันจะเสิร์ฟตอนกลางวันเพียง 10 จาน และมื้อเย็นอีก 10 จาน
เป็ดปักกิ่ง (ตัวละ 1,780 บาท)
มาถึงร้านอาหารจีนจะไม่ลอง เป็ดปักกิ่ง (ตัวละ 1,780 บาท) ก็คงมาไม่ถึง อีกทั้งเป็ดของ Mott 32 ก็มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์มาก เพราะเชฟจะนำเป็ดดรายเอจนาน 42 วัน มารมควันด้วยไม้แอปเปิ้ล ก่อนจะแล่ด้วยวิธีพิเศษของห้องอาหาร ซึ่งทำให้ทุกคนจะได้ชิมทั้งหนังและเนื้อติดหนังชิ้นหนาๆ เต็มคำ เนื้อส่วนที่เหลือเชฟจะนำไปทำอาหารจานต่อๆ ไปแบบไม่เหลือทิ้ง
สำหรับวิธีรับประทาน หนังให้โรยน้ำตาลก่อนชิม ส่วนเนื้อให้ห่อกับแผ่นแป้ง พร้อมราดซอสฮอยซิน ซึ่งพนักงานจะราดซอสงาขาวให้ ก่อนหมุนวนโชว์จนเป็นลวดลาย แนะนำให้เตรียมกล้องไว้ให้ดี
เมนูเป็ดปักกิ่งจะเสิร์ฟจำกัดต่อวัน แบ่งเป็นมื้อกลางวัน 8 ตัว และมื้อค่ำ 14 ตัว โดยเราเพิ่งรู้อีกเช่นกันว่าเชฟจำเป็นต้องใช้เป็ดจากนครปฐม เพราะไม่สามารถนำเข้าเป็ดชนิดเดียวกับสาขาต้นตำรับได้ ทำให้เมนูนี้มีความใกล้เคียงสูตรดั้งเดิม แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว
เนื้อเป็ดแล่ชิ้นหนาให้ห่อกับแผ่นแป้ง พร้อมราดซอสฮอยซินก่อนกิน
ปลาแบล็กคอดรมควัน (1,480 บาท) หรือ ปลาจินดาระ เป็นอีกเมนูซิกเนเจอร์ที่น่าลองเช่นกัน เชฟนำปลาไปทอดก่อนเคลือบซอสบาร์บีคิว เวลาเสิร์ฟจะรมควันมาให้ถึงโต๊ะ หรืออีกเมนู กระเพาะปลาเยลลี่ (480 บาท) ที่เสิร์ฟมาในรูปแบบวุ้นละลายในปาก ตรงกลางใส่กระเพาะปลามาให้เป็นชิ้นๆ กินแล้วช่วยล้างปากดีเลยทีเดียว
ปลาแบล็กคอดรมควัน (1,480 บาท) และกระเพาะปลาเยลลี่ (480 บาท)
ซุปที่นี่เสิร์ฟมาเป็นชามใหญ่ แบ่งกินได้ 3-4 คน เราได้ลองเมนู ซุปเสฉวน (1,850 บาท) ที่เชฟนำกระดูกปลาน้ำลึกมาตุ๋นจนคอลลาเจนละลายออกมาผสมในน้ำ ซุปที่ทุกคนเห็นจึงมีสีขาว รสชาติเผ็ดอ่อนๆ ให้พอซดคล่องคอ มาพร้อมเนื้อปลาและวุ้นเส้นแบนสไตล์จีน
เราแนะนำให้สั่งมากินคู่กับ ข้าวผัดล็อบสเตอร์ (2,180 บาท) ที่เป็นอีกเมนูซิกเนเจอร์ของ Mott 32 โดยต่างจากที่อื่นๆ ตรงเป็นข้าวผัดฉ่ำซอส และใช้ข้าวเม็ดเรียวเล็ก เสิร์ฟมาให้ตักชิมบนกระทะร้อนๆ พร้อมเนื้อกุ้งชิ้นโต
ซุปเสฉวน (1,850 บาท)
ข้าวผัดล็อบสเตอร์ (2,180 บาท)
จานสุดท้ายในหมวดอาหาร ก้านเคลผัดกระทะร้อน (420 บาท) เชฟทำก้านให้มีเนื้อสัมผัสกรอบแบบที่เชื่อว่าทุกคนกินได้ เพราะค่อนข้างต่างจากก้านคะน้าที่หลายคนไม่ชอบ แถมจานนี้ยังใส่หมูสับ กุ้งแห้ง และซอสสูตรพิเศษที่ช่วยให้มีรสชาติมากขึ้นด้วย เป็นจานกินง่ายๆ แต่น่าสนุก
ก้านเคลผัดกระทะร้อน (420 บาท)
ปิดท้ายด้วยของหวานที่ต้องบอกเลยว่าติดใจจนอยากกินซ้ำ เป็น ทาร์ตช็อกโกแลต (4 ชิ้น 300 บาท) ที่มาในรูปแบบโมเดิร์นสไตล์ Mott 32 ด้านล่างเป็นเนื้อมูสที่แทรกเยลลี่รสเปรี้ยวไว้ตรงกลาง ส่วนด้านบนเป็นเมล็ดสนที่ทำเป็นแผ่นกรอบๆ เวลากินให้มีทุกองค์ประกอบในหนึ่งคำ แล้วจะได้รสชาติแบบที่เชฟต้องการ โดยเมนูนี้มีเฉพาะมื้อค่ำเท่านั้น
ทาร์ตช็อกโกแลต (4 ชิ้น 300 บาท)
Hong Kong Iced Tea (380 บาท)
นอกจากอาหารก็มีเมนูค็อกเทลให้สั่งมาจิบระหว่างมื้อได้ แนะนำให้ถามพนักงานได้เลย โดยเมนูที่หากใครมาก็ต้องสั่งก็คือ Hong Kong Iced Tea (380 บาท) ที่เสิร์ฟมาในแก้วพิเศษ ดื่มแล้วมีความหอมชาและใส่เม็ดแมงลักด้วย
ถ้าใครอยากตามไปชิมอาหารที่ Mott 32 Bangkok ตอนนี้ได้ยินมาว่าหางแถวอยู่ประมาณเดือนตุลาคมเป็นต้นไป แล้วหากใครจองก็อย่าลืมบอกล่วงหน้าด้วยว่า ต้องการสั่งเมนูพิเศษจานไหน เพราะบางเมนูหมดแล้วหมดเลยจริงๆ เนื่องจากเชฟจะเตรียมวัตถุดิบแบบสดใหม่ ทำวันต่อวันตามออร์เดอร์
Mott 32 Bangkok
Open: เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.30 น. และ 18.00-22.30 น.
Address: The Standard, Bangkok Mahanakhon ชั้น 2
Budget: 1,500-3,000 บาท
Contact: 0 2085 8888
Website: www.standardhotels.com/bangkok/features/mott32-bkk
Maps: