×

Morning Brief (15 ม.ค. 2564)

15.01.2021
  • LOADING...
Morning Brief (15 ม.ค. 2564)

 

Morning Brief (15 ม.ค. 2564)

 

Goldman Sachs เชียร์หุ้นอังกฤษและเยอรมนี คาดผลตอบแทนโดดเด่นปีนี้

บริษัทวาณิชธนกิจรายใหญ่จากสหรัฐฯ ออกมาให้ความเห็นว่า ดัชนี FTSE ของอังกฤษ และ DAX ของเยอรมนี ให้ผลตอบแทนที่ไม่ดีเลยในปี 2020 แต่เชื่อว่าทั้ง 2 ดัชนี จะให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การกระจายวัคซีนที่รวดเร็วขึ้น รวมถึงมีมูลค่าที่น่าดึงดูดเมื่อเทียบกับหลายๆ ดัชนีชั้นนำทั่วโลก 

 

ARK Invest มีแผนเปิดตัว ETF ใหม่ 

บลจ. ชื่อดังผู้บริหาร ETF แบบแอ็กทีฟที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารใหญ่ที่สุด ออกมาเผยว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัว ETF ธีมใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Space Exploration ETF’ และจะมีตัวย่อว่า ARKX โดยจะลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจอวกาศอย่าง Virgin Galactic และ Maxar Technologies การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นที่จับตามองของตลาดมาก เนื่องจาก ETF ที่ชื่อว่า ARK Innovation หรือ ARKK สามารถสร้างผลตอนแทนได้ถึงกว่า 170% ในปี 2020 ทำให้ความเคลื่อนไหวของบริษัทส่งผลกระทบต่อตลาดเพิ่มมากขึ้น

 

3 ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อย นักลงทุนรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ โจ ไบเดน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ดัชนีหลักทั้ง 3 ปรับตัวลดลงกันทั้งหมด โดยดัชนี Dow Jones ปรับตัวลดลงน้อยที่สุด เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนีอย่าง Goldman Sachs และ Amgen ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี ส่วนดัชนี Nasdaq 100 ปรับตัวลดลงแรงกว่าอีก 2 ดัชนี เนื่องจากกลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าฟุ่มเฟือยเป็น 2 กลุ่มที่ปรับตัวลดลงมากที่สุด ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดตลาดและเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกแทบตลอดการซื้อขาย มาปรับตัวลดลงในช่วงชั่วโมงสุดท้ายจากแรงขาย เพื่อรอดูความชัดเจนต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ที่จะประกาศในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี ตามเวลาในสหรัฐฯ ตัวเลขผู้มาลงทะเบียนว่างงานที่สูงกว่าที่คาดไว้ค่อนข้างมากไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและตราสารหนี้มากนัก 

 

ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ 

  1. ประกาศตัวเลขดัชนีราคาส่งออก หรือ Export Price Index ประจำเดือนธันวาคม ขยายตัว 1.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้พอสมควรที่ 0.4%
    2. ประกาศตัวเลขผู้มาลงทะเบียนว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ที่ 965,000 ราย มากกว่าที่ตลาดคาดไว้พอสมควรที่ 795,000 ราย
    3. Snapchat เป็นผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์รายล่าสุดที่ออกมาประกาศว่า จะลบบัญชีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 มกราคม โดยให้เหตุผลว่า “มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดสำหรับชุมชน Snapchat ของเราในระยะยาว”

 

หุ้นจีนร่วงเฉียด 2% หลังโควิด-19 เริ่มระบาดแรงขึ้น

ตลาดหุ้นจีน CSI300 ลดลง 107.51 จุด หรือ 1.93% ดัชนีรวมหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นการปรับฐานที่ค่อนข้างแรงหลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีมากในตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่เข้ามากดดันดัชนี มาจาก 

 

  1. หุ้นปรับตัวลดลงเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า และสถาบันการเงิน มีเพียงกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้บ้าง
  2. สถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนรุนแรงขึ้น ถึงแม้ว่าตัวเลขจะยังค่อนข้างต่ำมากก็ตาม แต่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิเข้ามาต่อเนื่องที่ 790 ล้านดอลลาร์ 

 

ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ

  1. จำนวนยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ในเดือนธันวาคม 2020 ขยายตัวได้ถึง 49.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่เมื่อดูตัวเลขยอดขายของทั้งปี 2020 จำนวนยอดขายเติบโตขึ้น 10.9% เมื่อเทียบกับปี 2019 ที่ 1.37 ล้านคัน
    2. สถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนยังรุนแรงมากขึ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 138 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่ 115 ราย ตัวเลขยังดูไม่สูง แต่เป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบกว่า 5 เดือน
    3. ประกาศตัวเลขการส่งออกประจำเดือนธันวาคมขยายตัวได้ดีที่ 18.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 15.0% จากความต้องการที่สูงขึ้นทั่วโลก ด้านตัวเลขการนำเข้าขยายตัวได้ดีเช่นกันที่ 6.5% (YoY) ส่งผลให้เกินดุลการค้าที่ 78,170 ล้านดอลลาร์

 

หุ้นฮ่องกงพุ่งเกือบ 1% หลังสหรัฐฯ ยกเลิกแบน 3 บริษัทเทคฯ จากจีน

ตลาดหุ้นฮ่องกง Hang Seng เพิ่มขึ้น 261.26 จุด หรือ 0.93% ดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ค่อนข้างดี หลังจากปรับตัวลดลงเล็กน้อยในตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา สวนทางกับตลาดหุ้นจีน A-Share ที่ปรับฐานแรง ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ค่อนข้างดีมาจาก

 

  1. หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ยกเลิกการขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคฯ จีน อย่าง Tencent, Alibaba และ Baidu
  2. หุ้นในกลุ่มน้ำมันและผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มสถาบันการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวลดลงกันเป็นส่วนใหญ่

 

ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising