×

กรมควบคุมโรคยืนยัน ฉีดวัคซีน Pfizer 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันมากกว่าเข็มเดียว ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในเด็กผู้ชาย เกิด 6 ต่อ 100,000 คน หายได้เอง

โดย THE STANDARD TEAM
21.10.2021
  • LOADING...
Pfizer

วันนี้ (21 ตุลาคม) ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงว่าสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แนวโน้มผู้ป่วยหายมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้มีผู้ป่วยหาย 10,075 คน ผู้ป่วยที่มีอาการหนักก็มีจำนวนลดลงเหลือ 2,687 คน สอดคล้องกับผู้ที่มีอาการหนักมากหรือใส่ท่อช่วยหายใจขณะนี้ 603 คน ผู้เสียชีวิต 73 คน ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 9,727 คน ทั้งนี้ การระบาดของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่ต้องระวังพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งมีการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ศบค. ส่วนหน้าภาคใต้ อีกทั้งกรมควบคุมโรคได้ส่งวัคซีนล็อตแรกแล้ว 500,000 โดส ในสัปดาห์นี้จะส่งอีก 500,000 โดส เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดให้ได้รวดเร็วที่สุด สำหรับจังหวัดอื่นๆ ที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดคือ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครศรีธรรมราช ตาก ระยอง และจันทบุรี 

 

นพ.โอภาสยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดว่า วันนี้มีการฉีดวัคซีน 915,956 โดส ยอดฉีดวัคซีนสะสมอยู่ที่ 68,503,058 โดส มีผู้ได้รับวัคซีนเข็ม 1 แล้ว ร้อยละ 54.2 และฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม ร้อยละ 38 เชื่อว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเกินเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ที่ 70 ล้านโดส และจะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 100 ล้านโดส ไม่เกินต้นเดือนธันวาคมนี้

 

ทั้งนี้ ภายหลังจากการเปิดพื้นที่สีฟ้าไปแล้ว 4 จังหวัด เพื่อนำร่องการท่องเที่ยว ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง และระยะถัดมาจะเปิดอีก 16 จังหวัด ในเดือนพฤศจิกายน โดยได้ส่งวัคซีนลงไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายนจะมีวัคซีนเข้ามา 25 ล้านโดส ประกอบด้วย AstraZeneca 15 ล้านโดส และ Pfizer 10 ล้านโดส ส่วน Sinovac คาดว่าจะฉีดได้อย่างเพียงพอให้กับประชาชนภายในเดือนนี้ 

 

นพ.โอภาสกล่าวต่อไปว่า การฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนได้ดำเนินการไปตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ขณะนี้ฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนแล้ว 2 ล้านโดส สำหรับความกังวลในเรื่องของความปลอดภัยและประสิทธิภาพนั้น ในการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคพิจารณาแล้วว่า วัคซีน Pfizer ที่นำมาฉีดให้เด็กนักเรียนอายุ 12-18 ปี ต้องฉีด 2 เข็ม จึงจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่เพียงพอต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ส่วนความกังวลเรื่องการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ผู้เชี่ยวชาญได้ประชุมหารือกันพบว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลข้างเคียง แต่อาการที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างน้อย หากเทียบกับเด็กที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้วเกิดการอักเสบทั่วร่างกาย (MIS-C) รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ อาการจากโรคจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่าการฉีดวัคซีน อีกทั้งผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนมักจะหายเองได้ จึงได้แนะนำให้ฉีดวัคซีน Pfizer เข็ม 2 ในเด็กผู้ชายต่อไป โดยให้เป็นไปตามความสมัครใจ ขึ้นกับความประสงค์ของผู้ปกครองและนักเรียน รวมทั้งแนะนำให้งดออกกำลังกายหนักภายหลังได้รับวัคซีนเป็นเวลา 7 วัน หากมีภาวะใจสั่น หายใจไม่อิ่ม หอบเหนื่อย ให้รีบพบแพทย์ 

 

“เมื่อวานนี้มีกุมารแพทย์โรคหัวใจในเด็กได้สรุปเรื่องการฉีดวัคซีน Pfizer ในเด็ก ใช้คำจำง่ายๆ ว่า 3 R 

 

  1. Real การเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการฉีดวัคซีน mRNA โดยเฉพาะเข็ม 2 มีโอกาสเกิดมากขึ้นในเด็กผู้ชายอายุ 12-16 ปี

 

  1. Rare ถึงแม้ว่าจะเกิดแต่โอกาสเกิดมี 6 ต่อ 100,000 คน ถ้าเปรียบเทียบกับเด็กที่ติดเชื้อโควิดแล้วเกิดการอักเสบทั่วร่างกาย รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 

 

  1. Recovery เด็กที่เกิดผลข้างเคียงอาการจะไม่มาก เจ็บหน้าอก เหนื่อยบ้าง ไม่รุนแรง ที่ผ่านมาเจอ 3-4 ราย จะหายได้เอง

 

บางรายรักษาโดยการกินยาแก้อักเสบก็หายได้ โอกาสหายเองมีมากถึง 90% ถ้าเทียบกับการอักเสบของการติดเชื้อโควิด โอกาสหายมีแค่ 50% คณะผู้เชี่ยวชาญจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ให้ฉีด 2 เข็ม แต่ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ปกครอง” นพ.โอภาสกล่าว

 

นพ.โอภาสยังได้กล่าวถึงแนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของผู้ที่ฉีดวัคซีน Sinopharm 2 เข็ม ว่า กำหนดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นคาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนและต้นเดือนธันวาคม ทางคณะอนุกรรมการฯ ขอให้ทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ส่งเอกสารหลักฐานที่มีการศึกษาพบว่าจำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นเนื่องจากภูมิคุ้มกันลดลง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบก่อนจะพิจารณาและประกาศฉีดวัคซีนต่อไป

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising