×

สธ. ตั้งเป้าสิ้นเดือน พ.ย. ฉีดวัคซีนโควิดได้ 100 ล้านโดส ส่วนผับ-บาร์ต้องรอ ยังไม่ให้เปิด ระหว่างนี้เตรียมความพร้อม

โดย THE STANDARD TEAM
15.11.2021
  • LOADING...
เกียรติภูมิ วงศ์รจิต

วันนี้ (15 พฤศจิกายน) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย และ นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด, ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนและมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขรองรับการเปิดประเทศ โดย นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมี 4 ปัจจัยที่ทำให้มีความเสี่ยงจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิดได้คือ การเปิดประเทศ การเปิดเรียน การผ่อนคลายให้กิน-ดื่มในร้านอาหารได้ และการรวมตัวทำกิจกรรมต่างๆ ได้จำนวนหนึ่ง กระทรวงสาธารณสุขจึงมุ่งเน้นการดำเนินงาน 4 ส่วน ได้แก่ V-Vaccine เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ทุกคนบนแผ่นดินไทยให้ได้ 100 ล้านโดส U-Universal Prevention ให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันตนเองสูงสุด C-COVID FREE Setting ร้านค้า/สถานประกอบการใช้มาตรการพื้นที่ปลอดโควิด และ A-ATK ใช้ชุดตรวจคัดกรองเมื่อมีความเสี่ยง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับคนในประเทศ ช่วยให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิดและได้ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข

 

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด ขณะนี้ฉีดได้ถึง 85 ล้านโดสแล้ว ตั้งเป้าให้ได้ 100 ล้านโดสในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยให้หน่วยงานฝ่ายปกครองในพื้นที่สำรวจ ติดตามประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้มาฉีดให้มากที่สุด รวมไปถึงแรงงานต่างด้าวทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย แบ่งเป็นเข็ม 1 จำนวน 8 ล้านโดส เข็ม 2 และ 3 รวม 5.8 ล้านโดส ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขจะปรับรูปแบบการฉีดวัคซีนให้สะดวกกับประชาชนมากขึ้น เช่น จัดทีมฉีดวัคซีนเชิงรุกให้ผู้สูงอายุ คนติดบ้านติดเตียง จัดสัปดาห์รณรงค์การฉีดวัคซีน เป็นต้น มหาวิทยาลัยและโรงเรียนแพทย์จะสื่อสารทำความเข้าใจและให้ข้อมูลวัคซีนแก่ประชาชนอย่างถูกต้อง ส่วนผู้ประกอบการจะช่วยจัดระบบป้องกันไม่ให้มีการติดและแพร่เชื้อได้ และดูแลให้พนักงานได้รับวัคซีนครบโดส

 

“ในส่วนของ ศบค. มีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาฉีดวัคซีนมากขึ้น โดยอาจพิจารณาเรื่องการแสดงผลการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส เมื่อทำกิจกรรมต่างๆ ในที่สาธารณะ เพื่อความปลอดภัยและถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงอาจเพิ่มมาตรการจูงใจต่างๆ ด้วย” นพ.เกียรติภูมิกล่าว

 

นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ประเทศไทยขณะนี้ภาพรวมมีแนวโน้มลดลง แต่ยังพบการติดเชื้อต่อเนื่องบางจุด เช่น เรือนจำ กลุ่มแรงงานประมง แคมป์ก่อสร้าง ค่ายฝึกทหาร สถานประกอบการ ตลาด และการจัดพิธีกรรมทางศาสนา เป็นต้น ซึ่งสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อลดลงมีส่วนทำให้ประชาชนคลายความกังวลและไม่ไปรับการฉีดวัคซีน จึงขอย้ำให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนรีบมารับการฉีด เพื่อป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต เนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโควิดได้ สำหรับประชาชนที่ไม่สะดวกเดินทางมาฉีดวัคซีนที่จุดบริการ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ได้รับการฉีดเชิงรุก สำหรับพื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนมาตรการ ขอให้สถานประกอบการปฏิบัติตามและศึกษาแนวทางอย่างเคร่งครัด

 

ด้าน นพ.อรรถพลกล่าวว่า การขับเคลื่อนแนวทางปฏิบัติมาตรการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID FREE Setting) กระทรวงสาธารณสุขถือปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุขฯ (ใบอนุญาตแสดงดนตรี และสถานที่จำหน่ายอาหาร) และ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ และปรับมาตรการเป็นระยะให้สอดคล้องกับสถานการณ์และแผนรองรับการเปิดประเทศ โดยการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 (1-30 พฤศจิกายน 2564) บริโภคได้เฉพาะพื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ระยะที่ 2 (1-31 ธันวาคม 2564) และระยะที่ 3 (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) บริโภคได้ตามมาตรการที่กำหนด 

 

ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ขณะนี้ยังไม่เปิดดำเนินการ ขอให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมสถานที่ สภาพแวดล้อมตามมาตรการด้านสาธารณสุขและพนักงานผู้ให้บริการ โดยต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม เพื่อสร้างความปลอดภัยทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ

 

ทั้งนี้ มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กรหรือ COVID FREE Setting มุ่งเน้นการจัดการด้านสภาพแวดล้อม เพื่อให้เกิดความสะอาดและปลอดภัย เช่น เว้นระยะห่าง จำกัดการรับประทานอาหารไม่เกิน 2 ชั่วโมง ระบายอากาศ งดเต้น ตะโกนร้องเพลง ตามมาตรการ CFS และการจัดการด้านผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ การตรวจด้วยชุดตรวจ ATK และการป้องกันตนเอง เป็นต้น หากมีการแสดงดนตรี ต้องจัดแยกโซน ทำความสะอาดเครื่องดนตรีทันทีหลังใช้งาน และไม่ควรเกิน 5 คน ไม่ควรเวียนร้านอื่น และลงทะเบียน Thai Save Thai สำหรับร้านที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรจำกัดระยะเวลารับประทานและบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 2 ชั่วโมง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising