ความคืบหน้าหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติคณะกรรมการรับทำคดีเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ โดยในที่นี้มีผู้ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษที่เป็นตำรวจ ซึ่งหนึ่งในนั้นปรากฏชื่อ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ด้วย
วันนี้ (5 มีนาคม) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่สามารถพิจารณาในการรับทำคดีดังกล่าว และสามารถพิจารณาสำนวนที่มีนายตำรวจ 8 นาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ ทำคดีรวมกับสำนวนชุดหลังที่มีตำรวจ 5 นาย (ในส่วนนี้มีชื่อ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ) เนื่องจากเป็นคดีที่มีความเชื่อมโยงกัน
ส่วนของพนักงานสอบสวนที่ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานมาก่อนหน้านี้ จะยังเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานในส่วนของคดีเพิ่มเติมต่อหาก ป.ป.ช. ต้องการ รวมทั้งทำการสืบสวนขยายผลต่อไปถึงเส้นทางการเงินของเว็บพนันออนไลน์
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่า การที่ ป.ป.ช. รับสำนวนไปพิจารณาเอง ไม่ถือว่าพนักงานสอบสวนเพลี่ยงพล้ำทางเทคนิค แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. โดยตรงที่สามารถรับทำคดีได้เอง ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้เสียกำลังใจและขอยืนยันว่า พยานหลักฐานที่มีนั้นครบถ้วนที่จะสามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด
ส่วนความคืบหน้าคดีเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กระทรวงต่างๆ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่า หลังผ่านมา 1 เดือน สำนวนคดีเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวมีความสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว แต่ยังติดปัญหาเรื่องเอกสารบางอย่างที่ผู้ต้องหาระบุว่า ตัวผู้ต้องหาไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินการสอบสวนให้ได้ความชัดเจนว่าใช่เจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ประกอบกับบางหน่วยงานปฏิเสธการให้ข้อมูลกับตำรวจ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานเหล่านี้ ส่วนเรื่องผู้เสียหายวงที่ 2 และ 3 มีความคืบหน้าไปกว่า 50% แล้ว พบว่าผู้ต้องหายังเป็นกลุ่มเดิมกับเหตุก่อนหน้านี้
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีข้าราชการกระทรวงหนึ่งแสดงตัวว่าเป็นผู้เสียหายจากผู้ต้องหากลุ่มนี้เพิ่มอีก 1 วง ซึ่งถือเป็นวงที่ 4 ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพูดคุยรายละเอียด เนื่องจากทางผู้เสียหายเกรงว่าหากมีการแจ้งความดำเนินคดีอาจส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ของตนเอง จึงเกิดความลังเลและอยู่ระหว่างปรึกษานักกฎหมาย
ความเสียหายที่เกิดคือประมาณ 3.7 ล้านบาท แลกกับการที่กลุ่มผู้ต้องหาไม่เข้าไปตรวจสอบโครงการบางอย่าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อตำแหน่งหน้าที่ของผู้เสียหายได้ โดยผู้เสียหายได้จ่ายเป็นเงินสดให้ผู้ต้องหา
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ข้อมูลจากผู้เสียหายวงนี้ทำให้ทราบได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการหักหลัง ยักยอก และโกงเงินกันเอง ซึ่งจากพฤติการณ์ของวงที่ 4 ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้กระทำการตบทรัพย์ข้าราชการมาแล้วเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นหากผู้เสียหายวงที่ 4 ตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ เชื่อว่าสำนวนคดีนี้จะเป็นอีกหนึ่งคดีหลักที่สามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้