วันนี้ (15 กรกฎาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่ากระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยประชาชนกรณีพบผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติในประเทศทั้งในจังหวัดระยองและกรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความวิตกกังวล
ซึ่งกรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหา ทำความเข้าใจกับประชาชน ลงพื้นที่สอบสวนโรค และเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันโรคอย่างรวดเร็วเพื่อหากลุ่มเสี่ยงให้ครอบคลุมมากที่สุดเพื่อให้คนไทยเกิดความปลอดภัย และจะนำบทเรียนนี้เข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันพรุ่งนี้ (16 กรกฎาคม) เพื่อพิจารณาและเสนอมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อให้เกิดความสบายใจต่อประชาชน
ด้าน ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าการที่กระทรวงสาธารณสุขสามารถทำการสอบสวนและติดตามผู้สัมผัสมาเข้าระบบการเฝ้าระวังและตรวจหาเชื้อได้อย่างรวดเร็วนั้นมาจากระบบข้อมูล ‘ไทยชนะ’ ที่ประชาชนได้ทำการลงทะเบียนเข้าออกไว้ ทำให้เราสามารถติดตามกลุ่มผู้สัมผัสที่ใช้บริการในห้างสรรพสินค้าที่จังหวัดระยองในช่วงระยะเวลา 11.25-14.56 น. ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ได้จำนวน 394 รายชื่อ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าข้อมูลจากระบบไทยชนะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง
โดยขณะนี้มีกลุ่มเสี่ยงต่ำที่ได้ตรวจหาเชื้อจากรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทานแล้วจำนวน 1,333 ราย และในส่วนของกรุงเทพมหานคร กรณีเด็กหญิง 9 ขวบที่ติดตามคณะทูต มีผู้ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมเดียวกันได้รับการตรวจหาเชื้อจากรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทานแล้ว 266 ราย อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ากระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการอย่างโปร่งใส ไม่ปกปิด รวดเร็ว และจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและภาคเศรษฐกิจให้กลับมาสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์