วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ระหว่างการแถลงข่าวความคืบหน้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับสื่อมวลชน กรณีหากมีการบังคับใช้กฎหมาย ภายหลัง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
โดย นพ.โสภณ ระบุว่า “อย่างที่ทราบกันว่าเมื่อวานนี้ได้มีการลงนามประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายโรคที่ 14 ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนที่รอการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
“ทั้งนี้หลังจากเกิดการบังคับใช้ ประชาชน สถานพยาบาล ผู้ประกอบการ โรงแรม รวมถึงห้องชันสูตร ก็ต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องรายงานและแจ้งหากพบผู้คนเสี่ยงต่อการติดโรค
“ในกรณีที่ประชาชนเดินทางมาจากกลุ่มเสี่ยงหรือเคยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ถ้าหากพบว่าตนเองมีอาการทางเดินหายใจให้คิดว่าเราอาจเป็นโรคนั้นได้ ดังนั้นเมื่ออยู่ในขั้นตอนการตรวจหาโรค ต้องให้ข้อมูลที่เป็นความจริงกับแพทย์และพยาบาลเพื่อช่วยในการรักษา ซึ่งถือเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นที่อยู่รอบตัวเป็นอันตรายไปด้วย
“ในกรณีนี้หากกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว การที่ไม่แจ้งจะเป็นเหตุให้มีโทษปรับมูลค่า 20,000 บาท แต่เราเชื่อว่าการที่กระทรวงสาธารณสุขออกมาให้ความรู้บ่อยๆ จะทำให้ประชาชนเกิดความตระหนัก ซึ่งเรื่องจำนวนเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องความตระหนักที่จะช่วยสร้างความปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่นที่อยู่ใกล้ชิด” นพ.โสภณ กล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์