กลายเป็นว่า ร้านค้าในต่างประเทศที่ควรทำกำไรได้ตามปกติถูกบังคับให้ปิดชั่วคราวท่ามกลางการล็อกดาวน์ ทำให้ผลประกอบการจำปีที่สิ้นสุดในเดือนมิถุนายนของ Miniso เชนร้านดิสเคาน์สโตร์จากแดนมังกรประสบปัญหาตัวแดง ‘ขาดทุน’ กว่า 1.4 พันล้านหยวน หรือ 7.2 พันล้านบาทด้วยกัน
ตามรายงานของ Miniso ที่เพิ่งติดนามสกุลมหาชนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กช่วงเดือนตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา ระบุถึงยอดขายทั้งปีเติบโตขึ้นเพียง 1% เป็น 9 พันล้านหยวน หรือ 4.6 หมื่นล้านบาท โดยร้านในบ้านเกิดมียอดขายที่เพิ่มขึ้น 21% เป็น 7.2 พันล้านหยวน สวนทางกับภูมิภาคอื่นๆ ที่ลดลง 39% เป็น 1.7 พันล้านหยวน ทำให้ผลขาดทุนของปีล่าสุดเพิ่มขึ้นนับ ‘พันล้านหยวน’ เมื่อเทียบกับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2020 ซึ่งอยู่ที่ราว 200 ล้านหยวน หรือราว 1 พันล้านบาทเท่านั้นเอง
ถึงยอดขายทั้งปีงบประมาณจะขาดทุน แต่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 พบว่า เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แตะระดับ 2.4 พันล้านหยวน ยอดขายของแดนมังกรเติบโต 43% ในขณะที่ยอดขายในตลาดอื่นพุ่งขึ้นถึง 180% ทำให้กำไรสุทธิของไตรมาสนี้อยู่ที่ 100 ล้านหยวน ดีดตัวขึ้นจากขาดทุน 40 ล้านหยวนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
Miniso เปิดดำเนินการร้านค้า 4,749 แห่ง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากปีก่อนหน้า โดยร้านค้าในจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้น 406 แห่ง รวมเป็น 2,939 แห่ง ขณะที่เปิดสาขาในต่างประเทศอีก 121 แห่ง รวมเป็น 1,810 แห่ง
วิเซนต์ หวง รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ Miniso ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia ว่า Miniso นั้น ทำธุรกิจใน 98 ประเทศและดินแดนนอกประเทศจีน ณ วันที่ 30 มิถุนายน และคาดว่าจะบรรลุ 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้
รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศอธิบายว่า การเข้ามาของ Miniso ในเอเชียและลาตินอเมริกาในช่วงแรกจะช่วยในการพัฒนาตลาดเหล่านั้นต่อไป และ Miniso วางแผนที่จะขยายร้านในตะวันออกกลางและยุโรป นอกจากนี้เชนร้านดิสเคาน์สโตร์ของแดนมังกรวางแผนที่จะขยาย Top Toy ซึ่งเป็นร้านขายของเล่นมากขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันมี 33 แห่งทั่วประเทศจีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อ้างอิง:
