ถึงแม้ว่า คริสเตียโน โรนัลโด จะอยู่ในช่วงท้ายของอาชีพการค้าแข้งแล้ว แต่ดูเหมือนว่าหนึ่งในสุดยอดนักเตะตลอดกาลของโลกจะยังคงไม่ยอมหยุดสร้างตำนานง่ายๆ
ล่าสุด ‘CR7’ เพิ่งจะทำประตูให้ทีมชาติโปรตุเกสได้ในเกมที่พบกับทีมชาติโครเอเชีย ในรายการเนชันส์ลีก ซึ่งประตูนี้กลายเป็นประตูประวัติศาสตร์ เพราะทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลสมัยใหม่คนแรกที่ทำประตูได้ถึง 900 ประตูในเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
ไม่มีใครให้มากกว่านี้อีกแล้วสำหรับโมเดิร์นฟุตบอล
สิ่งที่ทำให้โรนัลโดยืนหยัดจนกลายเป็น ‘CR900’ ได้นั้น คงไม่ใช่แค่เรื่องของพรสวรรค์หรือวินัยในการดูแลรักษาสภาพร่างกายของตัวเองเท่านั้น
คนเราแพ้-ชนะกันมันอยู่ที่ความคิดถูกไหม? ถ้าอย่างนั้นเรามาลองดูวิธี Unlock ตัวเองของโรนัลโดกันอีกสักครั้งดีไหมครับ 🙂
จงเผาหัวใจให้เป็นจุณ
“ความแข็งแกร่งไม่ใช่คำที่ใช้กับร่างกายเท่านั้นหรอกนะ”
โรนัลโดไม่ได้กล่าวคำนี้หรอกครับ เพราะมันเป็นคำพูดของ ‘เสาหลักเพลิง’ เร็นโกคุ เคียวจูโร่ เพียงแต่ก็เป็นคำพูดที่น่าจะถ่ายทอดหลายสิ่งหลายอย่างในตัวของตำนานตลอดกาลทีมชาติโปรตุเกสได้เป็นอย่างดี
เพราะต้นกำเนิดพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโรนัลโดคือ ‘ความปรารถนาอันแรงกล้าที่อยากจะเป็นคนที่เก่งที่สุด’ (The Burning Desire to Be the Best)
โรนัลโดคิดมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นในโปรตุเกสแล้วว่าอยากจะเป็นนักฟุตบอลที่สุดในโลกให้ได้ เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เขาทำได้ในขณะที่เด็กอีกหลายล้านคนทั่วโลกทำไม่ได้คือ การผลักดันตัวเองให้ก้าวผ่านทุกปัญหา ความท้าทาย และอุปสรรคที่ต้องเผชิญ
เพื่อจะไปให้ถึงจุดนี้เขาต้องทำทุกอย่าง ต่อให้เผาหัวใจตัวเองให้เป็นจุณก็ยอม
ความท้าทายคือเพื่อนแท้
คนจำนวนไม่น้อยที่พอใจจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในมุมสงบ (Comfort Zone) แต่ไม่ใช่สำหรับโรนัลโด
สำหรับเขาแล้ว ความท้าทายทั้งหลายคือเพื่อนแท้ที่จะช่วยพาตัวเองไปให้ไกลขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะต้องเจอกับโจทย์ชีวิตที่ยากเย็นแค่ไหน จะเป็นเรื่องในสนาม (เช่น เจอคู่แข่งที่เก่งกว่า จะทำอย่างไรเพื่อจะเอาชนะเขาให้ได้บ้าง) หรือเรื่องนอกสนาม (กระแสข่าวอื้อฉาวต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงที่มีปัญหากับ เวย์น รูนีย์ ในรายการยูโร) เขาไม่คิดที่จะหลบหลีก
สิ่งที่โรนัลโดจะทำคือ การรับมือกับปัญหาเหล่านี้ด้วยความคิดในเชิงบวก มองให้ออกว่าสิ่งเหล่านี้คือ ‘บันได’ ที่จะพาเขาไปสูงกว่าเดิม
ต่อให้โลกจะพังทลายตรงหน้า เขาจะหาทางกลับมาได้เสมอ
ฝันให้ใหญ่ ไปให้ถึง
ความฝันใครๆ ก็มีได้ และความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกันสักคน
บางคนอาจจะฝันเล็ก พอใจแค่นี้ ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ มีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว บางคนอาจจะฝันใหญ่ อยากจะไปแชมเปียนส์ลีก อยากไปฟุตบอลโลก
แต่สำหรับโรนัลโด ความฝันของเขาต้องยิ่งใหญ่ที่สุดเสมอ และการ ‘Dream Big’ นี่เองคือการกำหนดเป้าหมายในใจ ที่จะกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาพุ่งไปให้ถึงด้วย
นี่คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้โรนัลโดยังยืนหยัดจะอยู่ในวงการต่อไป เพราะนอกจากจะกวาดแชมป์มาเกือบครบทุกรายการแล้ว (เจ้าตัวบอกว่าถึงจะไม่เคยได้ฟุตบอลโลก แต่แชมป์ยูโรและเนชันส์ลีกที่เคยได้ก็ถือว่าศักดิ์ศรีเท่ากัน) ได้รางวัลบัลลงดอร์ถึง 5 สมัย
ล่าสุดคือการทุบสถิติทำประตูได้ครบ 900 ลูกแล้ว
อีหรอบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป้าหมายของ ‘CR900’ ใกล้ที่สุดคือการลงเล่นต่อไปเรื่อยๆ และทำให้ครบ 1,000 ประตูแน่นอน
ไม่มีคำว่าประนีประนอม
แก่นแท้ในวิธีคิดแบบโรนัลโดคือ เรื่องของหลักการทำงานโดยไม่มีคำว่าประนีประนอม (Uncompromising Work Ethic)
ใครอยากจะประนอมให้ไปหาเอาจากน้ำจิ้มไก่เอา สำหรับโรนัลโดเขาไม่มีวันย่อหย่อนเด็ดขาด การรักษาวินัยในการทำงานมีตั้งแต่วันแรกในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จนถึงปัจจุบันที่ผ่านเส้นทางการเล่นมาแล้วกว่า 22 ปี ทำให้เขายังคงยืนหยัดได้จนถึงวันนี้
โรนัลโดตระหนักรู้ดีว่า ‘พรสวรรค์’ อย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุด มันต้องมี ‘พรแสวง’ ถึงจะไปได้ถึงจุดสูงสุด
อยากสำเร็จต้องเสียสละ
ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่เสียอะไรไป ทุกสิ่งทุกอย่างมีสิ่งแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกันเสมอ
สำหรับคนฝันใหญ่ อยากจะไปให้ถึงดวงดาวอย่างโรนัลโด สิ่งที่เขาต้องยอมแลกเปลี่ยนด้วยก็ย่อมต้องมีค่ามากไม่น้อยไปกว่ากัน ซึ่งนั่นก็คือการอุทิศทั้งชีวิตให้แก่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในระดับสูงสุด การรักษาวินัยในตัวเองที่ไม่ใช่แค่เรื่องของการฝึกซ้อมหนักเท่านั้น
แต่มีไปจนถึงการเสียสละ ‘วิถีชีวิต’ หลายอย่าง เช่น การไม่สังสรรค์เหมือนนักฟุตบอลคนอื่นๆ การออกแบบโปรแกรมชีวิตให้เป็นระเบียบ ตื่นกี่โมง นอนกี่โมง หรือแม้แต่เรื่องอาหารการกินก็ต้องถูกจำกัดและควบคุมอย่างดี ไม่มีปล่อยเนื้อปล่อยตัว
สิ่งเหล่านี้ทำให้โรนัลโดยังคงยืนหยัดสู้ในระดับสูงสุดได้ทั้งที่วัยใกล้จะ 40 เต็มที
ความสม่ำเสมอคือเมล็ดพันธุ์ของความยิ่งใหญ่
นักฟุตบอลที่เก่งและมีพรสวรรค์มีมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้โรนัลโดแตกต่างจากคนที่เหลือคือเรื่อง ‘ความสม่ำเสมอ’
เพราะสำหรับบางคนประสบความสำเร็จครั้งเดียวก็อาจเพียงพอแล้ว แต่สำหรับโรนัลโดเขาไม่เคย ‘พอใจแค่นี้’ การที่เขารักษามาตรฐานความสม่ำเสมอในการเล่นเท่านั้น ทำให้สามารถยืนระยะได้อย่างยาวนานในเกมฟุตบอล ทั้งที่โดยตำแหน่งแล้ว กองหน้าให้เก่งก็เล่นได้ดีที่สุดแค่เพียงราวอายุ 35 ปีเท่านั้น
โดยที่ความสม่ำเสมอนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากเกมการแข่งขันในสนาม แต่มันคือกระจกสะท้อนของความสม่ำเสมอในการรักษามาตรฐานของตัวเองมาตลอดชีวิตการเล่น
ตีบวกกับใจตัวเอง
“ผมไม่ได้ทำสถิติ สถิติเหล่านี้มันตามล่าผม” คือสิ่งที่โรนัลโดบอกไว้หลังทำสถิติยิงครบ 900 ประตู ซึ่งมันอาจฟังดูชวนน่าหมั่นไส้นิดหน่อย แต่ในอีกทางหนึ่งแล้วมันสะท้อนถึง ‘ความเชื่อ’ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในตัวเองของเจ้าตัว
โรนัลโดเชื่อในความสามารถของตัวเองเสมอว่าเขาสามารถจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ซึ่ง Positive Self-Belief นี้คือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้ชนะในการแข่งขันเกมชีวิต นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อคนรอบข้างที่ได้รับแรงบันดาลใจดีๆ จากเขาไปด้วย
Visualization ตั้งตรงจิต
สุดท้ายคือเรื่องของ ‘จิต’ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับนักฟุตบอลสมัยใหม่
โรนัลโดเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้เตรียมแต่ตัว แต่ยังเตรียมใจมาเป็นอย่างดีสำหรับการลงสนามทุกนัด โดยก่อนลงสนามเขาใช้วิธีการฝึกจิต Visualization ว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จอย่างไรได้บ้าง จะลงเล่นด้วยฟอร์มแบบไหน จะยิงประตูแบบไหน จะเล่นจังหวะตัดสินแบบใด
การฝึกจิตแบบนี้ช่วยให้เขาพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ในทุกเกมที่ลงสนาม เปลี่ยนจินตนาการให้กลายเป็นความจริง
ทั้งหมดนี้คือสิ่งละอันพันละน้อยที่ คริสเตียโน โรนัลโด ประกอบขึ้นมา จนกลายเป็นตัวของเขาเองในเวอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นหนึ่งในสุดยอดนักเตะอมตะตลอดกาลของโลกที่ยังไม่มีวี่แววจะยอมหยุดง่ายๆ
ใครอยากเป็นแบบ ‘CR900’ บ้าง ก็ลองนำมาปรับใช้กับตัวเองดูนะครับ 🙂
อ้างอิง: