ช่วงหลังเราเห็นร้านอาหารสไตล์ละตินเปิดใหม่เยอะขึ้นเรื่อยๆ และแต่ละที่ก็นำเสนอวิถีการกินแบบละตินที่แตกต่างกันไป เช่นเดียวกับ Mezcal ที่ขอยกสุราประจำชาติเม็กซิโกให้เป็นจุดเด่นและพร้อมเสิร์ฟอาหารเม็กซิกันที่เข้าคู่กับเมสคัลได้เป็นอย่างดี
เราเชื่อว่าหลายคนคุ้นเคยและรู้จักเตกีลา แต่พอเป็นเมสคัลอาจจะงงเล็กน้อยว่าคืออะไร จริงๆ แล้วสุราสองชนิดนี้ทำจากต้นอะกาเวเหมือนกัน โดยอะกาเวเป็นพืชทะเลทรายคล้ายว่าน แต่จุดต่างหลักของเตกีลาคือกรรมวิธีการผลิตและการเลือกอะกาเวในการทำสุรา โดยเตกีลาจะต้องทำจากบลูอะกาเวเท่านั้น ในขณะที่เมสคัลจะทำจากอะกาเวประเภทไหนก็ได้ อย่างไรก็ตาม เอกลักษณ์ของเมสคัลคือความหอมกลิ่นควันในทุกจิบ ซึ่งกลิ่นดังกล่าวเกิดขึ้นจากกระบวนการทำเมสคัลที่ต้มอะกาเวในหลุมใต้ดินนั่นเอง
เล่าถึงที่มาของสุราเมสคัลเรียบร้อยก็วกกลับมาที่ร้าน ตัวร้านโดดเด่นด้วยการใช้ไฟโทนเขียวอมฟ้าตัดกับผนังวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้ มีชั้นวางเหล้าที่ถูกคลุมด้วยซี่กรงเหล็ก ชวนให้เดินเข้าไปสังเกตใกล้ๆ ว่าแต่ละขวดเป็นอย่างไร
โซนที่นั่งแบ่งเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะมาเดี่ยว มาคู่ หรือมาเป็นก๊วนและอยากได้มุมที่มีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย ก็เล็งโซฟาในสุดของร้านได้เลย
สำหรับสายดื่ม หน้าบาร์คือมุมของคุณ อย่าลืมให้บาร์เทนเดอร์แนะนำเมสคัลค็อกเทล และเผื่อเวลาไว้สัมผัสความตื่นเต้นที่จะมาหลังสี่ทุ่ม
นอกจากเมสคัลค็อกเทลที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่แล้ว อาหารก็โดดเด่นไม่แพ้กัน แถมยังถูกออกแบบเมนูมาเพื่อให้เข้ากับการจิบเมสคัลอีกด้วย ซึ่งมีตั้งแต่ทาโก้ไปจนถึงเนื้อตุ๋นสไตล์เม็กซิกัน เราแนะนำให้เริ่มต้นค่ำคืนด้วยของกินเล่นรองท้องกันก่อน แล้วค่อยจัดเต็มเมสคัลค็อกเทลตอนหลัง Tuna Tostadas (345 บาท) แป้งตอติญาข้าวโพดแผ่นบางกรอบท็อปด้วยทูน่าซาซิมิ เม็ดสาคูปรุงรสพิเศษและอะโวคาโด ชิ้นเดียวไม่พอแน่นอน
Truffle Fundido (625 บาท) เมนูนี้เป็นอะไรไม่ได้นอกเสียจากเชดดาร์กับมอสซาเรลลาชีสย่างเสิร์ฟบนกระทะร้อน และเชฟมาสไลซ์ทรัฟเฟิลถึงโต๊ะ กินกับแป้งตอติญานุ่มๆ โดยคลุกชีสและทรัฟเฟิลให้เข้ากันแล้วตักวางบนแผ่นแป้ง จากนั้นราดซอสพริกเล็กน้อยแล้วเตรียมปะทะความอร่อยได้เลย
ต่อด้วย Passionfruit Aguachile (385 บาท) ที่หน้าตาและรสชาติคล้ายยำ เพราะเบสด้วยน้ำมะนาวสด เกลือ ผักชี และพริกเขียว ใส่อะโวคาโดและเสาวรสเพิ่มรสสัมผัสและความเปรี้ยวหวาน จากนั้นคลุกเคล้ากับปลากะพงขาวและมะพร้าวอ่อน จะจิ้มกินเปล่าๆ หรือจ้วงด้วยแผ่นตอติญากรอบก็ได้เหมือนกัน
มาถึงร้านเม็กซิกันทั้งทีก็ต้องสั่งทาโก้จึงจะครบเครื่อง Pork Pibil (225 บาท) ทาโก้หมูกับซัลซาและถั่วบด หรือจะเป็น Giant Tiger Prawn Taco (895 บาท) ทาโก้กุ้งลายเสือตัวโตย่างฮอตซอสและหอมใหญ่ดอง
เมนคอร์สหนักท้องขึ้นมาหน่อย เราอยากให้ลอง Lamb Barbacoa (1,250 บาท) เนื้อแกะตุ๋นสไตล์เม็กซิกันที่ตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม เสิร์ฟแบบติดกระดูกชิ้นใหญ่ เมื่อมาถึงโต๊ะเรียบร้อยเชฟจะดึงกระดูกออกแล้วคลุกเคล้าเนื้อให้เข้ากันและยีให้ชิ้นเล็กลงไว้กินกับตอติญา ความพิเศษของแกะตุ๋นที่นี่คือการนำไปหมักในเมสคัลก่อนที่จะตุ๋น ทำให้เนื้อยังคงกลิ่นหอมควันจางๆ นอกจากเมนูจานหลักจากเนื้อสัตว์แล้วยังมี Jackfruit en Adobo (545 บาท) หรือขนุนอ่อนย่างราดซอสพริกแห้งจนทั่ว กินคู่กับควินัว กรีกโยเกิร์ต และอะโวคาโดบด
ล้างปากด้วยของหวานก่อนที่จะไปต่อค็อกเทล Churros al Fuego (325 บาท) ชูโรสจิ้มช็อกโกแลตมันธรรมดาเกินไป เพราะที่นี่เสิร์ฟช็อกโกแลตดิปกับเหล้าเมสคัลจุดไฟ แล้วราดลงไปบนช็อกโกแลต คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นค่อยจุ่มชูโรสลงไป
สำหรับค็อกเทลแกล้มมื้ออาหาร แนะนำ Frozen Margarita (280 บาท) มาร์การิตาค็อกเทลที่ปั่นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง เคลือบปากแก้วด้วยเกลือและท็อปมะนาวฝานเป็นอันเสร็จพิธี ส่วนค็อกเทลสำหรับ Long Drink มีทั้งซิกเนเจอร์และคลาสสิกทวิสต์ที่ใช้เหล้าเมสคัลเป็นเบส คนรักเนโกรนีต้องห้ามพลาด Mezcal Negroni (390 บาท) ที่นอกจากจะให้รส Herbaceous แล้ว ยังมีกลิ่นควันจางๆ ของเมสคัลที่ทำให้ค็อกเทลแก้วนี้จิบเพลินและมีบอดี้ขึ้นมา
Salty Cat (320 บาท) แก้วนี้มีความจินโทนิกเวอร์ชันสมุนไพรแบบเต็มๆ แต่เปลี่ยนจากจินเป็นเมสคัล ใส่ใบโหระพาและน้ำเกลือ ขอบแก้วมีโกโก้เคลือบเล็กน้อย ลองจิบจากขอบแก้วฝั่งที่มีโกโก้และฝั่งตรงข้าม ชอบแบบไหนมากกว่ากันอย่าลืมมาบอกเราด้วยนะ
You may also like: Ojo, Santiaga Mexican Cuisine
Mezcal
Open: วันพุธ-อาทิตย์ เวลา 18.00-23.00 น.
Address: 101 ซอยศึกษาวิทยา (ระหว่างซอยสาทร 10 และ 12) ถนนสาทรเหนือ
Budget: 1,500-2,000 บาท
Tel: 06 1281 6969
Website: https://www.instagram.com/mezcal.bar
Map: https://goo.gl/maps/k1s4ojfc8UXbgczT8