Mercedes-Benz S-Class ตระกูลรถยนต์ที่หรูหราที่สุดของค่ายดาวสามแฉก คือยานยนต์ที่ Mercedes-Benz ตั้งใจให้มีสิ่งพิเศษที่สุดของยุคสมัยสมชื่อ Special Class หรือ Sonderklasse (S-Klasse) ในภาษาเยอรมัน คงไม่เกินจริงถ้าจะพูดว่า Mercedes-Benz S-Class คือผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับ Luxury Cars จนกลายเป็น Iconic Luxury ดังนั้นทุกครั้งที่ S-Class ใหม่เปิดตัวขึ้น ผู้คนทั่วโลกจะตั้งตารอเสมอว่า Mercedes-Benz จะขีดมาตรฐานแห่งความหรูหราของรถยนต์ไปไว้ที่ใดอีก
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium จ่ายเท่าเดิม แต่แรงขึ้นเท่าตัว
All NEW S-Class รหัส W223 เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่นย่อย คือ S 350 d Exclusive (ราคา 6,690,000 บาท) และ S 350 d AMG Premium (ราคา 7,190,000 บาท) แต่ในครั้งนี้จะพาทุกท่านมารู้จักกับอีกหนึ่งทางเลือกของท่านผู้บริหารในยุคที่ทั่วโลกใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์พลังงาน นั่นคือ S-Class รหัส S 580 e Plug-in Hybrid เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง รหัส M256 ขนาด 2,999 ซีซี ผสานพลังไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid เจเนอเรชันที่ 4 ขนาด 28.6 kWh เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะได้พละกำลังสูงสุด 510 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 750 นิวตันเมตร ซึ่งหากนำไปเปรียบกับรุ่นเดิม S 560 e ถือว่าขุมกำลังเพิ่มขึ้นแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะ S 560 e เดิม เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะได้กำลัง 489 แรงม้า กับแบตเตอรี่ 13.5 kWh จะเห็นว่า S 580 e Plug-in Hybrid มีกำลังมอเตอร์ใหญ่กว่าเดิมเกิน 1 เท่าตัว ช่วยให้รถขับได้สนุกขึ้น และประหยัดน้ำมันมากขึ้น
อัตราเร่งของ S 580 e Plug-in Hybrid จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-Tronic และยังเปลี่ยนฟีลลิ่งเป็นยานยนต์ไฟฟ้าได้ด้วย เพราะสามารถขับในโหมด EV ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลสูงสุดถึง 94-113* กิโลเมตร (*ระยะทางจากการทดสอบ WLTP) ส่วนเรื่องราคาค่าตัววางไว้ที่ 7,190,000 บาท เท่ากับ S 350 d AMG Premium แต่ได้เทคโนโลยี Plug-in Hybrid มาเพิ่มแรงม้าให้มากขึ้นเกือบเท่าตัว และแรงบิดเพิ่มขึ้นเกินร้อยนิวตันเมตร
ดีไซน์ทันสมัย หรูหรา แต่เรียบง่ายไม่เชยเร็วด้วยปรัชญา Sensual Purity
ปรัชญาการออกแบบที่ชื่อว่า ‘Sensual Purity’ คือการผสมกันของสองขั้วตรงข้ามระหว่าง ‘ความสวยงามแบบคลาสสิก’ กับ ‘เทคโนโลยีและความทันสมัย’ จุดตรงกลางระหว่างสองขั้วนี้ที่พอดีที่สุด คือปรัชญาการออกแบบ ‘Sensual Purity’ ของ Mercedes-Benz ถ้าสรุปง่ายๆ คือรถที่ดีไซน์คลาสสิกตามแบบฉบับรถยนต์หรูแบบดั้งเดิมก็ดูจะเชยไป แต่ถ้าจะล้ำสมัยเส้นสายโฉบเฉี่ยวก็จะเชยเร็ว Mercedes-Benz จึงแก้ปัญหาตรงนี้จนเป็นที่มาของดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในที่ทุกท่านเห็นกันในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าใน S-Class คือการออกแบบที่งดงามที่สุดภายใต้หลักปรัชญานี้
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium ออกแบบเส้นข้างตัวรถแบบ Catwalk Line ที่กดองศาให้สูงขึ้น ทำให้รถยนต์คันนี้ดูสปอร์ต พื้นที่ห้องโดยสารไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มมากขึ้น
การออกแบบให้มือจับประตูเป็นแบบไร้รอยต่อ ยังช่วยเพิ่มความกลมกลืนของเส้นสายทางด้านข้าง และช่วยให้การล็อกและปลดล็อกประตูทำได้อย่างสะดวก แค่ใช้มือสัมผัสที่มือจับประตู
มาพร้อมล้อ AMG ขนาด 20 นิ้ว กับระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิมมากถึง 51 มิลลิเมตร ไฟหน้าพร้อมระบบไฟอัตโนมัติ MULTIBEAM LED ดีไซน์ใหม่ ที่ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่
ส่วนห้องโดยสารที่ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากที่นั่ง First Class มาพร้อมวัสดุหนัง Exclusive Nappa Leather หนังที่มีความละเอียดและคุณภาพดีที่สุดของ Mercedes-Benz เบาะนั่งตอนหลังแบบ Rear Seat Comfort Package ที่สามารถปรับตำแหน่งที่นั่งได้ และมีฟังก์ชันการนวดที่เลือกโปรแกรมการนวดได้สูงสุด 6 โปรแกรม พร้อมระบบ Energizing Air Control Plus สามารถตรวจวัดระดับฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศ และกรองอากาศในห้องโดยสารให้บริสุทธิ์ได้
MBUX7 มากกว่าระบบเพราะมันคือเลขาส่วนตัวที่รู้ใจภายในรถ
MBUX7 หรือ Mercedes-Benz User Experience ไม่ใช่แค่ระบบความบันเทิงและความสะดวกสบายภายในรถ แต่เหมือนมีเลขาส่วนตัวที่รู้ใจคุณแถมมาให้ ซึ่งเขาจะเรียนรู้ชีวิตคุณในทุกวันที่ใช้งาน เพื่อปรับการทำงานให้เหมาะสมกับคุณมากที่สุด ตัวอย่างเช่น ระบบ MBUX Interior Assistant ที่ตรวจจับท่าทางและการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ ได้อย่างลงตัว สมมติหากผู้ใช้งานกำลังยื่นมือไปเปิดประตู ระบบจะตรวจสอบความปลอดภัยภายนอกรถให้โดยอัตโนมัติ หรือหากผู้ใช้งานกำลังก้มตัวลงไปที่บริเวณใต้เบาะที่นั่ง ระบบจะเปิดไฟในบริเวณนั้นโดยอัตโนมัติ
รวมไปถึงยังรองรับการสั่งการต่างๆ ผ่านการเคลื่อนไหวของมือ ซึ่งผู้ใช้งาน Mercedes-Benz รุ่นใหม่ๆ น่าจะได้เคยสัมผัสบ้างแล้ว แต่ภายใน Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium แน่นอนว่าจะได้ระบบ MBUX7 ซึ่งคือรุ่นพัฒนาล่าสุดและจัดเต็มที่สุด มาพร้อม Rear Tablet ในการควบคุมหน้าจอความบันเทิงขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และระบบเสียง Burmester® 3D-Surround Sound System ชุดลำโพง 15 ตัว
ถ้าจะให้สรุปรถ Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium คือตัวสูงสุดของ S-Class ทั้งในความหรูหรา ทันสมัย และสมรรถนะในราคาที่จ่ายเท่ากับตัวเครื่องดีเซล สมรรถนะที่แรงขึ้นช่วยให้วันไหนที่เบื่อจะนั่งข้างหลังก็สามารถรับอรรถรสการขับขี่จาก S 580 e ได้สบายๆ เพราะ S 580 e AMG Premium ตั้งใจออกแบบมาให้พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ระดับ First Class ให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร แน่นอนว่าคนซื้อรถ S-Class คงไม่มีปัญหาเรื่องค่าน้ำมัน แต่ในยุคที่ผู้คนใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม การมีรถยนต์ที่อนุรักษ์พลังงานก็ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับผู้ครอบครองได้ไม่น้อย
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium คือรถยนต์ที่หรูหรา สง่างาม แรงบิด แรงม้าน้องๆ Supercar และคุ้มค่าที่สุดของ S-Class ในปัจจุบัน
