‘มีตโลฟและไอศกรีม’ กำลังขายดีมากขึ้น เพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจทำให้เกิด ‘ความเหนื่อยล้าจากรสชาติ’

เมื่อกระเป๋าเงินถูกฉีกด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเป็นผลมาจากปัญหาการขาดอุปทานและการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งเพิ่มความกังวลและความเครียด อาจทำให้ใครหลายคนต้องไปหาไอศกรีมมาชโลมจิตใจ

ผู้เชี่ยวชาญยกเหตุผลมาสนับสนุนเรื่องนี้ และชี้ว่ามันอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อวิธีการกินของผู้คน ท่ามกลางความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นเนื่องจากสภาวะถดถอยและซบเซาของเศรษฐกิจ

จากเหตุการณ์เงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 40 ปีของอเมริกา ทำให้ชาวอเมริกันเพิ่มระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ในการเปิดเผยรายได้ล่าสุดทั้ง Walmart และ Target วางแผนจะเพิ่มรายจ่ายให้กับผู้บริโภค ผู้ซึ่งเริ่มเปลี่ยนนิสัยการกินเป็นการซื้อของกินที่จำเป็นมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม ปลาทูน่า และโปรตีนจากสัตว์อื่นๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ขณะที่ผู้คนเลิกกินข้าวในร้านอาหารและทำอาหารกินเองขึ้นเรื่อยๆ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าสินค้าฟุ่มเฟือยอันแสนธรรมดาจะมียอดขายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อมาแทนที่นิสัยใหม่ที่เคร่งครัด

ลีท สตีล จากบริษัทอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญด้านบริการในซานฟรานซิสโกบอกกับ Insider ว่าผู้คนล้วนหาความสบายในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ

“เราเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากในยอดขายของอาหารที่สะดวกสบาย (ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยของปี 2008/09) ยอดขายไอศกรีมเพิ่มขึ้นมาก เพราะมันอร่อยแต่ราคาไม่แพงนัก” สตีลกล่าว “ยอดขายมีตโลฟก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะมันสะดวกและทำจากส่วนประกอบหลายๆ อย่าง”

ทั้งนี้ บทความจาก Time ในปี 2010 รายงานว่าผู้ขายไอศกรีมบางส่วนเห็นยอดขายเพิ่มขึ้น 25% ระหว่างปี 2009 และ 2010 ขณะที่สตีลยังกล่าวอีกว่าด้วยเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ผู้คนจะออกไปร้านอาหารน้อยลงและเลือกความสะดวกสบายที่บ้านแทน

อเล็กซ์ เฮย์ส ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Harris and Hayes ที่ปรึกษาด้านอาหารและเครื่องดื่มในสหราชอาณาจักร เห็นพ้องกันว่าการซื้ออาหารที่สะดวกสบายจะเพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากเหตุผลทางจิตวิทยาที่เรียกว่า ‘ความเหนื่อยล้าจากรสชาติ’

“ความเหนื่อยล้าของรสชาติเป็นทฤษฎีที่ว่าในเวลาที่ยากลำบาก ผู้คนจะมองหารสชาติที่เรียบง่ายและใช้พลังงานที่น้อยกว่าในการประมวลผล” เฮย์สกล่าว “สิ่งนี้ช่วยอธิบายได้ว่าทำไมยอดขายอาหารเพื่อสุขภาพถึงเพิ่มขึ้นสวนทางกับสภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ”

การกินอาหารแบบเรียบง่ายที่แพร่หลายมากขึ้นมาพร้อมกับราคาของการรักสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาอาหารสดสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อความต้องการของผัก โดย “ผักสดมีราคาแพงกว่าปีที่แล้วมาก ส่งผลให้ยอดขายสดตกต่ำ” เฮย์สกล่าว

Emilie Vanpoperinghe ผู้ก่อตั้ง Oddbox ซึ่งเป็นบริษัทอาหารในอังกฤษที่ให้บริการผักรูปทรงแปลกๆ ให้กับลูกค้า บอกกับ Insider ว่าในช่วงเวลาที่เงินเฟ้อสูง ผักมักจะเป็นสินค้าชิ้นแรกที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

“เมื่อมีแรงกดดันต่อค่าครองชีพ ผู้คนเปลี่ยนจากผักและผลไม้ไปเป็นอาหารที่มีพลังงานมากขึ้น” ผู้ก่อตั้ง Oddbox กล่าว “ผลิตภัณฑ์สดใหม่จะต้องทนทุกข์จากสภาวะเงินเฟ้อ เพราะคนไม่สามารถซื้ออาหารรักสุขภาพเหล่านี้ได้เมื่อมองย้อนกลับไปที่ค่าครองชีพ”

แม้ว่านั่นอาจหมายถึงการกินมังสวิรัติที่น้อยลง แต่เฮย์สจาก Harris and Hayes กล่าวว่า ‘ลัทธิยืดหยุ่น’ เพิ่มขึ้น เทรนด์ของการกินเนื้อสัตว์เพียงเล็กน้อยซึ่งได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ต่อไป

ภาพ: Cagkan Sayin / Shutterstock

อ้างอิง: