McDonald's คาดต้องเสียเงิน 1.7 พันล้านบาทต่อเดือนเมื่อปิดร้านในรัสเซีย ส่วน PlayStation และ Ferrari ประกาศยุติการขายแล้ว

ความเคลื่อนไหวของธุรกิจต่างๆ ที่ออกมาตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซียยังมีต่อไปเรื่อยๆ โดย McDonald’s คาดต้องเสียเงิน 1.7 พันล้านบาทต่อเดือนเมื่อปิดร้าน ขณะที่ Sony สั่งยุติการขาย PlayStation เช่นเดียวกับ Ferrari ด้าน Adidas ยังไม่รู้จะกลับมาเปิดร้านได้เมื่อไร

McDonald’s มีค่าใช้จ่าย 1.7 พันล้านบาทต่อเดือน

เชนฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง McDonald’s ประเมินว่า จะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน หรือราว 1.7 พันล้านบาท จนกว่าจะเปิดร้านอาหารที่นั่นอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการปิดร้าน 850 แห่งในรัสเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของบริษัทไม่ใช่แฟรนไชส์

เชนร้านอาหารอื่นๆ ในสหรัฐฯ รวมถึง Starbucks, Yum! Brands และ Papa John’s ต่างก็ยุติการดำเนินงานในแดนหมีขาวเช่นเดียวกัน

McDonald’s ย้ำว่า จะจ่ายเงินให้กับพนักงานชาวรัสเซียทั้งหมดประมาณ 62,000 คนในช่วงที่ร้านอาหารหยุดให้บริการชั่วคราว รวมถึงการจ่ายค่าเช่าสถานที่ เช่นเดียวกับต้นทุนซัพพลายเชนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ

“เราคาดหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นชั่วคราว สำหรับเราการตัดสินใจครั้งนี้คือการทำสิ่งที่เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ควรทำ ทั้งสำหรับธุรกิจระดับโลกและสำหรับบุคลากรของเราในพื้นที่” แม่ทัพของ McDonald’s กล่าวในการประชุม UBS Global Consumer and Retail Conference

สิ่งที่น่าสนใจคือ McDonald’s มีบทบาทเชิงสัญลักษณ์ในรัสเซียมาอย่างยาวนาน โดยเปิดร้านแห่งแรกในสหภาพโซเวียตเมื่อ 32 ปีที่แล้วในกรุงมอสโก ซึ่งมีคนนับหมื่นมาต่อคิวซื้ออาหาร และนอกจากการปิดสาขาในรัสเซียชั่วคราวแล้ว McDonald’s ยังปิดร้านอาหาร 108 แห่งในยูเครนด้วย ในขณะที่รายได้จากรัสเซียและยูเครนรวมกันคิดเป็น 9% ของรายได้จากทั่วโลก

Starbucks ได้ออกมาประกาศหยุดกิจกรรมทางธุรกิจของรัสเซียทั้งหมด โดยแฟรนไชส์ที่นั่นตกลงที่จะปิดร้านกาแฟทั้งหมดชั่วคราว ซึ่ง Starbucks ยืนยันที่จะจ่ายเงินให้กับพนักงานชาวรัสเซีย 2,000 คนในขณะที่ร้านกาแฟปิด

ด้าน Yum! Brands ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเคนทักกี มีธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในรัสเซีย ได้ยุติการดำเนินงานของร้าน KFC และกำลังสรุปข้อตกลงกับแฟรนไชส์เพื่อหยุดการดำเนินงานร้านอาหาร Pizza Hut ทั้งหมดที่นั่น โดย Yum! Brands จะระงับการลงทุนของรัสเซียและการพัฒนาร้านอาหารใหม่ ปัจจุบันมีร้านอาหาร 1,050 แห่ง เกือบทั้งหมดดำเนินการโดยแฟรนไชส์

Adidas ยังไม่แน่ใจว่าจะเปิดร้านได้เมื่อไร

แม่ทัพของ Adidas ได้กล่าวกับ CNBC ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่า จะสามารถกลับมาเปิดร้านได้เมื่อไร ซึ่ง “ฉันคิดว่านี่ยังเร็วเกินไป สงครามดำเนินมาเป็นเวลาสองสัปดาห์แล้ว และในขั้นตอนนี้เรากำลังตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง”

บริษัทชุดกีฬาของเยอรมนีกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่ากำลังปิดร้านค้าในรัสเซีย และหยุดการขายออนไลน์ชั่วคราวเพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครนของมอสโก Reuters รายงานว่า Adidas มีร้านค้าประมาณ 500 แห่งในรัสเซีย โดยรัสเซียมีรายได้ประมาณ 2% ของ Adidas

Adidas มีพนักงานหลายพันคนในรัสเซียและยังคงจ่ายเงินให้พวกเขาอย่างต่อเนื่อง “แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องพิจารณาในบริบทที่กว้างขึ้น เราจำเป็นต้องปกป้องพนักงานของเรา และบรรเทาสถานการณ์ผ่านการบริจาคและความช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วทั้งภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานของเราในยูเครน” คาสเปอร์ รอร์สเต็ด (Kasper Rørsted) ซีอีโอของ Adidas กล่าว

Sony หยุดขาย PlayStation และซอฟต์แวร์ในรัสเซีย

แบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Sony ได้ประกาศหยุดขายคอนโซล PlayStation และซอฟต์แวร์ในรัสเซีย โดยระบุถึงการเข้าร่วมกับบริษัทอื่นๆ ในระดับโลกเพื่อเรียกร้องสันติภาพในยูเครน

“เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม Sony Group Corporation ประกาศบริจาคเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และองค์กร NGO ระหว่างประเทศ Save the Children เพื่อสนับสนุนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของโศกนาฏกรรมครั้งนี้” คำแถลงของ Sony กล่าวเสริม

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Microsoft ประกาศที่จะหยุดการขายผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ทั้งหมดในรัสเซีย ซึ่งรวมถึงเกมคอนโซล Xbox, ซอฟต์แวร์ และบริการสมัครสมาชิก Epic Games

ทั้งนี้การตัดสินใจของ Sony เป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรม เพราะ Sony มีสถานะที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียเมื่อเทียบกับผู้ผลิตคอนโซลรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรม

ไม่มีซูเปอร์คาร์สำหรับชาวรัสเซียอีกแล้ว

Ferrari แบรนด์อิตาลีซึ่งเป็นที่รักของบรรดามหาเศรษฐีระดับโลก ได้หยุดสร้างรถยนต์สำหรับตลาดรัสเซีย และให้คำมั่นว่าจะบริจาคเงิน 1 ล้านยูโรให้กับยูเครนเพื่อบรรเทาทุกข์

“จากสถานการณ์ที่ดำเนินอยู่ Ferrari ได้ตัดสินใจระงับการผลิตรถยนต์สำหรับตลาดรัสเซียจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม” ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้กล่าวเมื่อวันที่ 8 มีนาคม การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ผู้บริหารบอกกับนักข่าวในงานแถลงข่าวที่เมืองเซบียา ประเทศสเปน ว่าพวกเขาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและยังไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร

แบรนด์ซูเปอร์คาร์มีตัวแทน 2 แห่งในรัสเซียจากจำนวน 172 แห่งทั่วโลก ส่งรถไปที่นั่นน้อยกว่า 100 คัน จากการส่งมอบทั่วโลกประมาณ 11,000 คันในปี 2021

บริษัทอายุ 75 ปีรายนี้เป็นหนึ่งในแบรนด์ยานยนต์ที่ยุติการดำเนินงานในรัสเซียเช่นเดียวกับ Volkswagen, BMW, General Motors, Ford Motor, Toyota Motor, Harley-Davidson, Volvo และ Daimler Truck Holding

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตหลายรายที่หยุดการผลิตในรัสเซีย กำลังเผชิญกับปัญหาด้านซัพพลายเชนและความท้าทายอื่นๆ ด้วยผลลัพธ์ที่ตามมาในวงกว้าง

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Renault ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส สูญเสียมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ใน 3 เนื่องจากรัสเซียได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เข้มงวด โดย Renault มีรายได้ประมาณ 10% จากรัสเซีย และได้ระงับการผลิตที่โรงงานประกอบในมอสโกเมื่อวันที่ 9-18 มีนาคม โดยรัสเซียนั้นเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองสำหรับ Renault

เครือ Volkswagen ซึ่งส่งมอบรถยนต์ 216,000 คัน รวมถึง Porsche, Lamborghini และ Bentley ไปยังรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว คิดเป็น 2.4% ของยอดขายทั่วโลก ถูกบีบให้ต้องหยุดการผลิตในบางแบรนด์ แม้กระทั่งนอกรัสเซีย รวมถึงการหยุดการผลิต Porsche บางส่วนในยุโรป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ภาพ: Oleg Nikishin / Getty Images

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH