×

McDonald’s ไม่ขอยอมแพ้ใน ‘ตลาดไก่ทอด’ ดึง ChatGPT มาช่วยค้นหารสชาติที่ลูกค้าชอบ เชื่อจุดเด่นจะช่วยสร้างการเติบโตต่อเนื่อง

28.03.2023
  • LOADING...
McDonald’s

ด้วยความที่ ‘ไก่ทอด’ เป็นตลาดที่มีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท และเป็นเซกเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดฟาสต์ฟู้ดทำให้ ‘McDonald’s’ ที่เป็นเจ้าตลาดเบอร์เกอร์อดใจไม่ไหว ขอฮึดสู้อีกสักตั้ง!

 

ย้อนกลับไป McDonald’s เริ่มจริงจังกับไก่ทอดเมื่อราว 7 ปีก่อนด้วยการเปิดตัว ‘แมคไก่ทอดจัมโบ้’ ที่มีจุดเด่นกับขนาดใหญ่กว่าเดิม 45% ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนากว่า 1 ปี และใช้เงินอีกกว่า 50 ล้านบาทในการโปรโมต

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

วันเวลาผ่านไปไม่มีใครรู้ว่า ไก่ทอดของ McDonald’s ประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะแบรนด์เองก็เลี่ยงที่จะพูดถึงยอดขาย แต่ก็ใช่ว่าจะทิ้งไปเลยด้วยการมีเมนูอยู่เรื่อยๆ 

 

จนมาถึงยุคของ ‘กิตติวรรณ อนุเวชสกุล’ ที่ขึ้นเป็นแม่ทัพที่เป็นผู้หญิงคนแรกของ McDonald’s ในปีที่ผ่านมา ได้ตัดสินใจหันมาโฟกัสเมนูไก่ทอดอีกครั้ง 

 

“แม้ตลาดไก่ทอดจะมีการแข่งขันสูง แต่นี่เป็นตลาดที่ใหญ่มากและยังมีโอกาสอีกมาก” กิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด กล่าว และระบุเพิ่มว่า “ปัจจุบันเมนูจากไก่ (ไก่ทอดและเบอร์เกอร์) มีสัดส่วนยอดขาย 17% ปีนี้เราต้องการขยับขึ้นเป็น 25-30%”

 

ให้ ChatGPT มาช่วยค้นหารสชาติที่ลูกค้าชอบ

ไม่แปลกที่ McDonald’s อยากขายไก่ทอดมากขึ้น ข้อมูลจาก GrabFood ระบุว่า ปีที่ผ่านมาเมนูที่ขายดีที่สุดคือ ‘ไก่ทอด’

 

ในเมื่อคนไทยชอบไก่ทอด McDonald’s เองก็ขายอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจะทำอย่างไรให้มีรสชาติที่ถูกปาก ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตบเท้าเข้ามาซื้อครั้งที่ 2

 

สิ่งที่ McDonald’s ทำคือนอกจากใช้ข้อมูลภายในแล้ว ยังใช้ ChatGPT ซึ่งเป็น AI มาแรงแห่งยุคมาช่วยประเมินว่ารสชาติแบบไหนที่ผู้บริโภคชอบที่สุด โดยเฉพาะ Gen Z ที่จะพัฒนาเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญต่อไปในอนาคต

 

“เราเชื่อว่าจุดแข็งของ McDonald’s จะสามารถสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง” แม่ทัพของ McDonald’s กล่าว

 

ไม่ใช่แค่ McDonald’s เท่านั้นที่อยากเบียดเข้าไปชิมลางในพื้นที่ของ KFC แต่ที่ผ่านมาผู้เล่นในตลาดฟาสต์ฟู้ดก็ตบเท้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้ง Burger King ที่เปิดตัวไก่ทอด ‘ชิกเก้นคิง’ (Chicken King) ซึ่งมีการระบุว่าไทยถือเป็นประเทศแรกของโลกที่ Burger King ลุกขึ้นมาขายไก่มีกระดูก (Bone-in Chicken) ซึ่งก่อนหน้านี้เมนูไก่ที่วางขายมักจะเป็นของกินเล่น

 

รวมไปถึง The Pizza Company ที่ได้ปั้น ‘ชิค-อะ-บูม’ หลังพบว่า ลูกค้าที่เดินเข้าร้านกว่า 25% ล้วนสั่งไก่มากินกับพิซซ่า และการทำเมนูไก่ที่ชัดเจนขึ้นจะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและเฟิร์สจ็อบเบอร์

 

แน่นอน KFC ย่อมไม่อยู่เฉยๆ ให้คนอื่นมาฉกยอดขายไปจากตัวเอง ดังนั้นนอกจากการทำโปรโมชันรุนแรงแล้ว สิ่งที่เราเห็นคือการใช้งบนับ 100 ล้าน ในการดึงดารามาช่วยโปรโมตด้วยหวังจะดึงฐานแฟนคลับให้กินตาม

 

1 ปีของแม่ทัพคนใหม่ ดันยอดขายเพิ่ม 40%

อย่างไรก็ตาม 1 ปีที่ผ่านมาของ ‘กิตติวรรณ’ ที่ได้เข้ามานำทัพ McDonald’s ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อย ผลประกอบการในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 5 พันล้านบาท เติบโต 40% และมีกำไร 120 ล้านบาท ถ้าเทียบกับปี 2564 มียอดขายเพียง 3.7 พันล้านบาท เรียกได้ว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 มียอดขายต่อเดือนสูงเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

 

“กลยุทธ์เชิงรุกทั้งการพัฒนาเมนูใหม่ๆ ตามด้วยการเพิ่มน้ำหนักบริการทั้งช่องทางหน้าร้านและเดลิเวอรี ตลอดจนการขยายสาขาไปในพื้นที่ทราฟฟิกสูง เจาะกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายเราเติบโต”

 

ทิศทางในปี 2566 ของ McDonald’s นอกจากเจาะเรื่องไก่ทอดแล้ว กิตติวรรณระบุว่า McDonald’s ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์เรื่องของการตั้งราคาและการจัดโปรโมชันที่น่าดึงดูด ผ่านการลอนซ์แคมเปญ อร่อยสุดคุ้ม ราคา 99 บาท ที่ต่อยอดมาจากปีที่ผ่านมา โดยแคมเปญดังกล่าวสามารถสร้างยอดขายมากกว่า 55 ล้านต่อเดือน

 

รวมถึงการร่วมมือกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรีจัดแคมเปญใหม่ๆ เข้ารองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันเดลิเวอรีเติบโต 40% ถ้าเทียบกับช่วงก่อนโควิดอยู่ที่ 20% แม้จะไม่โตแบบก้าวกระโดดเหมือนช่วงโควิด แต่ก็ถือว่ายังมีอัตราการสั่งเหมือนเดิม 

 

ขณะที่ช่องทางนั่งกินหน้าร้านก็กลับมาเติบโต และการใช้จ่ายต่อบิลมากกว่า 100 บาท โดยทุกๆ ช่องทางจะเชื่อมกับแอปพลิเคชันที่มีจำนวนผู้ใช้มากกว่า 3 ล้านคน เพื่อสร้างความถี่ในการใช้บริการที่หน้าร้านและสร้างเอ็นเกจเมนต์กับลูกค้าต่อเนื่อง

 

ลงทุน 300 ล้านใช้ขยายสาขาใหม่

พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมงบการลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาอีก 10-15 แห่ง จากปัจจุบันที่มี 228 สาขา โดยการเปิดใหม่จะมุ่งไปที่สาขาไดรฟ์ทรูเป็นหลัก โฟกัสในบางพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งในกรุงเทพฯ​ และต่างจังหวัด พร้อมกับรีโนเวตสาขาร้านเดิมอีกราวๆ 30 แห่ง

 

การรีโนเวตนอกจากจะช่วยสร้างความสดใหม่ให้กับสาขาแล้ว ยังจะเป็นการเติมจุดแข็งให้กับร้าน เนื่องจากจะเพิ่มปลั๊กไฟและ Free WiFi​ เข้ามาตอบโจทย์เทรนด์ทำงานในปัจจุบัน

 

จากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ McDonald’s ตั้งเป้าสร้างรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 20% ในปี 2566 และเชื่อว่า “บทเรียนที่ผ่านมาในช่วงที่เราเจอความท้าทายจะช่วยทำให้บริษัทพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างการเติบโตได้ระยะยาว” กิตติวรรณกล่าว 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising