×

จากการวิ่ง 13.8 กิโลเมตร ถึงการเปลี่ยน แฮร์รี แม็กไกวร์ ลงสนาม คารวะผลงานมาสเตอร์คลาสของ ‘ETH’

27.02.2023
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 MIN READ
  • เอริก เทน ฮาก ถูกตั้งคำถามมาตั้งแต่แรกว่า ‘มือถึงไหม?’ ในการรับงานแมนฯ ยูไนเต็ด ที่แม้แต่ ‘The Special One’ อย่าง โชเซ มูรินโญ หรือสายเลือดปีศาจอย่าง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ยังไม่ไหว
  • จุดเปลี่ยนที่สำคัญครั้งแรกเกิดขึ้นหลังพ่ายเบรนท์ฟอร์ด 0-4 เมื่อเขาเลือกที่จะสั่งให้ลูกทีมทุกคนกลับมารายงานตัวฝึกซ้อมในวันรุ่งขึ้น และสั่งให้วิ่งเป็นระยะทาง 13.8 กิโลเมตร และวิ่งไปพร้อมกับลูกทีม
  • ปัญหาเหลืออยู่แค่รายของโรนัลโดที่ท้าทายความอดทนและความสามารถในการบริหารจัดการปัญหาของเทน ฮาก เป็นระยะ แต่สุดท้ายศึกครั้งนี้ผู้ชนะคือกุนซือชาวดัตช์ที่หนักแน่นในหลักการ
  • การเปลี่ยนตัว แฮร์รี แม็กไกวร์ กัปตันทีมของสโมสรที่มีสถานะเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม เป็นการแสดงออกถึงความใจกว้างและความใส่ใจในความรู้สึกของลูกทีมทุกคน ต่อให้เขาจะไม่ใช่แกนหลักของทีมอีกต่อไปแล้วก็ตาม

ภาพของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ยืนรออยู่ด้วยรอยยิ้มกว้าง แทนความรู้สึกมากมายได้เป็นอย่างดีต่อทุกคนที่มีใจพันผูกกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

มันคือช่วงเวลาของความสุข และในเวลาเดียวกันคือช่วงเวลาที่ทุกคนอยากขอบคุณชายชาวดัตช์ผู้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงทีมที่เละเทะให้กลับมาเป็นทีมแชมป์ได้อีกครั้ง เพราะต่อให้มันจะเป็นโทรฟีใบเล็ก แต่มันก็เป็นเวลานานถึง 6 ปีแล้วนับจากการคว้าแชมป์ครั้งสุดท้าย และเป็นเวลานานถึง 10 ปีที่พวกเขาไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้

 

เซอร์อเล็กซ์จึงเป็นเหมือนตัวแทนของชาว Red Army ทุกคนที่ขอบคุณและร่วมแสดงความยินดีกับ เอริก เทน ฮาก ที่สามารถทำงานที่ยากที่สุดในโลกให้ลุล่วงได้แล้วในขั้นแรก

 

นำแมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง พาพวกเขากลับมาสู่จุดที่เคยอยู่และควรจะอยู่ นั่นคือการเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จ คว้าชัยชนะ คว้าถ้วยแชมป์ 

 

แฟนปีศาจแดงในสนามเวมบลีย์กว่า 33,000 คน โบกสะบัดผ้าพันคอที่สโมสรจัดเตรียมเอาไว้ให้เป็นพิเศษเพื่อสร้างสีสันและบรรยากาศที่น่าจดจำ ร่วมฉลองไปกับนักเตะในทีมที่อยู่ในอาการดีใจขั้นสุด หลังจากที่สามารถเอาชนะคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่างนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้ในสกอร์เดียวกับที่พวกเขาเคยพบกันครั้งหลังสุดในเวมบลีย์เมื่อปี 1999 

 

ท่ามกลางนักเตะเหล่านั้นมี ราฟาเอล วาราน ชายผู้คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกและแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์​ลีกมามากมาย เช่นเดียวกับ คาเซมิโร อดีตเพื่อนร่วมทีมเรอัล มาดริด ที่จัดเป็นนักเตะผู้พิชิตไม่แตกต่างกัน

 

อีกด้าน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับอาร์เจนตินา (และ ลิโอเนล เมสซี) มาได้ เต้นฉลองร่วมกับ แอนโทนี จอมเลื้อยแซมบ้าที่หากเจอกันเองในอเมริกาใต้รับประกันหวดกันแน่นอน

 

เวาต์ เวกฮอร์สต์ กองหน้าที่เดือนก่อนหน้ายังอยู่กับเบซิคตัสในตุรกี และเคยถูกปรามาสว่าเป็น ‘Burnley Flop’ หรือนักเตะที่ล้มเหลวกับเบิร์นลีย์ สัมผัสถ้วยด้วยความรู้สึกแทบไม่เชื่อสายตาว่าเขาได้โทรฟีรายการแรกในชีวิต และไม่ว่าใครจะมองอย่างไร – แมนฯ ยูไนเต็ด ยังอยู่ในเส้นทางลุ้น 4 แชมป์

 

คนที่ทำให้ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นได้คือเทน ฮาก

 

 

ย้อนกลับไปในช่วงที่แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเพียรหาตัวผู้จัดการทีมคนใหม่ หลังพบแล้วว่าการให้ ราล์ฟ รังนิก รับงานเป็นการชั่วคราวแทนที่ของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมหันต์ และทำให้เกิดสุญญากาศภายในทีมที่นอกจากจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้นแล้ว ทุกอย่างยังเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

 

ชื่อของเทน ฮาก ตีคู่มากับ เมาริซิโอ โปเชตติโน ยอดโค้ชชาวอาร์เจนไตน์ที่ใครก็รู้ว่าเป็นคนที่อยู่ในใจของแมนฯ ยูไนเต็ด มานาน และเทียบกันแล้ว ‘พอช’ ดูจะมีภาษีเหนือกว่าด้วยจากผลงานที่สร้างท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จนกลายเป็นทีมระดับท็อปของประเทศ และเกือบไปถึงจุดสูงสุดของยุโรปมาแล้ว

 

แต่สุดท้ายฝ่ายบริหารตัดสินใจเลือกโค้ชชาวดัตช์ที่ทำผลงานได้ดีกับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มา ท่ามกลางความกังขาอยู่ไม่น้อย

 

‘มือถึง’ ไหม?

 

เพราะปัญหาในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นแม้กระทั่ง ‘The Special One’ อย่าง โชเซ มูรินโญ ยังเอาไม่อยู่ และคนที่เป็นสายเลือดแท้ของสโมสรอย่างโซลชาร์เองสุดท้ายก็พ่ายคลื่นใต้น้ำภายในทีม ว่ากันว่าบรรยากาศภายในโอลด์แทรฟฟอร์ดนั้นเต็มไปด้วยหมอกพิษของความรู้สึกที่เลวร้าย

 

และยังไม่ทันไร เทน ฮาก ก็เจอกับตอใหญ่อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ที่ต้องการย้ายออกจากทีม ไม่ยอมมารายงานตัวฝึกซ้อม และไม่ยอมที่จะเดินทางร่วมทีมมาทัวร์ด้วย เป็นข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก และส่วนตัวผมเองก็อยู่ในห้องแถลงข่าวที่ราชมังคลากีฬาสถานในวันที่เทน ฮาก ต้องตอบคำถามกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของทีม

 

 

สถานการณ์เรื่องของโรนัลโดนั้นต้องบอกว่าเปราะบางและล่อแหลมอย่างมาก การตัดสินใจผิดหรือพลาดแค่นิดเดียวอาจหมายถึงจุดเริ่มต้นของจุดจบได้เลยทีเดียว

 

แต่เทน ฮาก แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของจิตใจที่แน่วแน่ในจุดยืนของการทำงาน ไม่ซวนเซไปกับกระแสหรือคำหว่านล้อม เสียงวิจารณ์

 

เขาเลือกที่จะยืนยันเสมอว่าโรนัลโดคือส่วนหนึ่งของทีม เป็นคนสำคัญ เพื่อลดกระแสทุกอย่างลงก่อน รอวันที่จะได้กลับมาพบ พูดคุย และเคลียร์กัน

 

และเมื่อได้พบกันแล้ว – โดยที่เซอร์อเล็กซ์ถึงกับต้องเดินทางมาถึงสนามซ้อมแคร์ริงตันด้วย – CR7 ยังยืนยันคำเดิมที่ต้องการจะไป และเริ่มออกฤทธิ์ด้วยการเดินออกจากสนามทั้งๆ ที่การแข่งขันยังไม่จบ ซึ่งถือเป็นการท้าทายอำนาจ แต่กุนซือชาวดัตช์ก็ยังรับมือได้อย่างดี

 

แต่นั่นยังไม่เลวร้ายเท่ากับการที่เขาต้องเจอกับความเป็นจริงของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่แพ้อย่างหมดรูปใน 2 เกมแรกของฤดูกาลต่อไบรท์ตัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเบรนท์ฟอร์ดที่ต้อนตือทีม Culture Club อย่างพวกเขาขาดลอยถึง 4-0

 

เทน ฮาก ไม่ได้โวยวายหรือฟูมฟายอะไรในระหว่างเกม แต่เขากำลังครุ่นคิด และนำไปสู่การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง

 

อย่างแรกคือเรื่องสปิริตและวินัยของทีม ซึ่งเขาเลือกที่จะสั่งให้ลูกทีมทุกคนกลับมารายงานตัวฝึกซ้อมในวันรุ่งขึ้น และสั่งให้วิ่งเป็นระยะทาง 13.8 กิโลเมตร

 

โดยระยะทาง 13.8 กิโลเมตร มาจากระยะทางที่นักเตะเบรนท์ฟอร์ดวิ่งรวมกันมากกว่านักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด

 

แต่เขาไม่ได้สั่งให้ลูกทีมวิ่งเปล่า เพราะเทน ฮาก ขอลงไปวิ่งร่วมกับทุกคนด้วยเพื่อเป็นการบอกว่า “เราจะลุยไปด้วยกันไม่ว่าจะยากแค่ไหน” 

 

การวิ่งในวันนั้นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อนักเตะยูไนเต็ดได้เห็นว่าคนที่มาเป็นเจ้านายของพวกเขานั้นหัวจิตหัวใจใช้ได้เลย

 

 

บรรดานักเตะที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมและมีความเป็น ‘ผู้ชนะ’ อยู่ในตัวอย่าง บรูโน แฟร์นันด์ส, ราฟาเอล วาราน หรือ ดาบิด เด เคอา เป็นกลุ่มผู้นำในทีมที่ขอยืนหยัดเคียงข้างเจ้านายนับตั้งแต่นั้น เช่นกันกับทุกคนในทีมที่เห็นพ้องต้องกัน

 

มันนำไปสู่ชัยชนะในลีกนัดแรกของฤดูกาล ด้วยการเอาชนะทีมคู่ปรับตลอดกาลที่ต้อนตือพวกเขาเหมือนลวกหมูนุ่มกินในหม้อตลอดหลายปีอย่างลิเวอร์พูลด้วยชัยชนะ 2-1 ในฟอร์มการเล่นที่เรียกว่าถวายหัวใจสู้

 

นับจากชัยชนะวันนั้น แมนฯ​ ยูไนเต็ด แทบตัดปัญหาเรื่องทีมสปิริตไปได้ โดยปัญหาเหลืออยู่แค่รายของโรนัลโดที่ท้าทายความอดทนและความสามารถในการบริหารจัดการปัญหาของเทน ฮาก เป็นระยะ แต่สุดท้ายศึกครั้งนี้ผู้ชนะคือกุนซือชาวดัตช์ที่หนักแน่นในหลักการ

 

เขาไม่เคยปิดประตูให้โรนัลโด แต่จะลงสนามได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในเงื่อนไขเดียวเท่านั้น คือต้องเล่นให้ดีกว่าคนที่ได้โอกาสอยู่ในเวลานี้ ซึ่งโรนัลโดทำไม่ได้

 

และความจริงหลักการธรรมดานี้ไม่ได้ใช้เฉพาะกับโรนัลโดแต่ใช้กับทุกคน ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน ไม่มีใครที่เป็น ‘ลูกรัก’ ต่อให้เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม แต่หากทำผลงานได้ไม่ดีก็สามารถถูกดรอปและเปิดโอกาสให้คนอื่นลงสนามได้เสมอ

 

แม้กระทั่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เคยโดนลงโทษเพราะนอนตื่นสายมาแล้ว

 

ตรงนี้เองคือสิ่งที่คลายปมปัญหาใหญ่ที่หมักหมมภายในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด มานานลงได้ รวมถึงการตัดสินใจแยกทางกับโรนัลโดที่ยอมระเบิดตัวเองด้วยการออกรายการของ เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรฝีปากกล้าที่เป็นเพื่อนสนิท ซึ่งนำไปสู่การยกเลิกสัญญากันระหว่างสองฝ่ายในเดือนพฤศจิกายน

 

ที่น่าสังเกตคือเมื่อไม่มีโรนัลโด ไปจนถึง พอล ป็อกบา และ เจสซี ลินการ์ด ทีมที่เคยเต็มไปด้วยเรื่องราวก็แทบไม่มีข่าวคลื่นใต้น้ำอีก

 

ที่เหลือสำหรับเทน ฮาก คือการบริหารจัดการทีมในแบบธรรมดา นักเตะคนไหนเล่นดีให้โอกาส นักเตะคนไหนเป็นจุดอ่อน สู้เพื่อนไม่ได้ ก็ให้ไปรอคอยโอกาสจากข้างสนาม แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยเป็นตัวตลก มีคอนเทนต์แทบทุกนัดก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นทีมที่น่าเกรงขาม

 

แม้กระทั่งการเลือกซื้อผู้เล่นที่เคยเป็นปัญหาใหญ่ของยูไนเต็ดมาหลายปี และมีคำถามตั้งแต่ช่วงปิดฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นรายของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย, แอนโทนี, คริสเตียน อีริกเซน และ คาเซมิโร (ผู้ที่มาแทน แฟรงกี เดอ ยอง ในนาทีสุดท้าย แต่กลายเป็นผู้ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงทีมอีกคน) ไปจนถึง เวาต์ เวกฮอร์สต์ และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ที่ยืมมาใช้งานในช่วงเดือนมกราคม ก็กลายเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมทั้งหมด

 

ทุกอย่างนำไปสู่การเอาชนะบาร์เซโลนาได้ในศึกยูฟ่ายูโรปาลีก ในบรรยากาศสุดยอดในโอลด์แทรฟฟอร์ดที่ไม่ได้เห็นและไม่ได้ยินอะไรแบบนี้มานานแล้ว และเมื่อคืนที่ผ่านมากับการเอาชนะทีมที่ยอดเยี่ยมอย่างนิวคาสเซิลได้อย่างน่าประทับใจ

 

 

ตลอด 90 นาทีที่เวมบลีย์ เราได้เห็นความสามารถของเทน ฮาก ในการวางหมากต่อสู้กับกุนซือระดับมันสมองอย่าง เอ็ดดี ฮาว ได้อย่างสนุก มีการชิงเหลี่ยมชิงไหวชิงพริบกันตลอด และกุนซือชาวดัตช์ก็วางหมากได้ดีคู่ควรแก่การเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง ซึ่งเขาเองก็ตระหนักดีว่าแชมป์ใบนี้มีความหมายมากแค่ไหนต่อสโมสร และต่อการสานงานต่อไปสู่เป้าหมายในอนาคต

 

เพียงแต่เขาไม่ได้วางหมากเพื่อรับมือคู่ต่อสู้ เทน ฮาก ยังไม่ยอมให้มีความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อยในวันที่สมบูรณ์แบบของแมนฯ ยูไนเต็ด ยุคใหม่

 

การเปลี่ยนตัว แฮร์รี แม็กไกวร์ กัปตันทีมของสโมสรที่มีสถานะเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม เป็นการแสดงออกถึงความใจกว้างและความใส่ใจในความรู้สึกของลูกทีมทุกคน ต่อให้เขาจะไม่ใช่แกนหลักของทีมอีกต่อไปแล้วก็ตาม

 

“เราชนะด้วยกัน เราฉลองด้วยกัน”

 

และนี่คือผลงานในระดับมาสเตอร์คลาสของเอริก เทน ฮาก ผู้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ภายในระยะเวลาแค่ 8 เดือนที่คู่ควรแก่การได้รับการคารวะ

 

เพียงแต่นี่ยังเป็นแค่ ‘ขั้นแรก’ เท่านั้น

 

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสามารถไปได้ไกลกว่านี้อีก สูงกว่านี้อีก นี่เพิ่งเริ่มเท่านั้น

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising