เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับรายการทำอาหารที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จที่สุดในชั่วโมงนี้อย่าง มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย ซีซัน 2 ที่นับต่อจากนี้ไปอีกเพียงแค่ 2 ตอน ผู้ชมก็จะได้ทราบแล้วว่าใครจะเป็นผู้คู่ควรที่สุดสำหรับตำแหน่งแชมป์ในซีซันนี้ และดูเหมือนว่าความตื่นเต้นของรายการจะยังคงพุ่งสูงขึ้นอีก จากกฎในสัปดาห์นี้ที่จะต้องคัดคนออก 2 คน และ 2 คนที่ว่าก็เป็นผู้เข้าแข่งขันที่แข็งแกร่งมาเสมอตลอดระยะเวลาในการแข่งขัน ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชมก็ต่างช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันถ้วนหน้า
สิ่งหนึ่งที่เราชื่นชอบเกี่ยวกับรายการนี้คือคณะกรรมการทั้งสามท่านที่ตัดสินการแข่งขันอย่างตรงไปตรงมา และสิ่งที่เชฟป้อม-มล.ขวัญทิพย์ เทวกุล เคยพูดในรายการนี้ว่า ‘การแข่งขันนี้ไม่มีการสะสมแต้มบุญ’ ก็ดูจะเป็นเรื่องจริง เพราะเมื่อไรที่ผู้เข้าแข่งขันผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวนั่นคือการเดินออกจากรายการไปในทันที และในสัปดาห์นี้การแข่งขันนั้นเกิดความผิดพลาดขึ้นอยู่บ่อยครั้งจากอาการประหม่าของผู้เข้าแข่งขันก็ดี หรือการไม่รู้จักวัตถุดิบและวิธีการทำอาหารที่ถูกต้องก็ดี จึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียดตลอดการแข่งขัน ยังดีที่สัปดาห์นี้ มล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ เลือกจะกลบความเครียดด้วยการปล่อยมุก ‘คำผวน’ ที่ทำให้เรามองภาพของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
แงะวัตถุดิบ: ปูอลาสก้า ราชาของปูทั้งปวง
ครั้งนี้ในรอบกล่องปริศนา (Mystery Box) นอกจากจะเป็นการแข่งขันกล่องปริศนาครั้งสุดท้ายแล้ว ยังถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งในรายการเช่นกัน ซึ่งไม่ได้ยากด้วยตัววัตถุดิบหลักอย่างปูอลาสก้าแต่อย่างใด แต่การแข่งขันนั้นยากเพราะผู้เข้าแข่งขันต่างจะต้องฟาดฟันความคิดสร้างสรรค์กันให้เกิดเป็นเมนูที่สมกับการเป็น 5 คนสุดท้ายของรายการ
วัตถุดิบหลักในรอบนี้คือ ปูอลาสก้า (Alaskan King Crab) อันเป็นอาหารทะเลรสเลิศที่ มล.ภาสันต์ กล่าวไว้ในรายการว่าเป็นอาหารทะเลที่จับยากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่า อาชีพประมงปูอลาสก้ายังได้ชื่อว่าเป็นอาชีพหนึ่งที่อันตรายที่สุดในโลก เพราะส่วนใหญ่แล้วเรือประมงที่ลอยเรืออยู่ในทะเลเบริง (ช่องแคบในทะเลแปซิฟิกระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศรัสเซีย) เพื่อจัดการกับปูอลาสก้าที่เดินทางมาวางไข่ในฤดูวางไข่ ชาวประมงจะต้องทำงานกันท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บที่ 0 องศา เผชิญคลื่นทะเลที่สูงถึง 7-10 เมตรเสมอตลอดระยะเวลา 3 เดือนในการออกเรือในช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่ถึงจะอันตรายมากแค่ไหน ในทางกลับกันอาชีพนี้นับเป็นอาชีพที่ทำรายได้สูงมากต่อครั้งถึงราว 50,000 เหรียญสหรัฐขึ้นไป หรือประมาณครั้งละ 1.5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่สูงมากทีเดียว
เก็บทิปส์: ปูอลาสก้า
ถึงแม้เปลือกของปูอลาสก้าจะดูแข็งและแกะยาก แต่จริงๆ แล้วเพียงแค่ใส่ถุงมือและบิดส่วนก้ามของปูออก ก็สามารถบิดออกได้อย่างง่ายดายดังที่เชฟเอียนแนะเอาไว้ในรายการ
ส่องสูตรเด็ด: ความน่าปวดหัวอาหารอินเดีย
ในรอบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ (Invention Test) ก็นับว่าเป็นอีกโจทย์ที่หินสุดๆ กับการให้ทำ ‘อาหารอินเดีย’ ที่มีความซับซ้อนทางรสชาติ ความหลากหลายของเครื่องปรุง และวิธีการทำ โดยผู้ที่ชนะในรอบแรกอย่าง ‘จ๋า’ นั้นเป็นผู้เลือกโจทย์ดังกล่าวด้วยตัวเองให้กับเพื่อนๆ คนอื่น ส่วนโจทย์ที่เธอเลือกให้ตัวเองด้วยสิทธิของผู้ชนะคือ ‘อาหารอิตาเลียน’ ที่เธอคิดว่าง่ายกว่า แต่ผู้ชมพบว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะคณะกรรมการทั้งสามคนเข้ามากดดันในทุกจุดของการแข่งขันอย่างใกล้ชิด
ผู้เข้าแข่งขันอย่าง ‘เดียว’ เลือกจะทำแกงออริจินัลชนิดหนึ่งของอินเดียอย่าง ‘แกงกรุหม่า’ ซึ่งเป็นแกงที่มีรสชาติเปรี้ยวนำจากรสชาติของโยเกิร์ตที่นำไปหมักกับเนื้อสัตว์ รวมไปถึงโดดเด่นด้วยรสชาติของเครื่องเทศอย่างยี่หร่า ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นจานที่ดีที่สุดในสัปดาห์นี้ไปโดยปริยายทั้งในเรื่องรสชาติและความคิดสร้างสรรค์
ส่วนอีกจานหนึ่งของ ‘เฟิร์ส’ ก็ดูจะน่าสนใจกับการเลือกทำอาหารอย่าง ‘บิรยานี’ หรือ ‘ข้าวหมกเนื้อ’ ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว ข้าวหมกเนื้อที่เราคุ้นเคยนี้เป็นอาหารชาววังโบราณของชาวอินเดีย และกรรมวิธีการทำอาหารด้วยการนำข้าว เนื้อสัตว์ และเครื่องเทศหุงลงไปพร้อมๆ กัน ยังเป็นวิธีการทำอาหารที่ถูกคิดค้นโดยชาวเอเชียกลางเป็นครั้งแรกตามบันทึกโบราณของอินเดียอีกด้วย
สัปดาห์หน้าจะมีวัตถุดิบ เมนู สูตรลับ และทิปส์ดีๆ อะไรจาก มาสเตอร์เชฟประเทศไทย บ้าง ต้องติดตาม
ชมย้อนหลัง EP.15 ได้ที่นี่
Photo: MasterChef Thailand
อ้างอิง:
- adventure.howstuffworks.com/outdoor-activities/fishing/fish-conservation/responsible-fishing/alaska-fishing.htm
- deepsouthwatch.org/th/node/11382
- MasterChef คือรายการแข่งขันทำอาหารลิขสิทธิ์จากสหราชอาณาจักร ออกอากาศครั้งแรกในปี 1990 อายุรายการราว 28 ปี เป็นรายการที่เปิดโอกาสให้คนธรรมดาทั่วไปที่มีใจรักในการทำอาหารได้เข้ามาแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัล และที่สำคัญ ผู้ชนะจะได้จัดทำ Cookbook หรือตำราทำอาหารเป็นของตัวเองด้วย โดยรายการถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างใน 40 กว่าประเทศทั่วโลก
- หากอยากรู้เรื่องปูอลาสก้า แนะให้หาชมสารคดีที่ฉายในปี 2005 ทาง Discovery Channel เรื่อง Deadliest Catch กันได้