×

Mask Girl แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก สู่ความดาร์กและมหากาพย์การล้างแค้น

23.08.2023
  • LOADING...
Mask Girl

HIGHLIGHTS

  • ในจำนวน 7 ตอนของ Mask Girl นั้นจะตั้งชื่อตามตัวละครแต่ละคน เรื่องราวที่ครอบคลุมมุมมองของตัวละครนั้นๆ และเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีผลกับตัวละครอื่นๆ
  • ในพาร์ตแรก ซีรีส์เน้นย้ำเรื่องมาตรฐานความงามและการเรียกร้องความสนใจที่ไม่ใช่แค่ตัวละครหลัก แต่ยังหมายถึงตัวละครเสริมอย่าง พัคกีฮุน (ชเวแดเนียล) เจ้านายหนุ่มสุดเพอร์เฟกต์ ผู้ขยันโชว์ร่อง 11 แลกไลก์ผ่านโลกออนไลน์ และ อีอารึม (พัคจองฮวา) เพื่อนร่วมงานที่รู้จักใช้ Beauty Privilege เพื่อประโยชน์ในการงาน
  • หลังจาก 2 ชั่วโมงแรกก็ดูเหมือนซีรีส์จะพาคนดูไปสู่เส้นทางใหม่ คือการสืบสวน ไล่ล่า และล้างแค้น จากแม่ที่ทวงความยุติธรรมให้กับลูกชายในนามของพระเจ้า โดยได้คุณป้านาตาชา ยอมฮเยรัน จาก The Glory มาถ่ายทอดบทบาทนี้ได้อย่างดีเยี่ยม

หลังจากสตรีมแค่เพียงวันเดียว Mask Girl ก็ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ของ Netflix ในประเทศไทย สมฐานะซีรีส์ที่สร้างจากเว็บตูนยอดนิยม ด้วยเนื้อเรื่องที่รวบรวมเอาหลากหลายประเด็น ทั้งมาตรฐานความงาม ตัวตน คนที่ถูกมองข้าม รวมไปถึงมหากาพย์การล้างแค้นที่สาแก่ใจคนดู มาร้อยเรียงเข้าด้วยกันผ่านธีมหลักที่ว่าด้วยความต้องการเป็น ‘ที่รัก’ ของใครสักคน

 

Mask Girl เป็นเรื่องราว คิมโมมี (อีฮันบยอล, นานะ และ โกฮยอนจอง) หญิงผู้เคยฝันที่จะเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง แต่ด้วยรูปลักษณ์รวมถึงการเลี้ยงดูจากแม่และสังคมรอบข้าง ทำให้ต้องหยุดความฝันไว้แค่นั้น ปัจจุบันโมมีเป็นเพียงสาวออฟฟิศชีวิตน่าเบื่อ จึงสานต่อจินตนาการผ่านโลกออนไลน์ในชื่อ Mask Girl สาวเซ็กซี่ภายใต้หน้ากาก เต้นรำยั่วๆ บดๆ และเปิดโอกาสให้ผู้ชายเข้ามาจีบผ่าน Live Streaming จนมีฐานแฟนคลับมากมาย หนึ่งในนั้นคือเพื่อนร่วมงาน จูโอนัม (อันแจฮง) หนุ่มโอตาคุที่เติบโตมาภายใต้แรงกดดันของ คิมคยองจา (ยอมฮเยรัน) ผู้เป็นแม่ และมักถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง ทำให้เขาเป็นคนเก็บตัว โดยมี Mask Girl เป็นที่พึ่งทางใจ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมที่นำมาสู่ความวุ่นวาย และทำให้ชีวิตของพวกเขาพบเจอกับหายนะจนยากจะหวนคืน 

 

Mask Girl เล่าเรื่องผ่านหลายช่วงเวลา รวมทั้งมีการพัฒนาด้านรูปลักษณ์และตัวตน จึงทำให้มีคิมโมมีหลายคน ซึ่งต้องชื่นชมการแคสติ้งที่เลือกนักแสดงได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น อีฮันบยอล ผู้ชนะจากการคัดเลือกผู้หญิงกว่า 1,000 คนเพื่อมารับบทนี้ ที่สำคัญรูปร่างหน้าตายังถอดแบบมาจากเว็บตูนไม่ผิดเพี้ยน และแม้เป็นการแสดงเรื่องแรก แต่เธอก็ถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของหญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์ที่มักถูกมองข้ามได้เป็นอย่างดี 

 

 

ในขณะที่ นานะ อดีตไอดอลจากวง After School มารับช่วงต่อในตอนที่คิมโมมีผ่านการศัลยกรรมจนสวยแล้ว แต่กลับไม่ได้มีความสุขอย่างที่คิด ซึ่งออกจะเป็นเรื่องตลกร้ายที่เลือกเอานานะ ผู้เคยได้ตำแหน่งผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยสุดในโลกจาก TC Candler 2 ปีซ้อน มารับบทนี้ ส่วนคนสุดท้ายคือ โกฮยอนจอง ในบทคิมโมมี ที่ผ่านชีวิตบอบช้ำจนเข้าใกล้ผู้ป่วยทางจิตเข้าไปทุกที 

 

 

ในจำนวน 7 ตอนของ Mask Girl นั้นจะตั้งชื่อตามตัวละครแต่ละคน เรื่องราวที่ครอบคลุมมุมมองของตัวละครนั้นๆ และเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีผลกับตัวละครอื่นๆ โดยใน 2 ตอนแรกแทบจะถอดแบบออกมาจากเว็บตูน ทำให้ยังมีอารมณ์ความเป็นอนิเมะกึ่งสยองขวัญปะปนอยู่ ขณะเดียวกันก็สอดแทรกพลวัตเรื่องเพศ ทั้งด้านความไม่มั่นคงของโมมี จนทำให้เธอโหยหาความสนใจจากผู้ชาย และโอนัมก็สะท้อนภาพโอตาคุผู้หมกมุ่นเรื่องเพศในโลกเสมือนจริง แต่ไม่อาจใช้ชีวิตในสังคมอย่างคนปกติได้ สอดแทรกไปด้วยเรื่องมาตรฐานความงามและการขายบริการทางเพศแบบซอฟต์คอร์ ซึ่งใช้ช่วงเวลาปี 2009 ที่โปรแกรม Live Streaming ทำนองนี้กำลังเฟื่องฟู โดยออกแบบให้ทั้งโมมีและโอนัมคือคนนอกรีต แต่สามารถแสดงตัวตนผ่านโลกออนไลน์ที่ทำให้ปัญหาของพวกเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  

 

ในพาร์ตแรก ซีรีส์เน้นย้ำเรื่องมาตรฐานความงามและการเรียกร้องความสนใจที่ไม่ใช่แค่ตัวละครหลัก แต่ยังหมายถึงตัวละครเสริมอย่าง พัคกีฮุน (ชเวแดเนียล) เจ้านายหนุ่มสุดเพอร์เฟกต์ ผู้ขยันโชว์ร่อง 11 แลกไลก์ผ่านโลกออนไลน์ และ อีอารึม (พัคจองฮวา) เพื่อนร่วมงานที่รู้จักใช้ Beauty Privilege เพื่อประโยชน์ในการงาน เป็นภาพสะท้อนชีวิตปัจจุบันที่ผู้คนต้องการการยอมรับไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรืออย่างในฉากที่คิมโมมีนัดเจอกับคนแปลกหน้าผ่านโลกออนไลน์ เมื่อเขาชื่นชมว่าเธอคือสเปกของคนต่างชาติ สีหน้าและแววตาของโมมีก็เปล่งประกายเหมือนได้ค้นพบที่ทางของตัวเอง…น่าเสียดายที่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น 

 

 

 

หลังจาก 2 ชั่วโมงแรกก็ดูเหมือนซีรีส์จะพาคนดูไปสู่เส้นทางใหม่ คือการสืบสวน ไล่ล่า และล้างแค้น จากแม่ที่ทวงความยุติธรรมให้กับลูกชายในนามของพระเจ้า โดยได้คุณป้านาตาชา ยอมฮเยรัน จาก The Glory มาถ่ายทอดบทบาทนี้ได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้นึกถึงตัวละครในภาพยนตร์ของ Joel Coen และ Ethan Coen พร้อมๆ กับได้เห็นชีวิตหลังศัลยกรรมของคิมโมมีที่ค่อยๆ ดำดิ่งลงเรื่อยๆ แม้จะกลายเป็นจุดสนใจแบบที่อยากเป็น แต่ก็ห่างไกลจากสิ่งที่ฝันไว้มากทีเดียว 

 

แม้เส้นเรื่องจะอยู่ในโทนที่พาไปสู่เส้นทางการล้างแค้น แต่ก็ยังคงวกกลับไปสู่ประเด็นการยอมรับผ่านชีวิตตัวละครรุ่นลูก ผู้มีชีวิตไม่แตกต่างจากคิมโมมี จะแตกต่างก็ตรงที่ความฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ที่คนบงการชักใยกลับกลายเป็นคนในสายเลือดตัวเอง และเป็นอีกครั้งที่ผู้เขียนนึกถึงภาพยนตร์ที่น่าจะเป็นเรเฟอเรนซ์อย่าง Oldboy นอกจากนี้ยังตั้งคำถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงเพราะเขาต้องการการยอมรับจากใครสักคนเท่านั้นเอง 

 

 

โดยภาพรวม Mask Girl คือซีรีส์ดูสนุกแบบหยุดไม่ได้ จนเมื่อดูไปถึงกลางเรื่องก็อาจจะสงสัยว่า มันทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ในขณะเดียวกันซีรีส์ก็ตกหลุมพรางด้วยการใส่ประเด็นหลากหลาย จนทำให้ความน่าสนใจของเรื่องมาตรฐานความงามและความเจ็บปวดเรื่องรูปลักษณ์ตอนต้นเรื่องดูจางไป แล้วแทนที่ด้วยการล้างแค้นเลือดสาดผสมความเมโลดราม่าจากความสัมพันธ์ของแม่และลูก จนเหมือนเป็นซีรีส์คนละเรื่องอยู่เหมือนกัน แม้จะได้เห็นความพยายามของผู้สร้างในการสอดแทรกประเด็นเหล่านี้ไว้ในช่วงท้ายๆ เรื่องอยู่บ้าง แต่ความเข้มข้นของพาร์ตการล้างแค้นก็แย่งซีนประเด็นหลักของเรื่องไปเรียบร้อยแล้ว 

 

อย่างไรก็ตาม Mask Girl ก็ยังคุ้มค่ากับเวลา 7 ชั่วโมงกว่าๆ เรียกได้ว่าไม่เสียเวลาที่จะเปิดดู 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising