เกิดอะไรขึ้น:
วันนี้ (25 มีนาคม) รัฐบาลสหรัฐฯ และสภาคองเกรสได้บรรลุข้อตกลงร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19
โดยรายละเอียดเบื้องต้นจะครอบคลุมถึงงบประมาณ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ การแจกเงิน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐกับประชาชนกว่าหลายล้านครัวเรือน ให้เงินกู้แก่ธุรกิจขนาดเล็ก ให้เงินช่วยเหลือกรณีว่างงาน รวมถึงให้งบสนับสนุนโรงพยาบาล
ทั้งนี้จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่น
กระทบอย่างไร:
ขณะที่สภาคองเกรสกำลังพิจารณาร่างกฎหมายฯ ในช่วงเช้าวันนี้ ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัวอย่างรุนแรง โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.7% ต่อมาในช่วงบ่ายมีรายงานว่าสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการร่างกฎหมายฯ ดังกล่าวได้แล้วทำให้หุ้นเอเชียบวกเพิ่มขึ้นอีก ราว 4.27% นำโดย
– ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (NKY) เพิ่มขึ้น 8.04%DoD
– ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) เพิ่มขึ้น 5.89%DoD
– ตลาดหุ้นไทย (SET) เพิ่มขึ้น 4.47%DoD
– ตลาดหุ้นฮ่องกง (HSI) เพิ่มขึ้น 3.81%DoD
– ตลาดหุ้นจีน (CSI300) เพิ่มขึ้น 2.69%DoD
ขณะที่ช่วงบ่ายตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวแดนบวกเช่นกัน นำโดย
– ตลาดหุ้นอิตาลี (FTMB) เพิ่มขึ้น 4.73%DoD
– ตลาดหุ้นฝรั่งเศส (CAC) เพิ่มขึ้น 4.66%DoD
– ตลาดหุ้นเยอรมนี (DAX) เพิ่มขึ้น 4.29%DoD
– ตลาดหุ้นอังกฤษ (FTSE) เพิ่มขึ้น 4.29 %DoD
ขณะที่ดาวน์โจนส์ฟิวเจอร์ส (DJ-F) เพิ่มขึ้น 3.1%DoD
ข้อมูล ณ เวลา 16.40 น.
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มองว่าการผ่านร่างกฎหมายฯ ดังกล่าวถือเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะสั้น โดยช่วยให้ตลาดคลายความตึงเครียดต่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยได้ในระดับหนึ่ง
ขณะที่ปัจจัยกดดันหลักยังเป็นสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 นอกประเทศจีนที่ลุกลามมากขึ้น รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ประเทศของทางการทั่วโลกยังคงกดดันต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ในระยะสั้นต้องติดตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของทางการทั่วโลกที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงต่อการกดดันต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นได้
มุมมองระยะยาว:
ในกรณีพื้นฐาน SCBS มองยังคงมองว่า สถานการณ์จะแพร่ระบาดของโควิด-19 จะสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม จากการเว้นระยะห่างทางสังคม และอุณหภูมิทั่วโลกที่เริ่มอุ่นขึ้น รวมถึงการคิดค้นวัคซีนเพื่อการยับยั้งการแพร่ระบาด ทั้งนี้ในกรณีปานกลางและเลวร้าย หากการเว้นระยะห่างทางสังคมและอุณหภูมิทั่วโลกที่อุ่นขึ้นไม่ได้ช่วยลดการแพร่บาด ประเมินว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจสิ้นสุดลงในเดือนกรกฎาคมและธันวาคม 2563
ในภาพรวมตลาดหุ้นยังคงมีทิศทางไม่ชัดเจนจนกว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกประเทศจีนที่ลดลง อย่างไรก็ดี ในระยะยาวต้องติดตามการพัฒนา คิดค้นวัคซีนเพื่อยับยั้งการแพร่เชื้อ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ต้องติดตามสำหรับภาพรวมการลงทุน รวมถึงจับตาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนหลังจากที่มีรายงานว่าทางการจีนได้ยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์มณฑลหูเป่ยแล้ว
ข้อมูลพื้นฐาน:
ติดตามบทวิเคราะห์ ‘วิกฤต COVID-19…อ่านก่อนลงทุน (ครั้งที่ 2)’ ได้จากทาง SCBS
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า