×

OSP – ตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพในปี 2567

14.03.2024
  • LOADING...
OSP

เกิดอะไรขึ้น:

บมจ.โอสถสภา (OSP) ตั้งเป้าทวงส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังกลับคืนมา 2% ในปี 2567 สู่ 47.9% หลังจากทำจุดต่ำสุดที่ 45.9% ใน 4Q66 โดยใช้กลยุทธ์คือการเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครื่องดื่มบำรุงกำลังแบรนด์หลักอย่าง M-150 โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น M-150 สูตรดั้งเดิม, สูตรน้ำผึ้ง และสปาร์กลิง ขณะเดียวกันก็ขยายไปสู่กลุ่มผู้บริโภคที่กำลังเติบโต เช่น พนักงานออฟฟิศ, กลุ่ม Millennials และกลุ่มผู้สูงอายุ

 

InnovestX Research คาดว่าการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังจะยังสูงในปี 2567 แต่เชื่อว่าส่วนแบ่งการตลาดของ OSP จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1% สู่ +/-47% ทั้งนี้ ในปี 2566 มูลค่าตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังรวมทั้งหมดอยู่ที่ 2.17 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.9%)

 

ด้านแผนขยายธุรกิจต่างประเทศ OSP ตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2571 ที่ 4 หมื่นล้านบาท ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในระยะ 5 ปีข้างหน้าที่ 9% โดยรายได้ 56% จะมาจากยอดขายเครื่องดื่มในประเทศด้วย 7% CAGR, 22% จะมาจากยอดขายเครื่องดื่มในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยได้รับการสนับสนุนจากการรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังอันดับ 1 ในเมียนมาเอาไว้ได้ และการกลับเข้าสู่เวียดนามและอินโดนีเซียอีกครั้ง, 12% จะมาจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ด้วย 10% CAGR และ 10% จะมาจากกลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะทำ M&A ในระยะเวลาอันใกล้นี้ด้วย

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น OSP ปรับลง 3.35% สู่ระดับ 20.20 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 0.52% สู่ระดับ 1,384.51 จุด

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2567:

InnovestX Research ประมาณการรายได้ปี 2567 ไว้ที่ 2.71 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4.3%) โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศที่เติบโตเล็กน้อย และยอดขายในต่างประเทศที่เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก โดยเมียนมาจะยังคงเป็นตลาดหลักหลังจากยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

 

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 คาดการณ์ที่ 34.8% เพิ่มขึ้นจาก 34.5% ในปี 2566 โดยได้รับการสนับสนุนจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติและอะลูมิเนียมที่ลดลง ค่าใช้จ่าย SG&A น่าจะลดลงโดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการ ‘Fast Forward 10X’ ของ OSP ซึ่งตั้งเป้าลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนลง 0.7-1 พันล้านบาทต่อปี ทำให้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2567 ที่ 2.6 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 9.2%) และคาดว่ากำไร 1Q67 (ไม่รวมรายการพิเศษ) จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ

 

ทั้งนี้ ด้วยมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของ OSP ในปี 2567 ประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้ปรับ PE เป้าหมายลดลงจาก PE เฉลี่ยที่ 35 เท่า สู่ -0.5SD PE ที่ 32 เท่า เพื่อสะท้อนการเติบโตของ EPS ที่อ่อนแอลงในปี 2567 ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 28 บาทต่อหุ้น

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบหลักๆ เช่น ก๊าซธรรมชาติและค่าไฟฟ้า รวมทั้งความผันผวนของปริมาณการขายในตลาด CLMV, นโยบายการเงิน และการฟื้นตัวของการบริโภค

 

ประเด็น ESG: OSP ถูกจัดอยู่ในรายชื่อหุ้น SET ESG Ratings ที่ระดับ ‘AA’ สำหรับปี 2567-2568 OSP ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% ภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising