×

ราคาน้ำมันดิบพุ่ง 5% หวัง OPEC อาจลดกำลังการผลิต หุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวแรง ดัน SET Index บวก 39 จุด

โดย SCB WEALTH
03.03.2020
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

วานนี้ (2 มีนาคม) ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.01%DoD จากความคาดหวังว่า กลุ่มประเทศ OPEC จะลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่ม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของบาห์เรนกล่าวว่า กลุ่ม OPEC จะลดกำลังการผลิตเพิ่มอีก 6 แสนบาร์เรลต่อวัน ในการประชุม OPEC ที่กำลังจะถึงนี้ (5-6 มีนาคม)

 

นอกจากนี้มาตรการทางการเงินที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมันดิบวานนี้ โดย เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นสัญญาวานนี้ว่า จะใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่กำลังเผชิญกับปัจจัยกดดันจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

 

จากคำแถลงของ เจอโรม พาวเวลล์ ทำให้ตลาดคาดหวังว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งถัดไป (18 มีนาคม) และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกเชิง Sentiment ต่อราคาน้ำมันดิบวานนี้

 

กระทบอย่างไร:

วันนี้ (3 มีนาคม) SET Index ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1375 จุด เพิ่มขึ้น 39.30 จุด หรือเพิ่มขึ้น 2.94%DoD โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ (Upstream) ที่ปรับขึ้นแรงตามทิศทางราคาน้ำมัน นำโดย

 

  • บมจ. ไทยออยล์ (TOP) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 9.70%DoD, มีผลกระทบต่อดัชนี +0.76 จุด
  • บมจ. เอสโซ่ ประเทศไทย (ESSO) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.98%DoD, มีผลกระทบต่อดัชนี +0.11 จุด
  • บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.45%DoD, มีผลกระทบต่อดัชนี +0.23 จุด
  • บมจ. ปตท. (PTT) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 3.82%DoD มีผลกระทบต่อดัชนี +3.98 จุด
  • บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 4.67%DoD มีผลกระทบต่อดัชนี +1.84 จุด

 

มุมมองระยะสั้น:

SCBS มองว่า หากกลุ่ม OPEC มีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก จะทำให้อุปทาน (Supply) ของน้ำมันดิบลดลง และเป็นปัจจัยหนุนต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบแก่ผู้ประกอบการพลังงานต้นน้ำ (Upstream) ได้พอสมควร ขณะที่มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก (โดยเฉพาะเฟด) คาดจะช่วยพยุงทิศทางเศรษฐกิจ และจะช่วยลดความกังวลต่ออุปสงค์ของน้ำมันที่กำลังชะลอตัวได้

 

อย่างไรก็ดี SCBS คาดว่า ตลาดได้ตอบรับต่อมาตรการกระตุ้นดังกล่าวมาระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งหากมีการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นออกมา ราคาน้ำมันดิบจะตอบสนองเชิงบวกไปจากนี้ได้อีกไม่มากนัก

 

มุมมองระยะยาว:

SCBS ประเมินว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดนอกประเทศจีนจะรุนแรงเพียง 1 เดือน เช่นเดียวกับประเทศจีน ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการทั่วโลก อุณหภูมิโลกที่เริ่มสูงขึ้นตามฤดูกาล และการคิดค้นวัคซีนใหม่ จะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการผลิตและการบริการทั่วโลกกลับมาดำเนินการปกติ และจะส่งผลให้อุปสงค์ของน้ำมันฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

 

อย่างไรก็ดี หากเกิดสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คาด และทางการทั่วโลกไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ในกรณีเลวร้าย SCBS ประเมินว่า การแพร่ระบาดจะรุนแรงไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งยังคงเป็นความเสี่ยงของภาพรวมการลงทุนที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

 

ข้อมูลเพิ่มเติม:

%DoD คือ % การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับวันทำการก่อนหน้า

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising