เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (23 พฤศจิกายน 2563) บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโตไม่น้อยกว่า 20% โดยมาจากการเติบโตในประเทศ 20% และการเติบโตจากต่างประเทศ 25% ซึ่งหลักๆ จะมาจากประเทศเวียดนาม เมียนมา กัมพูชา และจีน นอกจากนี้บริษัทยังคงกลยุทธ์ลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่ม Gross Margin ให้ดีขึ้น ขณะที่ค่า Sponsorship มีแนวโน้มลดลงในปี 2464
สำหรับยอดขาย Woody C+ Lock บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2564 เติบโต 100% ซึ่งเท่ากับ 100 ล้านขวด
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (24 พฤศจิกายน) ราคาหุ้น CBG ปรับตัวลง 2.07%DoD สู่ระดับ 118.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 18.80 จุด หรือลดลง 1.32%DoD สู่ระดับ 1,401.63 จุด
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าไตรมาส 4/63 CBG จะมีกำไรเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากยอดขายในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น และมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ นอกจากนี้บริษัทยังสามารถควบคุมต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้ Gross Profit Margin ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ SG&A ต่อยอดขายมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าให้ลดลงสู่ระดับ 17% ในปี 2564
มุมองระยะยาว:
SCBS คาดว่าแนวโน้มกำไรในปี 2564 มีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ เนื่องจากรายได้มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นทั้งในและต่างประเทศ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในกลุ่มประเทศ CLMV ขณะที่โรงงานผลิตขวดแก้วและกระป๋องกำลังการผลิต 300 ล้านขวดต่อปีจะเริ่มการผลิตต้นปี 2564 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของบริษัทได้ ขณะที่ผลประกอบการของ INTERCARABAO (ICUK) จะมีผลขาดทุนน้อยลงและมีโอกาสเกิด Impairment ต่ำ
นอกจากนี้เริ่มเห็นการรุกตลาดจีนมากขึ้น โดย CBG ได้ทำ Co-promotion ร่วมกับ PetroChina เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าติดตามต่อไปสำหรับการรุกตลาดต่างประเทศของ CBG
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล