×

AP – ยอดขาย 1H66 คิดเป็น 41% ของเป้าทั้งปี

08.07.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) รายงานยอดขาย 2Q66 ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท (ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 15%QoQ) แบ่งเป็นยอดขายคอนโด 32% มูลค่าเพิ่มขึ้น 43%YoY และ 41%QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจากการเปิดตัวโครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว มูลค่า 3.5 พันล้านบาท (ขายได้แล้ว 40%) และโครงการแนวราบ 68% มูลค่าลดลง 12%YoY แต่เพิ่มขึ้น 6%QoQ 

 

ทั้งนี้ใน 2Q66 AP เปิดตัวโครงการใหม่รวม 14 โครงการ แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 13 โครงการ และคอนโด 1 โครงการ มูลค่ารวม 1.68 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 39%YoY และ 304%QoQ) ยอดขาย 1H66 อยู่ที่ 2.36 หมื่นล้านบาท (ลดลง 7%YoY) คิดเป็น 41% ของเป้ายอดขายที่บริษัทวางไว้ในปี 2566 ที่ 5.8 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15%YoY) แม้เป้ายอดขายดังกล่าวดูท้าทาย แต่ใน 2H66 AP วางแผนเปิดโครงการใหม่มูลค่า 5.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะช่วยหนุนให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น

 

Backlog ในมือแข็งแกร่ง ปัจจุบัน AP มี Backlog (ก่อนรับรู้รายได้ใน 2Q66) มูลค่า 4.23 หมื่นล้านบาท โดย 76% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2566, 15% ในปี 2567, 8% ในปี 2568 และ 1% ในปี 2569 เมื่อแยกตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ พบว่า Backlog 54% เป็นโครงการแนวราบ 43% เป็นคอนโดร่วมทุน และ 6% เป็นคอนโดของ AP 

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น AP ปรับเพิ่มขึ้น 2.65%MoM สู่ระดับ 11.60 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 2.66%MoM อยู่ที่ระดับ 1,490.46 จุด 

 

ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน:

InnovestX Research ประมาณการรายได้ปี 2566 ไว้ที่ 4.08 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6%) โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 3% สู่ระดับที่ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 6 พันล้านบาท ขณะที่คาดกำไรสุทธิ 2Q66 น่าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ และทรงตัว YoY เพราะไม่มีคอนโดใหม่สร้างเสร็จและโอน แต่จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่โครงการ Rhythm เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน อย่างต่อเนื่อง 

 

ทั้งนี้ใน 2H66 มีคอนโดใหม่ 2 โครงการที่มีกำหนดเริ่มโอนกรรมสิทธิ์: The Address สยาม-ราชเทวี (มูลค่าโครงการ 8.6 พันล้านบาท) และ Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ (มูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท)

 

กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ Tactical Call สำหรับ AP ไว้ที่ ‘Outperform’ ด้วยราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 14 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PE 7.5 เท่า (+0.25SD)

 

ปัจจัยเสี่ยงและความกังวลที่ต้องจับตาคือ 

  1. การขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องใน 2H66 และแนวโน้มอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ โดยจะต้องจับตาดูคุณภาพของผู้ซื้อ 
  2. การบริหารจัดการสินค้าคงเหลือจากการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมากในปี 2565 ประกอบกับการเปิดตัวโครงการใหม่หลายโครงการในปี 2566  
  3. การแข่งขันที่สูงขึ้นจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น 
  4. ความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำช่วงปลายปีนี้
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising