×

การปรับโครงสร้างการถือหุ้นของ AAV จะเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินเพื่อสนับสนุนต่อการฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ

โดย SCB WEALTH
25.10.2021
  • LOADING...
AAV

เกิดอะไรขึ้น:

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ได้ประกาศแผนการปรับโครงการถือหุ้นซึ่งรวมถึง บจ.ไทยแอร์เอเชีย (TTA) โดย AAV จะเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท และออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 8,000 ล้านหุ้น (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท) ด้วยราคาเสนอขาย 1.75 บาทต่อหุ้น จำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับทั้งหมดอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนมีดังนี้ 

 

  1. การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) (มูลค่า 8.8 พันล้านบาท) สำหรับ AirAsia Aviation Limited (เป็น Holding Company ที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย AirAsia Group Berhad) และนักลงทุนรายใหญ่บุคคลธรรมดา 6 ราย 

 

  1. การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (RO) (3.0 พันล้านบาท) ซึ่งรวมถึงบุคคลในวงจำกัด (PP) ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 5.7625 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน 

 

  1. การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ (2.2 พันล้านบาท) แผนดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 

 

โดย AAV จะใช้เงินจำนวน 7.8 พันล้านบาท เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ TAA (จากสัดส่วนการถือหุ้นปัจจุบันที่ 55%) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 1Q65 และ AAV อาจพิจารณานำเงินส่วนที่เหลือจำนวน 6.2 พันล้านบาท ไปเพิ่มทุนใน TAA เพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของ TAA ในอนาคต 

 

นอกจากนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม 2564 ผู้บริหารกล่าวว่าภายใต้แผนล่าสุด AAV จะได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในเดือนธันวาคม (จาก PP) ถึง 1Q65 หรือ 2-3 เดือน หลังจาก EGM ซึ่งใช้ระยะเวลาสั้นกว่าแผนเดิม (ประกาศในเดือนเมษายน) สำหรับการนำ TAA เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนที่ AAV จะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน

 

กระทบอย่างไร:

ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้น AAV ปรับตัวลง 7.7%WoW สู่ระดับ 2.86 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2564)

 

มุมมองระยะสั้น:

SCBS คาดว่าเงินเพิ่มทุนจำนวน 6.2 พันล้านบาท ที่ AAV อัดฉีดให้กับ TAA จะไม่เพียงพอที่จะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของ TAA กลับมาเป็นบวกได้ เนื่องจาก TAA มีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบอยู่ 9.7 พันล้านบาท (ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564) อย่างไรก็ดี SCBS มองว่าการเพิ่มทุนให้กับ TAA จะช่วยสนับสนุนฐานะทางการเงินในแง่ของการเตรียมสภาพคล่องให้พร้อมสำหรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งของประเทศไทย

 

หลังจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นเสร็จสิ้นจำนวนหุ้นของ AAV จะเพิ่มขึ้นจาก 4,850 ล้านหุ้น สู่ 12,850 ล้านหุ้น คิดเป็น Dilution Effect ที่ 62% และ AirAsia Aviation Limited จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ AAV ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 40.7% ตามมาด้วย ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ที่สัดส่วน 18% และ AAV จะถือหุ้นใน TTA สัดส่วน ~100% ก่อนที่จะนำ TTA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

 

สำหรับทิศทางผลประกอบการ 3Q64 ของ AAV จะเชิญกับผลขาดทุนอย่างมากเนื่องจากการระบาดของโควิดระลอก 3 ที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ภาครัฐต้องใช้มาตรการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ขณะที่ผลประกอบการ 4Q64 จะดีขึ้น YoY และ QoQ (ขาดทุนลดลง) หลังจากภาครัฐเริ่มออกผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ รวมถึงมีการออกมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวอย่างเราเที่ยวด้วยกันเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 พฤศจิกายน

 

มุมมองระยะยาว:

SCBS คาดว่าผลประกอบการของ AAV จะยังเผชิญกับผลขาดทุนอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2565 แต่จะปรับตัวดีขึ้นในปี 2566 และจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ในปี 2567 โดยได้รับการสนับสนุนจากการกลับมาเปิดให้บริการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising