ท่ามกลางกระแสการพัฒนาที่ดุเดือดของการพัฒนาที่ดินย่านราชประสงค์ และตลอดเส้นถนนสุขุมวิท อย่างการเปิดตัวศูนย์การค้าใหม่อย่าง EMSPHERE การกลับมาของ Gaysorn Amarin จากข้อมูลของกรมธนารักษ์ ได้ประเมินราคาที่ดินใจกลางเมืองที่มูลค่าสูงถึง 1,000,000 บาทต่อตารางวา โดยเฉพาะราคาที่ดินราชประสงค์ ชิดลม เพลินจิต มีราคาที่สูงขึ้นถึง 4 เท่าจากช่วงหลังเหตุการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา
โดยบริเวณอาคารมณียาและโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เป็นจุดที่กรมธนารักษ์ประเมินราคาไว้ที่ประมาณ 700,000-800,000 บาทต่อตารางวา และศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) มีการประเมินราคาสูงกว่ากรมธนารักษ์อยู่ที่ราว 3,000,000 บาทต่อตารางวา จึงน่าจับตาว่าในมุมของธุรกิจ เมื่อที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้นขนาดนี้ ทำให้ถือเป็นพื้นที่ทองคำที่นักลงทุนจับตามอง อาคารมณียาเซ็นเตอร์, อาคารมณียานอร์ธ, เดอะ รอยัล มณียา ทาวเวอร์ และโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ นั้นมีมูลค่ารวมสูงหลายพันล้านบาท
ปัจจุบันกลุ่มมณียา เรียลตี้ ที่ดำเนินกิจการมากว่า 40 ปี มีสองพี่น้องตระกูลศักดิเดชภาณุพันธ์นั่งแท่นบริหารงาน โดย ม.ล.ศรุศักดิ์ ศักดิเดชภาณุพันธ์ นั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ม.ล.เพ็ทรา ศักดิเดชภาณุพันธ์ กรรมการบริหารดูแลส่วนงานการตลาด ถือเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ที่เข้ามาบริหารงานท่ามกลางกระแสการต่อสู้ดุเดือดในตลาดการพัฒนาอสังหา หากประเมินมุมธุรกิจมีคำถามที่น่าสนใจว่า การบริหารในธุรกิจเดิมที่มีอยู่นั้นคุ้มค่ามากกว่าการเลือกขายที่ดินหรือไม่
ล่าสุดมณียา เรียลตี้ เดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาทัศนียภาพ ปรับปรุงพื้นที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ กับทัศนียภาพให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มมากขึ้น และยังถือเป็นกลยุทธ์ในการเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจที่พักให้กับลูกค้า มุ่งเน้นให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ด้วยโลเคชันใจกลางเมืองย่านธุรกิจ และแหล่งช้อปปิ้งลักชัวรี ซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว โดยกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน ได้แก่ อเมริกา สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไต้หวัน นอกจากนี้ ทางโรงแรมมีแผนขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มตลาดยุโรปและตะวันออกกลาง อีกทั้งยังมีบริการในส่วนของห้องประชุม 14 ห้อง เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า MICE และมีห้องรอยัล มณียา บอลรูม ที่สามารถรองรับลูกค้างานจัดเลี้ยงและงานแต่งงานได้มากถึง 600 คน รวมทั้งการขายผ่านช่องทางออนไลน์ของเว็บไซต์ marriott.com ที่เป็นพาร์ตเนอร์ในการบริหารงานโรงแรม
ทั้งนี้ ม.ล.ศรุศักดิ์ เคยให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ว่า ในช่วงแรกที่เข้ามาบริหารนั้น บริษัทต้องเผชิญกับวิกฤตโดยทันที แต่พยายามใช้การรักษาฐานลูกค้าหลักเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด และรอโอกาสฟื้นตัวหลังผ่านพ้นวิกฤตการระบาดของโควิด ในช่วงวิกฤตโควิดคือปี 2020-2022 ส่วนที่ได้รับผลกระทบชัดเจนคือธุรกิจโรงแรม ทำให้ต้องรีบปรับแผนโดยโฟกัสกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น และพยายามประคองธุรกิจให้ผ่านช่วงเวลานั้นไปให้ได้ พร้อมกับเตรียมแผนหลังจากที่ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ
โดยธุรกิจโรงแรมปัจจุบันมีอัตราเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ที่สูงขึ้นกว่าปี 2019 ซึ่งเป็นปีก่อนเกิดโรคระบาด และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังตั้งเป้าหมายในการเพิ่มอัตราการเข้าพักให้สูงขึ้น เพื่อให้สามารถประเมินผลการดำเนินงานในปัจจุบันได้ชัดเจน ทำให้เห็นช่องว่างในการพัฒนามากยิ่งขึ้น และจากความพยายามในการรักษาฐานลูกค้าเดิม จึงทำให้ยังมีโอกาสในการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม
หากถามถึงมูลค่าของที่ดินที่สูงขึ้นหลายเท่าตัวในปัจจุบัน ในแง่ธุรกิจและในฐานะผู้บริหารมองโอกาสนี้อย่างไร ม.ล.เพ็ทรา ได้ให้ความเห็นว่า “เข้าใจดีว่าพื้นที่ตรงนี้มีมูลค่าที่สูงมากจริงๆ แต่ต้องยอมรับว่าการทำธุรกิจนี้เป็นเหมือนมรดกที่ได้รับมาจากครอบครัว นอกเหนือจากมูลค่าเชิงตัวเลขแล้ว การพัฒนาที่ดินผืนนี้ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลและสานต่อกิจการตามคำมั่นสัญญาตั้งแต่ได้รับมอบมาจากคุณหญิงมณี สิริวรสาร คุณย่า แม้ในช่วงที่มาที่รับไม้ต่อธุรกิจจะไม่ใช่ช่วงที่ง่าย เพราะเจอหลายเหตุการณ์ ทั้งโรคระบาด เหตุการณ์ทางการเมือง บริษัทเองต้องแบกภาระต้นทุน ค่าใช้จ่าย และหนี้สินในการบริหารกิจการ แต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะบริหารจนสามารถผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ และยังมุ่งมั่นที่อยากจะสานต่อในการบริหารที่ดินผืนนี้ของครอบครัวต่อไป โดยมุ่งหวังและวางแผนในหลายด้านเพื่อพัฒนาธุรกิจให้รองรับอนาคตได้ ทั้งแผน Renovation ที่จะพลิกโฉมพื้นที่ให้เป็นไปตามยุคสมัย แผนการดูแลลูกค้า ผู้เช่า แผนการพัฒนาคน เพื่อจะเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจได้”
ม.ล.เพ็ทรา ยังเสริมต่อว่า ทั้งสองคนพี่น้องเห็นตรงกันว่าอยากจะรักษาที่ดินนี้ที่ครอบครัวสร้างมา โดยรักษาไปพร้อมกับการพัฒนาพื้นที่ พัฒนาธุรกิจไปพร้อมกัน โดยไม่ได้มุ่งหวังแค่เพียงตัวเลขกำไรแต่เพียงอย่างเดียว เพราะพื้นที่ดินตรงนี้ถือเป็นมรดกที่มีมูลค่าต่อครอบครัวที่ไม่อาจประเมินค่าได้”
ต้องจับตาต่อว่าทิศทางของมณียา เรียลตี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป