Manchester is...? เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ กับทางที่ต้องเลือก และไพ่ตายที่อาจตัดสินอนาคต

ไม่มีสโมสรใดในโลกที่ไม่อยากได้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ แต่ไม่ใช่ทุกสโมสรในโลกที่จะมีศักยภาพในการจ่ายค่าเหนื่อยในระดับ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลขที่มีข่าวว่า ดาวยิงวัย 20 ปีชาวนอร์เวย์ต้องการเป็นค่าตอบแทนสำหรับว่าที่สโมสรใหม่

ทั้งนี้ แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าไอ้หนูมหัศจรรย์ผู้นี้จะย้ายทีมหรือไม่หลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ แต่จากการข่าวแล้วโอกาสที่ฮาลันด์จะย้ายออกจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นั้นดูจะมีมากกว่าการที่จะอยู่ต่อในฤดูกาลหน้า

เหตุผลสำคัญคือการที่ดอร์ทมุนด์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ที่ทำให้ไม่มีแฟนบอลเข้าสนามมาเป็นระยะเวลาครบ 1 ปีแล้ว และยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไร

สำหรับสโมสรที่มีตัวเลขแฟนบอลเข้าชมเฉลี่ยมากที่สุดในยุโรป การไม่มีแฟนบอลแม้แต่คนเดียวสั่นคลอนสถานะทางการเงินของพวกเขาอย่างมาก และทำให้เริ่มมีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการยอมตัดใจปล่อยสตาร์ออกจากทีม

หนึ่งในรายที่มีข่าวก่อนหน้านี้คือ จาดอน ซานโช ปีกจอมเทคนิคที่ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ตกเป็นข่าวการย้ายทีมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างหนัก แต่สุดท้ายการย้ายทีมไม่เกิดขึ้น เพราะดอร์ทมุนด์ยืนกรานค่าตัวที่ 120 ล้านปอนด์ ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปฏิเสธที่จะจ่ายตัวเลขหลักนั้น

จุดยืนของดอร์ทมุนด์ในครั้งนั้นเป็นเพราะมั่นใจว่าในอีก 1 ปีข้างหน้า หากมีสโมสรอื่นร่วมชิงตัวด้วยจะมีโอกาสได้รับเงินค่าตัวมากกว่า 120 ล้านปอนด์แน่นอน เพียงแต่การคาดการณ์นั้นอาจจะผิดไปกว่าความเป็นจริงมาก เพราะเวลานี้ทุกสโมสรในโลก ไม่เว้นแม้แต่สุดยอดสโมสรอย่างบาร์เซโลนา หรือเรอัล มาดริด ต่างก็ประสบปัญหาทางการเงินเข้าขั้นสาหัส

ตามข่าวก่อนหน้านี้ ดอร์ทมุนด์อาจจะพิจารณาในการขายซานโชในราคาไม่ถึง 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเชื่อว่าอาจจะพอมีสโมสรที่ให้ความสนใจอยู่บ้าง

อีกเหตุผลที่อาจจะทำให้ฮาลันด์ย้ายทีมคือ นับตั้งแต่ย้ายมาจากเรดบูล ซัลซ์บวร์ก เมื่อเดือนมกราคมปีกลาย ผลงานของเขานั้นสวนทางกับผลงานของทีมอย่างมาก เพราะในขณะที่สถิติการถล่มประตูของเขายังคงร้อนแรง ไม่ว่าจะในบุนเดสลีกาหรือในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แต่ผลงานของทีมกลับตกต่ำลงไปจากเดิม

พวกเขาไม่มีศักยภาพจะแข่งขันกับบาเยิร์น มิวนิก ในบุนเดสลีกาได้ และนั่นอาจทำให้ฮาลันด์คิดทบทวนตัวเองว่า บางทีดอร์ทมุนด์อาจจะเล็กเกินไปสำหรับเขา

โดยเฉพาะกับการที่เริ่มมีการเปรียบเทียบว่าหลังจากนี้จะเป็นยุคของฮาลันด์กับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ สตาร์กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ที่จะแข่งขันกันเหมือนในยุคของ คริสเตียโน โรนัลโด กับ ลิโอเนล เมสซี ที่กำลังจะปิดฉากลงในอีกไม่นาน

มูลค่าและคุณค่าในตัวของเขาสามารถเพิ่มมากกว่านี้ หากได้ย้ายไปอยู่สโมสรที่ใหญ่กว่า

ทั้งนี้ แม้จะมีข่าวเชื่อมโยงกับทุกสโมสรใหญ่ตั้งแต่บาร์เซโลนา, เชลซี, ลิเวอร์พูล ไปจนถึงเรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือบาเยิร์น มิวนิก

แต่ 2 ทีมที่ดูมีแนวโน้มจะจริงจังกว่าเพื่อนคือ 2 ทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งต่างก็มีเหตุมีผลที่อยากจะได้ตัวกองหน้ามหากาฬรายนี้มาร่วมทีม

เริ่มที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นทีมเก่าของ อัล์ฟ อิงเก ฮาลันด์ คุณพ่อผู้ปลุกปั้นลูกชายอย่างดี

ซิตี้ไม่ได้มีการเสริมผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้ามานานนับตั้งแต่ได้ กาเบรียล เชซุส มาจากพัลไมรัสเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว แต่ดาวยิงทีมชาติบราซิลยังไม่สามารถเล่นได้สมกับความคาดหวัง ทำให้ภาระอยู่ที่ เซร์คิโอ อเกวโร มาโดยตลอด

แต่เพราะวัยที่เพิ่มพูน อาการบาดเจ็บและกำลังวังชาเริ่มถดถอยทำให้อเกวโรคิดจะอำลาทีมหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ซึ่งมีข่าวว่าจะไปร่วมเล่นกับ ลิโอเนล เมสซี ที่บาร์เซโลนาในฤดูกาลหน้า (โดยเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่อาจจะทำให้เมสซีอยู่ต่อ)

นั่นหมายถึงซิตี้จำเป็นต้องหาศูนย์หน้าคนใหม่ และบนโลกใบนี้ นอกจากเอ็มบัปเป้แล้ว ก็ไม่มีกองหน้าคนไหนจะร้อนแรงไปกว่าฮาลันด์อีกแล้ว

สำหรับทีม ‘เรือใบสีฟ้า’ พวกเขาไม่มีปัญหาในเรื่องการเงิน และโอกาสประสบความสำเร็จก็สูง เพราะขนาดอเกวโรเจ็บ เชซุสยังทดแทนไม่ได้ พวกเขายังกลับมาลอยลมเตรียมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งได้อย่างสวยงาม

ลองจินตนาการว่ากองหน้าที่ครบเครื่องอย่างเขาได้รับการสนับสนุนจากครีเอเตอร์อย่าง เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดวาน, ฟิล โฟเดน, ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง (มีคนจับตามองว่ามีปัญหากับเป๊ปหรือไม่ หลังโดนดร็อปมา 2 นัด แต่มีการปฏิเสธข่าวแล้วว่าไม่มีอะไรกัน) จำนวนสกอร์ที่ผลิตได้จะเพิ่มมากขนาดไหน?

อีกทั้งการร่วมงานกับยอดกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็เป็นโอกาสในชีวิตที่ไม่ได้หาได้ง่ายด้วย

แต่อีกฟากของเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีรายงานข่าวสายปีศาจแดงระบุว่า มีการ ‘ล็อกเป้า’ แล้วว่าเป็นเป้าหมายใหญ่ของปีนี้ ก็เป็นทีมที่อยู่ระหว่างการก่อร่างสร้างตัวใหม่ และหากย้ายมาร่วมทีมจริง เขามีโอกาสจะกลายเป็น ‘จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย’ ที่พาทีมกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ตัดประเด็นเรื่อง รอย คีน เคยย่ำใส่พ่อในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บีจนต้องแขวนสตั๊ดในเวลาต่อมา (ซี่งความจริงคีนก็เคยเจ็บหนักและเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะฮาลันด์ผู้พ่อเหมือนกัน จนเป็นแค้นฝังหุ่น) ออกไปก่อน บทบาทพระเอกที่จะได้รับกับแมนฯ ยูไนเต็ด ก็น่าสนใจ

เพราะที่ผ่านมาแมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหากับการหา ‘หมายเลข 9’ มาโดยตลอด

อองโตนี มาร์กซิยาล ยิ่งเวลาผ่านก็ยิ่งเห็นชัดว่าไม่ใช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว ส่วน เอดินสัน คาวานี ดูไม่มีความสุขและต้องการย้ายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้

อีกทั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ก็เคยเป็นเจ้านายของฮาลันด์มาก่อนในทีมโมลด์ แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ความสนิทชิดเชื้อ การดูแลเอาใจใส่มีให้กันต่อเนื่องมาตลอด และความจริงทั้งสองก็เกือบได้ร่วมงานกันอีกครั้งด้วยซ้ำไป

เพียงแต่คนที่เป็น ‘ไพ่ตาย’ สำหรับการเจรจาคือ มิโน ไรโอลา ซึ่งเป็นตัวแทนของฮาลันด์ที่ความสัมพันธ์กับแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้สวยงามมากมายนัก

มีการประเมินกันว่า โอกาสที่แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ตัวฮาลันด์อาจขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์กับไรโอลา ซึ่งในทีมยังมีนักเตะของเขาอย่าง พอล ป็อกบา ที่ยังไม่แน่ไม่นอนว่าจะเอาอย่างไรกับอนาคตดี ระหว่างต่อสัญญาที่จะหมดลงหลังปี 2022 ออกไป หรือจะใช้โอกาสนี้เพื่อย้ายออกจากทีม

อย่างไรก็ดี เกมกระดาน ‘การเดินทางของฮาลันด์’ ยังเพิ่งเริ่มและอ่านยาก ปัจจัยแวดล้อมก็มีมาก

เป็นเกมที่น่าสนุก และมีโอกาสเป็นมหากาพย์การย้ายทีมที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้

ว่าสำหรับดาวยิงพรสวรรค์ผู้นี้ แมนเชสเตอร์ของเขาจะเป็นสีอะไร?

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: