สมเด็จพระราชาธิบดี อัล-สุลต่าน อับดุลเลาะห์ แห่งมาเลเซีย ทรงเรียกประชุมสภาผู้ปกครอง (Council of Rulers) ช่วงเช้าวันนี้ (24 พฤศจิกายน) เพื่อหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และรับฟังความคิดเห็นของประมุขแห่งรัฐต่างๆ เพื่อช่วยในการพิจารณา ก่อนตัดสินพระทัยเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังจากที่มาเลเซียเผชิญภาวะสภาแขวนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จากการที่ไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากและจัดตั้งรัฐบาลผสมได้ แม้การเลือกตั้งจะผ่านพ้นมาแล้ว 5 วัน
โดย 2 กลุ่มการเมืองผู้นำในการเลือกตั้ง ได้แก่ แนวร่วมฝ่ายค้าน ‘ปากาตัน ฮาราปัน’ (Pakatan Harapan: PH) ของอันวาร์ อิบราฮิม ที่ได้ ส.ส. 82 ที่นั่ง และกลุ่ม เปอริกาตัน เนชันแนล (Perikatan Nasional: PN) ของมูห์ยิดดิน ยัสซิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ ส.ส. 73 ที่นั่ง ไม่สามารถรวบรวมพันธมิตรและจัดตั้งรัฐบาลผสมได้ทันเส้นตายเมื่อช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา (22 พฤศจิกายน)
ขณะที่การประชุมของสภาผู้ปกครอง ซึ่งประกอบด้วยประมุขของ 9 รัฐ รวมถึงสมเด็จพระราชาธิบดี อัล-สุลต่าน อับดุลเลาะห์ ในฐานะประมุขแห่งรัฐปะหัง เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (09.30 น. ตามเวลาไทย) และคาดว่าจะใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง โดยกษัตริย์มาเลเซียมีพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่พระองค์เชื่อว่าสามารถควบคุมเสียงข้างมากในรัฐสภาได้
อย่างไรก็ตาม ตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลผสมครั้งนี้คือ กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ หรือ บาริซาน เนชันแนล (Barisan Nasional: BN) ซึ่งได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมภายใต้การนำของกลุ่มเปอริกาตัน เนชันแนล เมื่อปีที่ผ่านมา และในการเลือกตั้งรอบนี้ได้ ส.ส. จำนวน 30 ที่นั่ง
แต่ล่าสุดมีรายงานว่ากลุ่มบาริซาน เนชันแนล จะไม่สนับสนุนรัฐบาลที่นำโดยพันธมิตรของอดีตนายกรัฐมนตรียัสซิน ผู้นำกลุ่มเปอริกาตัน เนชันแนล ทำให้มีความเป็นไปได้ที่อาจสนับสนุนอันวาร์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งหากเป็นจริงจะเป็นการช่วยคลี่คลายปัญหาทางตันทางการเมือง แม้จะเป็นการกลับลำจากที่เคยตัดสินใจจะวางตัวเป็นกลาง
ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของผลการเลือกที่ยืดเยื้อ และความไร้เสถียรภาพทางการเมืองของมาเลเซีย ซึ่งเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 3 คน ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงหลายด้าน จากการชะลอการตัดสินใจเชิงนโยบายของรัฐบาล ที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ภาพ: Mohd Rasfan / AFP
อ้างอิง:
