ยอดขายสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังแบรนด์ในเครือบริษัท LVMH ตกลงเป็นครั้งแรกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 นับตั้งแต่ช่วงโควิด สืบเนื่องจากความต้องการสินค้าลักชัวรีของกลุ่มลูกค้าสำคัญอย่างชาวจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง
LVMH รายงานผลประกอบการที่เผยให้เห็นว่า รายได้ออร์แกนิกจากยอดขายหลักของสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังของ LVMH ที่รวมไปถึงยอดขายของ Louis Vuitton และ Christian Dior ลดลง 5% ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จากที่เคยคาดการณ์รายได้ที่สูงขึ้นเล็กน้อยเอาไว้ก่อนหน้า ซึ่งผลที่ออกมาส่งผลให้ไตรมาสดังกล่าวกลายเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดของ LVMH นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 อันเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจหยุดชะงักจากการล็อกดาวน์ทั่วโลก โดยยอดขายโดยรวมของ LVMH ทั้งหมดลดลงมา 3%
CFO แห่ง LVMH เผยว่า ตลาดธุรกิจหลายแห่งของบริษัทกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่ และขณะนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีนก็กลับไปสู่ระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์เทียบเท่ากับช่วงโรคระบาด ซึ่งผลที่ออกมายังชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวของธุรกิจที่มากกว่าการคาดการณ์ไว้ด้วย
กลุ่มลูกค้าในจีนแผ่นดินใหญ่เริ่มลดการจับจ่ายสินค้าลักชัวรีราคาแพง เนื่องจากความกังวลที่มีต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ซึ่งความกังวลนี้ก็ทำให้รัฐบาลจีนเผยมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไปเมื่อเดือนที่แล้ว โดยในไตรมาสนี้ยอดขายออร์แกนิกของ LVMH ในประเทศจีนลดลง 16% นับว่ามากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ในตอนแรก และนับเป็นยอดขายที่น่าผิดหวังสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เคยมีความต้องการจับจ่ายสูงสุด นอกจากนั้น ยอดขายในประเทศญี่ปุ่นก็ต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เช่นกัน โดยก่อนหน้านี้บริษัทคาดหวังว่าลูกค้าชาวจีนจะไปจับจ่ายสินค้าลักชัวรีที่ญี่ปุ่นเพราะค่าเงินเยนที่ร่วงลง ส่วนยอดขายในสหรัฐอเมริกาและยุโรปก็น่าผิดหวังสำหรับ LVMH ไม่แพ้กัน
ภาพ: Wang Gang / VCG via Getty Images
อ้างอิง: