×

รายได้ 9 เดือนแรกของ LVMH พุ่งขึ้น 16% แม้ยอดขายในฮ่องกงไตรมาส 3 ลดลง 25% เพราะเหตุการณ์ชุมนุม

12.10.2019
  • LOADING...
LVMH

LVMH กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้เป็นเจ้าของสินค้าลักชัวรีมากมาย ทั้งแฟชั่น เครื่องสำอาง นาฬิกา สุรา และอีกมากมาย เช่น Louis Vuitton, Dior, Rimowa, Sephora, Givenchy, Celine และ Moet & Chandon ออกมาเผยถึงรายได้ประกอบการทั่วโลกของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2019 ท่ามกลางสถานการณ์ความรุงแรงบนเกาะฮ่องกง หนึ่งในฐานลูกค้าสำคัญของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 16% หรือเทียบเป็นมูลค่า 38,400 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2018 

 

โดยกลุ่มสินค้าที่ทำรายได้บริษัท 3 อันดับแรกยังคงนำมาด้วยกลุ่มสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังที่เติบโตถึง 22% ทิ้งห่างกลุ่มเครื่องสำอางและน้ำหอม กับกลุ่มธุรกิจร้านค้าไปถึงเท่าตัวที่กลุ่มละ 11% 

 

ตามมาด้วยกลุ่มไวน์และสปิริตที่ตัวเลขการเติบโตอยู่ที่ 10% และหากเทียบเฉพาะไตรมาสที่ 3 ของปีนี้กับปีก่อน ตัวเลขการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 17% 

 

โดยตัวเลขการเติบโตของเครือ LVMH ส่งผลให้ เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ผู้ก่อตั้ง ก้าวขึ้นสู่อันดับ 3 ของรายชื่อบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 99,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามหลัง เจฟฟ์ เบโซส์ จาก Amazon ในอันดับ 1 (1.075 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ บิล เกตส์ จาก Microsoft (1.051 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) 

 

แต่ถึงแม้ว่าตัวเลขการเติบโตโดยรวมของบริษัทออกมาเป็นที่น่าพอใจ แต่หากโฟกัสไปที่ตลาดสำคัญอย่างเกาะฮ่องกงที่กำลังมีเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ยืดเยื้อมากว่า 4 เดือน เหตุการณ์นี้ก็ส่งผลให้ยอดขายเฉพาะในเกาะฮ่องกงในไตรมาสที่ 3 ลดลงถึง 25% และสถานการณ์ก็ยังไม่มีท่าทีที่จะคลี่คลาย

 

แต่ถึงอย่างนั้นทางบริษัทยังคงมีมาตรการรองรับผลกระทบ และหันไปลงทุนในภูมิภาคอื่น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น จนกว่าสถานการณ์ในฮ่องกงจะกลับมาเป็นปกติ เพื่อประกาศศักดาในความเป็นผู้นำด้านธุรกิจลักชัวรีต่อไป

 

ภาพ: Hanna Lassen/Getty Images 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories