บริษัทสินค้าลักชัวรียังคงเผชิญหน้ากับยอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Kering บริษัทสัญชาติฝรั่งเศสเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Gucci, Saint Laurent, Balenciaga, Bottega Veneta และ Alexander McQueen เผยยอดขายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ทั้งเครือตกลง 16% ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผลกำไรของบริษัทอาจน้อยยิ่งกว่าที่มีการคาดการณ์เอาไว้ และจะกลายเป็นผลกำไรที่น้อยสุดในรอบหลายปี
Kering เผยเพิ่มเติมว่า ยอดขายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ Gucci ที่เป็นแบรนด์ใหญ่สุดก็ลงลดถึง 25% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว ในขณะที่ Saint Laurent มียอดขายลดลง 12% ส่วนแบรนด์อื่นๆ อย่าง Balenciaga, Alexander McQueen และ Boucheron ก็มียอดขายไม่ค่อยดีนัก ซึ่งยอดขายที่ลดลงของแบรนด์เหล่านี้ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมของบริษัทลดลง 16%
Business of Fashion รายงานว่า Kering เผยการคาดการณ์ถึงสถานการณ์อันไม่แน่นอนของยอดขายบริษัท ที่ขึ้นอยู่กับความต้องการสินค้าลักชัวรีของผู้บริโภคในหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งแน่นอนว่าการที่ยอดขายสินค้าลักชัวรีตกในขณะนี้ก็เป็นเพราะตลาดหลักในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเศรษฐกิจชะลอตัวลง โดยเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ยอดขายสินค้าลักชัวรีตกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยปัญหาในประเทศอย่างวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีนที่ทำให้ลูกค้าชาวจีนไม่อยากจับจ่ายสินค้าลักชัวรีมากเท่าเมื่อก่อนแล้ว
ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานถึงยอดขายสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังแบรนด์ในเครือบริษัทคู่แข่ง Kering อย่าง LVMH ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ที่ลดลงมา 5% ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าทั้งแบรนด์ Louis Vuitton และ Christian Dior ต่างก็กำลังประสบปัญหาเดียวกับ Gucci และ Saint Laurent โดยยอดขายของ LVMH ในไตรมาสนี้กลายเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดของ LVMH นับตั้งแต่ช่วงล็อกดาวน์โควิดในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 เลยทีเดียว
ภาพ: Mike Kemp / In Pictures via Getty Images
อ้างอิง: