×

‘ประตูเจมส์ มิลเนอร์-บันไดลับ-ไทม์แคปซูล’ แวะเที่ยวบ้านเล็กหลังใหม่ของลิเวอร์พูล

18.11.2020
  • LOADING...
‘ประตูเจมส์ มิลเนอร์-บันไดลับ-ไทม์แคปซูล’ แวะเที่ยวบ้านเล็กหลังใหม่ของลิเวอร์พูล

HIGHLIGHTS

4 mins. read
  • ลิเวอร์พูลเปิดใช้ศูนย์ฝึกแห่งใหม่ที่เคิร์กบีแล้ว ซึ่งเป็นบ้านเล็กหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อวางรากฐานความสำเร็จของสโมสรในอนาคต
  • นอกจากสนามซ้อมขนาดเท่าพื้นสนามแอนฟิลด์จำนวน 3 สนาม ศูนย์ฝึกแห่งนี้ยังมีทุกอย่างที่ศูนย์ฝึกระดับโลกพึงมี
  • กิมมิกเล็กๆ ถูกหยอดเอาไว้หลายจุด รวมถึงประตูทางเข้าห้องพักที่ชื่อ The James Milner’ Door และบันไดลับของแผนกแมวมอง ที่เอาไว้ให้ว่าที่นักเตะใหม่ย่องเข้ามาโดยไม่มีใครเห็น

หลังการตัดใจอำลา ‘เมลวูด’ สนามซ้อมในตำนานที่อยู่คู่ทีม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล มาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ได้ฤกษ์ในการขึ้นบ้านใหม่กับศูนย์ฝึกสุดทันสมัยที่ย่านเคิร์กบีไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

 

และดูเหมือนว่าศูนย์ฝึกแห่งใหม่นี้จะทำให้หลายคนแอบลืมบ้านหลังเก่าที่เคยผูกพันกันมาหลายรุ่นนักฟุตบอลเลยทีเดียว

 

ศูนย์ฝึกใหม่ในนาม AXA Training Centre ซึ่งตั้งตามชื่อสปอนเซอร์รายใหญ่ของสโมสรที่ให้การสนับสนุนชุดแข่งของทีมอยู่เดิม และตัดสินใจเพิ่มแพ็กเกจใหม่ให้ครอบคลุมถึงศูนย์ฝึกที่ใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูงถึง 50 ล้านปอนด์ด้วย

 

แนวคิดหลักของศูนย์ฝึกแห่งนี้คือการ ‘รวมศูนย์’ ของทีมลิเวอร์พูลเอาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้อคาเดมีและทีมชุดใหญ่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่จะมีเส้นบางๆ คั่นกลางเอาไว้ด้วยการแบ่งพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทางเข้าศูนย์ฝึกคนละจุด, ห้องรับประทานอาหารคนละที่, ยิม, ห้องแต่งตัว รวมถึงสนามซ้อม

 

คนที่เสนอหลักคิดนี้คือ เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน ที่ต้องการให้ผู้เล่นเยาวชนได้เกิดความรู้สึกที่อยากจะก้าวผ่านเส้นบางๆ นั้น และเปลี่ยนสถานะจากผู้เล่นในอคาเดมีเพื่อเป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่

 

เป็นการจุดไฟใส่ความฝันของทุกคนอย่างตั้งใจ

 

แล้วศูนย์ฝึกแห่งนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

 

บรรยากาศในศูนย์ฝึกแห่งใหม่ที่เปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้ว

Photo: @LFC / Twitter

 

  • หัวใจสำคัญของบ้านเล็กหลังใหม่นี้คือ สนามฟุตบอลขนาดเท่ากับสนามแอนฟิลด์จำนวน 3 สนาม สำหรับผู้เล่นทั้งทีมชุดใหญ่และอคาเดมี
  • สนามฝึกซ้อมสำหรับผู้รักษาประตูโดยเฉพาะ
  • สนามฟุตบอลชายหาด (สำหรับนักเตะบราซิล?)
  • คอร์ตวอลเลย์บอล
  • คอร์ตเทนนิส
  • คอร์ตปาเดลเทนนิส (กีฬาลูกผสมระหว่างเทนนิส, สควอต และปิงปอง! เป็นกีฬาโปรดของคล็อปป์ที่ชอบตีแข่งกับ เพพไพน์ ลินเดอร์ส มือขวาคนเก่ง)
  • ห้องโถงที่มีการจำลองสภาพอากาศความร้อน 40 องศาเซลเซียส, ความชื้น 90 เปอร์เซ็นต์ และระดับออกซิเจนที่ต่ำ เพื่อให้ลูกทีมสามารถฝึกซ้อมในสภาพสุดโหด ซึ่งจะเพิ่มพูนความอึดและถึกของนักเตะลิเวอร์พูล
  • สระว่ายน้ำขนาดใหญ่
  • สระวารีบำบัด
  • ฟิตเนสขนาดใหญ่ที่สามารถมองสนามซ้อมผ่านกระจกบานยักษ์ได้ ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจให้แก่นักฟุตบอล โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ

 

เรียกได้ว่าศูนย์ฝึกแห่งนี้มีทุกสิ่งทุกอย่างที่สโมสรฟุตบอลระดับโลกพึงมี ซึ่งคล็อปป์และฝ่ายบริหารของสโมสรตัดสินใจเด็ดเดี่ยวอย่างยิ่งในการทิ้งความทรงจำที่เมลวูดเอาไว้ข้างหลัง เพื่อจะก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่าด้วยศูนย์ฝึกที่พร้อมกว่า

เหมือนการตัดสินใจของ บิลล์ แชงคลีย์ ที่ขอให้มีการปรับปรุงเมลวูดครั้งใหญ่หลังเข้ารับตำแหน่งในปี 1959 ซึ่งกลายเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับสโมสร เป็นต้นกำเนิดฟุตบอลในสไตล์ Pass-and-Move ที่นำลิเวอร์พูลไปสู่ความยิ่งใหญ่

 

อย่างไรก็ดี ศูนย์ฝึกแห่งนี้ยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่น่ารัก ที่ถูกซ่อนอยู่อีกมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นทางเข้าศูนย์ฝึกที่จะมีการสลักชื่อของนักฟุตบอลระดับตำนานของสโมสรเอาไว้ที่ก้อนอิฐบนทางเดิน ซึ่งมีตั้งแต่ฮีโร่ในยุคอดีตจนถึงปัจจุบันอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, ห้องทำงานของผู้จัดการทีมที่จะมีภาพของผู้จัดการทีมทุกคนแขวนไว้บนผนัง พร้อมข้อความสร้างแรงบันดาลใจจาก เซอร์เคนนี ดัลกลิช ‘ราชาแห่งแอนฟิลด์’

ทุกมุมของศูนย์ฝึกจะประดับด้วยภาพของนักฟุตบอลระดับตำนานทุกคน ให้เห็นถึงผู้ที่ช่วยก่อร่างสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่ลิเวอร์พูลในทุกยุคสมัย

บริเวณโชว์โทรฟีของสโมสรที่สามารถวางถ้วยแชมป์จำลองทุกรายการที่สโมสรเคยได้ รวมถึงแชมป์ยูโรเปียนคัพ 6 ใบ และแชมป์พรีเมียร์ลีกที่เพิ่งได้มาในฤดูกาลที่แล้ว

 

ประตูเจมส์ มิลเนอร์ กิมมิกเล็กๆ ของศูนย์ฝึกแห่งใหม่ของลิเวอร์พูลที่เคิร์กบี

Photo: Liverpool FC

 

และทีเด็ดกับประตูเจมส์ มิลเนอร์ ที่เป็นประตูสำหรับการเข้าห้องพักของนักฟุตบอลทีมชุดใหญ่ ซึ่งเป็นไอเดียสนุกๆ ที่ได้มาจากการเสนอของนักเตะจอมเก๋าของทีม

 

บันไดลับ The Secret Scouting Stair เอาไว้ให้ว่าที่นักเตะใหม่ย่องเข้ามาในศูนย์ฝึก

Photo: Liverpool FC

 

รวมถึงบันไดลับที่อยู่ในพื้นที่การทำงานของทีมแมวมอง ที่จะทำให้ว่าที่นักเตะใหม่ของทีมได้แอบเข้ามาในศูนย์ฝึกอย่างลับๆ

สิ่งสุดท้ายที่มีความหมายที่สุดคือ แคปซูลกาลเวลา หรือไทม์แคปซูล ที่มีการบรรจุของมากมายเอาไว้ในนั้น เช่น กรอบแว่นของคล็อปป์, ถุงมือของ อลิสสัน เบ็คเกอร์, หนังสือโปรแกรมของเกมสำคัญๆ, หนังสือรำลึกถึง 96 ชีวิตของแฟนบอลเดอะ ค็อป ที่จากไปในโศกนาฏกรรมที่สนามฮิลส์โบโรห์, รองเท้าฟุตบอล, ผ้าพันคอ, เสื้อชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก และอีกมากมาย

 

แคปซูลความทรงจำที่จะถูกเก็บไว้เพื่อรอวันเปิดในอีก 50 ปีข้างหน้า

Photo: @LFC / Twitter

 

กล่องนี้จะถูกเก็บเอาไว้เป็นเวลา 50 ปี โดยมีกำหนดจะเปิดออกในปี 2070 เพื่อเป็นการบอกเล่าให้เหล่าคนรุ่นหลังของลิเวอร์พูลได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น

ว่ากาลครั้งหนึ่ง ณ ที่แห่งนี้ คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของสโมสรแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ และเรื่องราวเก่าๆ นั้นจะไม่มีวันถูกลบเลือน

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

FYI
  • บริษัทที่ออกแบบศูนย์ฝึกแห่งนี้คือ McLaughlin & Harvey โดยเริ่มต้นแผนการมากว่า 4 ปี
  • ศูนย์ฝึกแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้าง 722 วัน โดยเดิมมีกำหนดจะย้ายเข้าตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่ล่าช้ากว่ากำหนดเนื่องจากเกิดการระบาดของโควิด-19 ก่อน
  • หากขับรถจากเมลวูดมาถึงศูนย์ฝึกใหม่ที่เคิร์กบีจะใช้เวลา 15 นาที
  • เพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างศูนย์ฝึกแห่งนี้ ลิเวอร์พูลศึกษาอคาเดมีชั้นนำของโลกทุกแห่ง และถูกชะตากับลีเฟอริง อคาเดมีของทีมเรดบูล ซัลซ์บวร์ก ซึ่งเป็นสโมสรที่ปั้น ซาดิโอ มาเน, นาบี เกตา และ ทาคุมิ มินามิโนะ 3 นักเตะชุดใหญ่ในปัจจุบัน จึงเลือกใช้เป็นต้นแบบ
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising