นอกจากขายกระเป๋า Birkin ใบละ 280,000 บาทขึ้นไป อันเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่สาวๆ ทั่วโลกใฝ่ฝัน หรือขายผ้าพันคอผืนละ 12,500 บาทแล้ว
วันนี้ Hermès แบรนด์หรูจากแดนน้ำหอม ได้ตัดสินใจรุกตลาดความงามอย่างจริงจัง ประเดิมด้วยการเปิดตัว ‘ลิปสติก’ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์อายุกว่า 188 ปี
‘ลิปสติก’ ที่ถูกตีตรา Hermès ใช้เวลาพัฒนาถึง 5 ปี เบื้องต้นจะมีเฉดสีให้สาวๆ จับจอง 24 เฉดสี สนนราคา 67 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,087 บาทต่อแท่ง โดยจะเริ่มวางจำหนายในวันที่ 4 มีนาคม 2563 ในร้านของ Hermès และร้านค้าเครื่องสำอางที่ถูกคัดเลือกทั้งหมด 35 ประเทศ
วิธีนี้ถูกมองว่าจะทำให้ Hermès สามารถกำหนดราคาและควบคุมการจำหน่ายไม่ให้ร้านมีอำนาจเหนือแบรนด์ได้ ขณะเดียวกันยังได้ให้โรงงานที่เป็นพันธมิตรกันเป็นผู้ผลิต ไม่ได้ให้โรงงานที่เป็นของแบรนด์เครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ผลิตเหมือนกับแบรนด์หรูรายอื่นๆ
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Hermès ลุกขึ้นมาสะบัดแปรงเติมความสวย นอกเหนือจากตลาด Color Cosmetics หรือเครื่องสำอางสำหรับการแต่งหน้าในปี 2020 จะเติบโต 6% คือเป็นมูลค่า 7.75 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.4 ล้านล้านบาทตามข้อมูลของ Euromonitor แล้ว ยังเป็นที่รู้กันว่าเครื่องสำอางทำกำไรได้สูงกว่าเสื้อผ้า
ทว่าการบุกตลาดความงามไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ Hermès มาทีหลังคู่แข่งแบรนด์หรูอื่นๆ พอสมควร ตัวอย่างเช่น Chanel ที่เริ่มวางขายเครื่องสำอางมาตั้งแต่ปี 1924 จนวันนี้มีรายได้ 4,000 ล้านยูโร หรือ 1.37 แสนล้านบาท
ในขณะที่ Hermès มีรายได้จากน้ำหอมและสบู่เพียง 312 ล้านยูโร ราว 1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วน 5% จากรายได้ทั้งหมดของ Hermès 6,000 ล้านยูโร หรือ 2.05 แสนล้านบาท
ดังนั้นเพื่อทำให้ติดตลาดและเป็นที่รู้จัก Hermès จึงวางแผนที่จะออกคอลเล็กชันใหม่ ทุกๆ 6 เดือน ไปจนกว่าจะมีเครื่องสำอางครบชุด
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-01-27/macau-tourist-arrivals-from-china-plunge-80-in-blow-for-casinos
- https://www.reuters.com/article/us-hermes-makeup/with-lipsticks-hermes-branches-into-competitive-cosmetics-world-idUSKBN1ZZ2PP
- https://finance.hermes.com/var/finances/storage/original/application/39096b0bc075f3d35c4db0a28e8eb08e.pdf