เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ‘ธุรกิจเพื่อสุขภาพ’ จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพในทุกมิติ ไม่เฉพาะในประเทศไทย ธุรกิจสุขภาพทั่วโลกก็ตื่นตัวและเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจที่ซบเซาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหลังเกิดการระบาดของโควิด-19 โอกาสการเติบโตของธุรกิจนี้ยิ่งเปิดกว้าง ไม่จำกัดอยู่แค่การป้องกันและรักษาอีกต่อไป ทำให้นักลงทุนในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจประเภทนี้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ธุรกิจสปาและความงาม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรือการให้บริการเพื่อสุขภาพ
บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจพัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเพื่อสุขภาพในประเทศไทย ในปี 2023 จึงได้เกิดโครงการที่จัดขึ้นมาเพื่อให้การสนับสนุนเหล่าสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจสินค้า บริการ หรือเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพให้เติบโตไปด้วยกัน ผ่านโครงการ ‘LION HEALTH STARTUP BUSINESS CONTEST’ เพื่อเฟ้นหาผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่สามารถนำเสนอแผนการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ ที่มีศักยภาพสูง และสามารถดึงดูดการลงทุนได้ในอนาคต เพื่อชิงเงินรางวัลสูงสุด 200,000 บาท โดยเปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม – 9 มิถุนายนที่ผ่านมา
ผลตอบรับในปีนี้ดีเกินคาด มีผู้สนใจเข้าร่วมสมัครเป็นจำนวนมาก และมีเพียง 10 ทีมเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมกับโครงการ ‘LION HEALTH STARTUP BUSINESS CONTEST’
เกศกานดา พรรณกลิ่น DIGITAL SOLUTION EXECUTIVE MANAGER บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีแรกที่เราจัดประกวดแผนการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ ถือว่าดีเกินคาดทั้งจำนวนผู้สมัครและแผนธุรกิจที่ส่งเข้าประกวด ทุกทีมมีความน่าสนใจแตกต่างกันทั้งแง่ของผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ธุรกิจ ทำให้เราเห็นโอกาสทางธุรกิจอีกมากจากมุมมองของกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กที่เขามีศักยภาพ มีองค์ความรู้ที่น่าสนใจ ไลอ้อนจึงอยากพัฒนาสินค้าหรือพัฒนารูปแบบอื่นๆ ร่วมกับ SMEs ในเชิงของ Ecosystem ด้วยการนำ Know-How ที่เรามีมาต่อยอดโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน”
หลังจากทุกแผนธุรกิจได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้ 3 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบมาร่วม Pitching Day พรีเซนต์แผนธุรกิจบนเวทีเพื่อเฟ้นหาที่สุดของแผนงานเพื่อ ‘สุขภาพ’ ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 27 ที่ไบเทค บางนา และยังได้รับสิทธิ์ออกบูธในงานร่วมกับบูธกิจกรรมของบริษัท ไลอ้อนฯ ตลอด 4 วันของการจัดงานอีกด้วย
ต้องยอมรับว่าทั้ง 3 ทีมที่เข้าร่วมต่างก็มีแผนธุรกิจที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยไอเดียและโซลูชันที่สดใหม่ อย่างทีม Talk to Peach แอปพลิเคชันเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องเพศออนไลน์กับหมอและนักเพศวิทยาโดยตรงแบบไม่ต้องเปิดเผยตัวตน และยังเป็นแหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลด้าน Sexology ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ปรึกษาได้ทุกที่ สามารถเลือกได้ว่าจะวิดีโอคอลส่วนตัวหรือส่งคำถามเพื่อรับคำตอบ
ด้านทีม พรปัญญา ที่นำปลาทูมาทำเป็นแท่งอบกรอบที่มีส่วนผสมของแคลเซียมสกัดจากก้างปลา ผลิตจากปลาทู 100% ไม่ผสมแป้ง มีทั้งแคลเซียม วิตามิน คอลลาเจน และไฟเบอร์ เพื่อคนรักสุขภาพ
และทีม ธรรมะรักษา ผงปรุงอาหารจากผัก นำวัตถุดิบจากธรรมชาติพื้นบ้านไทย ทั้งคะน้าไชยา ใบหม่อน และชะพลู จัดเก็บง่าย ใช้งานสะดวก สารอาหารครบถ้วน
ทุกทีมนอกจากจะนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์และบริการ ยังนำเสนอกลยุทธ์ต่อยอดธุรกิจร่วมกับไลอ้อนได้อย่างน่าสนใจ คณะกรรมการก็ยิงคำถาม พร้อมเสนอคำแนะนำต่างๆ เพื่อปิดจุดอ่อนของแต่ละทีม และในที่สุดหลังจากขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นตลอด 3 ชั่วโมง ที่สุดของแผนงานเพื่อ ‘สุขภาพ’ ในปีนี้ได้แก่ ทีมพรปัญญา
“ต้องขอบคุณไลอ้อนที่เปิดเวทีดีๆ แบบนี้ ให้โอกาสสตาร์ทอัพอย่างพวกเราได้เติบโตในธุรกิจ ทำให้ลูกค้าได้เห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะต่อให้เราจะได้ที่เท่าไร แค่ผ่านมาถึงรอบนี้ก็ทำให้คนรู้จัก ‘พรปัญญา’ มากขึ้น รู้ว่าเราคือใคร เรากำลังทำอะไร เรามั่นใจว่าสินค้าเราดี วิสัยทัศน์ของเราคือ Health for all เราอยากเห็นทุกคนมีสุขภาพที่ดีค่ะ
“อยากฝากถึงสตาร์ทอัพที่อยู่ในธุรกิจสุขภาพหรือธุรกิจไหนก็ตาม ถ้าคุณมีของดีอยู่ หาโอกาสให้เจอแล้วก็พาตัวเองออกมาให้ทุกคนเห็น เราเชื่อว่าโอกาสมีอยู่รอบตัว อยู่ที่ว่าเราจะคว้ามันได้หรือเปล่า”
เกศกานดาเผยว่า “จริงๆ แล้ววันนี้ทั้ง 3 ทีมทำได้ดี เพราะเราให้โจทย์เพิ่มไปว่า เขาจะพัฒนาต่อยอดธุรกิจร่วมกับไลอ้อนอย่างไร ซึ่งทีมผู้ชนะเขานำก้างปลามาพัฒนาเป็นแคลเซียมสกัดและจะพัฒนาต่อเป็นวัตถุดิบแคลเซียม
“อยากชวนให้เหล่าสตาร์ทอัพสายสุขภาพมั่นใจในองค์ความรู้ของตัวเอง บางทีสิ่งที่คุณคิดว่ายังไม่ดีพอมันอาจจะดีอยู่แล้ว แค่ต่อยอดอีกหน่อยก็พัฒนาไปได้ไกล อยากให้ลงมาเข้าร่วมโครงการแบบนี้ ได้รางวัลหรือไม่ ไม่สำคัญ อย่างน้อยคุณจะได้เห็นว่าเพื่อนร่วมธุรกิจกำลังคิดอะไร คุณอาจจะได้ไอเดียดีๆ กลับไปพัฒนาธุรกิจต่อ มันเป็นเหมือนห้องเรียนใหญ่ๆ ที่มาแชร์ไอเดียกัน” เกศกานดากล่าวทิ้งท้าย
THE STANDARD ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลิศและผู้ที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมด และหวังว่าจะได้เห็นโครงการดีๆ ที่เข้ามาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการตัวเล็กในประเทศไทยได้มีเวทีและพื้นที่ในการเติบโตในธุรกิจเพิ่มมากขึ้นในสังคมไทย
- บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด เคยสร้างความสำเร็จจาก ‘โครงการ LION GOODNESS MARKET Season 1’ ภายใต้คอนเซปต์ ‘มีสติ Restart ชีวิตได้ทุกวัน’ เพิ่มพูนความรู้ในการขายของออนไลน์ให้ร้านค้าที่ร่วมโครงการ 53 ร้านค้า เมื่อปี 2564 ก่อนจะสานต่อ ‘โครงการ LION GOODNESS MARKET Season 2’ สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามที่มีคุณภาพได้มาตรฐานจำนวนทั้งหมด 20 ร้านค้า ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมสินค้าเพื่อสุขภาพที่ผลิตในประเทศให้เติบโต