หากใครขับรถหรือแวะผ่านไปแถวปากซอยสังคมสงเคราะห์ ติดถนนเลียบทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา คงไม่มีทางเฉลียวใจว่าหลังฉากประตูเหล็กสีสนิมบานโตที่เราเห็นหน้าอาคารทึบหลังหนึ่ง แท้จริงแล้วคือบาร์กาแฟคุณภาพที่เพิ่งเปิดบ้านไปไม่นานชนิดที่สียังไม่แห้ง กลิ่นความใหม่ยังหอมฟุ้ง ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ Red Diamond Cafe (เรด ไดมอนด์ คาเฟ่) ประกาศตนเป็น Specialty Coffee Cafe หรือคาเฟ่กาแฟพิเศษ ซึ่งมีน้อยนักในบ้านเรา นั่นหมายถึงว่าเมล็ดกาแฟมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เสิร์ฟภายในร้าน มาจากไร่กาแฟที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลกในแต่ละปี
The Vibe
เสียงเพลงแนวฮิปฮอป กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น และแสงไฟสลัวๆ สร้างความประทับใจแรกได้ดีพอๆ กับการตกแต่งแบบสตีมพังก์ (Steampunk) ที่หยิบยกเอาวัสดุนิยมในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมมาปรับใช้ เหล็กสีสนิม เฟอร์นิเจอร์หนังมันขลับ ของประดับวินเทจที่เน้นอวดพื้นผิวและส่วนประกอบ ผนังกำแพงทาทับด้วยสีโทนขรึม สาดส่องด้วยแสงไฟสีเหลืองนวลขับบรรยากาศให้เรียบเท่ ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกโก้หรู
คุณวู้ดดี้-ศราวุธ เปรมจิต เจ้าของผู้ก่อตั้งแบ่ง เรด ไดมอนด์ คาเฟ่ ออกเป็น 3 ส่วน บริเวณด้านหน้าชั้น 1 คือส่วนของโรงคั่วกาแฟ คุณสามารถชมวิธีการคั่วสดๆ ได้ในระยะประชิดโดยไม่ต้องเข้าคอร์สหรือเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ลึกเข้าไปหน่อยเป็นบาร์น้ำ ดูแลโดยบาริสตาความรู้แน่น ถามอะไรตอบได้ราวกับอับดุล ยิ่งใครมาครั้งแรก แนะนำให้เมินโซนนั่งส่วนตัวชั้น 2 แล้วลงหลักปักฐาน ณ บริเวณนี้ คุณจะตื่นตากับเทคนิคการชงกาแฟหลากรูปแบบ เห็นเมล็ดกาแฟพันธุ์หายากผ่านหลอดสวย ได้พูดคุยเรื่องกาแฟแบบไม่ต้องลงคอร์สเรียน ‘กาแฟ 101’
ส่วนสุดท้ายเป็นห้องเรียนขนาดเล็ก กินพื้นที่ชั้น 3 และชั้น 2 บางส่วนไว้สำหรับนักดื่มผู้สนใจอยากเรียนเรื่องกาแฟเพิ่ม มีตั้งแต่การคั่ว การชิม ไปจนถึงเทคนิคการชงและการเปิดร้าน (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของคอร์สเรียนได้ที่ร้าน) ซึ่งหากวันไหนไม่มีการสอนก็สามารถเข้าไปชมหรือใช้เป็นห้องทำงานชั่วคราวได้
The Drinks
เคลมตัวเองว่าเป็นคาเฟ่กาแฟพิเศษ แน่นอนว่าเมนูกาแฟย่อมถึงพริกถึงขิงกว่าร้านไหน ที่นี่มีเมนูกาแฟ 2 ประเภท คือเมนูกาแฟเอสเพรสโซอันคุ้นชิน กับเมนูจากเครื่องสตีมพังก์ เครื่องชงกาแฟล้ำสมัยหน้าตาสุดเท่ที่ยังไม่แพร่หลายในประเทศไทย ใครที่ชอบดื่มเอสเพรสโซ ลาเต้ และอเมริกาโน ให้เลือกเครื่องดื่มจากเมนูเอสเพรสโซ แยกย่อยออกไปอีก 2 สูตรเมล็ดกาแฟ ได้แก่ สูตรมายด์ (Mind) เบลนด์จากกาแฟ 5 สัญชาติ ให้รสถั่วและช็อกโกแลต รสสัมผัสแน่น ขณะที่สูตรแอฟริกาจะเบากว่า และให้รสผลไม้มากกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มอเมริกาโน ซึ่งเราลองแล้วว่าดีจริง
พิเศษสุดสำหรับคอลาเต้กับ Rwanda COE (235 บาท) เมล็ดกาแฟจากประเทศรวันดา ซึ่ง เรด ไดมอนด์ คาเฟ่ คั่วมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ บอดี้หนักแน่น หอมกลิ่นถั่ว มีรสช็อกโกแลตปิดท้าย เมนูฝั่งสตีมพังก์ แนะนำ Panama Perci Geisha 90+ (350 บาท) สุดยอดเมล็ดกาแฟระดับโลก การันตีคุณภาพด้วยคะแนน COE ระดับ 90+ ให้กลิ่นผลไม้เบอร์รีหอมฟุ้งอยู่ในปาก กับอีกตัวคือ Patung Dry Ruby Lot 1 เมล็ดกาแฟจากดอยผาตั้งที่ทางร้านดูแลเอง 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่วิธีการปลูกไปจนถึงวิธีการชง เนื้อหนักปานกลาง รสชาติมีความผลไม้นิดๆ หอมกลิ่นสตรอว์เบอร์รีจางๆ กลืนลงคอเหลือรสขมไม่มาก ต้องลอง!
สรุปโดยรวมแล้วราคากาแฟของที่นี่ค่อนข้างแพงหากเทียบกับราคากาแฟในคาเฟ่ทั่วไป แต่รับรองว่าจะมอบประสบการณ์การดื่มกาแฟแสนดีเลิศ
What Else You Should Know
– กาแฟที่นี่ไม่มีน้ำตาล ไม่หวาน และไม่เสิร์ฟไซรัป หากต้องการจริงๆ ให้ร้องขอได้ แต่เชื่อเถอะว่าคุณไม่ต้องการหรอก
– เมนูจากเครื่องสตีมพังก์จะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ มาครั้งนี้ได้ชิม ครั้งหน้าอาจจะไม่มีแล้วก็ได้
– ขนมและของกินแกล้มกาแฟมีน้อยมาก อย่างตอนที่เราไปครั้งแรกไม่มีเสิร์ฟ แต่ครั้งที่สองมีเค้กกล้วยหอม ซึ่งอร่อย! อีกทั้งราคายังไม่แพง ของอร่อยราคาน่าคบหายังมีอยู่ในโลก รีบคว้าไว้เพราะหมดเร็วมาก
– คุณวู้ดดี้-ศราวุธ เปรมจิต เจ้าของร้าน เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Intercof ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟครบวงจรมานานเกือบสองทศวรรษ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องทำกาแฟที่ล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เขายังเป็นคนไทยคนเดียวในประเทศที่ได้ประกาศนียบัตรรับรองการสอนคั่วกาแฟจากสถาบัน SCAA (Specialty Coffee Association of America) และ SCAE (Specialty Coffee Association of Europe)
Red Diamond Cafe
Open: 11.00-20.00 น.
Address: Red Diamond Cafe บริเวณปากซอยสังคมสังเคราะห์ 4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
Budget: 130-500 บาท
Contact: 08 5044 2662
Page: www.facebook.com/reddiamondcafe
Map
- Specialty Coffee หรือกาแฟพิเศษ คือเมล็ดกาแฟที่ผู้ผลิตให้ความสำคัญกับรสชาติมาก ลงรายละเอียดไปจนถึงระดับขั้นตอนผลิต มีกระบวนการคัดเลือกอย่างละเอียดยิบ ศึกษาตั้งแต่กรรมวิธีการปลูก วิธีการเก็บ ขั้นตอนวิธีการคั่ว การชง รวมถึงสภาพอากาศและภัยธรรมชาติ เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติโดดเด่นเฉพาะตัว โดยในแต่ละประเทศจะมีกาแฟพิเศษจากไร่ที่มีการปลูกดีที่สุดในปีนั้นๆ เป็นเทรนด์การเสพกาแฟพิเศษที่กำลังได้รับความนิยมจากนักดื่มรุ่นใหม่ทั่วโลก
- เครื่องชงกาแฟแบบสตีมพังก์ (Steampunk) เป็นเครื่องชงกาแฟอีกประเภทที่คิดค้นโดย คริสเตียน บอมเบ็ก (Kristian Bombeck) สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าของเครื่องชงแบบไซฟอน (Siphon) โดยมีหลักการเหมือนกันทุกประการ แต่สะดวกต่อบาริสตามากกว่า เพราะมีโปรแกรมควบคุมอุณหภูมิ แรงดัน การคน และแช่กาแฟ รวมทั้งฟังก์ชันอื่นๆ อีกหลากหลาย ออกสู่สาธารณชนครั้งแรกในงาน SCAA Trade Fair 2012 ตอนนี้กำลังแพร่หลายในอเมริกาและยุโรป