×

ชวนกินพาสต้าเส้นสด ที่ร้าน La Dotta เพราะพาสต้าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

22.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 mins read
  • คาโบนาราของ ลา ดอตต้า (La Dotta) เป็นสูตรต้นตำรับที่เชฟชาวอิตาเลียนพกมาด้วยจากบ้านแดนมักกะโรนี ชุ่มฉ่ำและหอมมัดใจด้วยความเข้มข้นของชีสและไข่แดงออร์แกนิกล้วนๆ โดยไม่มีครีมหรือนมสักหยด
  • นี่คือร้านที่ให้ความรู้สึกบ้านๆ สบายตัว ไม่ชวนให้รู้สึกเคอะเขินแบบอิตาเลียนไฟน์ไดนิ่ง แต่เป็นคอมฟอร์ตฟู้ดสูตรดั้งเดิมของชาวอิตาเลียนที่ใครๆ ก็กินได้
  • ค็อกเทลรสผลไม้สดอร่อยแบบหวานบ้าง เปรี้ยวบ้าง เป็นเสน่ห์ของความสดของผลไม้ในแต่ละวัน
  • เชฟบอกว่าอาหารที่ออกมาจากครัวแห่งนี้จะไม่ทำให้คุณแม่เลือดอิตาเลียนเข้มข้นของเขาต้องผิดหวังแน่นอน!

     หลังจากคลอด เวสเปอร์ ค็อกเทล บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ (Vesper Cocktail Bar & Restaurant) และ อิล ฟูโม ชาร์โคล แอนด์ ค็อกเทล (Il Fumo Charcoal & Cocktail) ใจรักในของอร่อยของสามีภรรยา คุณโชติพงษ์ และคุณเด็บบี้ ลีนุตพงษ์ ยังไม่หยุดแค่นั้น ล่าสุดพวกเขาเปิดประตูต้อนรับทุกคนเข้าสู่สวรรค์ของคนรักเส้นที่บ้านหลังใหม่บนซอยทองหล่อกับ La Dotta (ลา ดอตต้า) ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมเมด

 

 

The Vibe

     “Make pasta great again” คือประโยคทักทายที่แสดงอยู่บนผนังจนเกือบเป็นสิ่งแรกที่ต้องสังเกตทันทีที่เดินผ่านเข้าประตูอาคารสีฟ้าสดที่สุดในทองหล่อซอย 9 คำพูดแซวที่หยิบยืมมาจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกเป็นนัยถึงตัวสถานที่ว่า สำหรับเรื่องพาสต้าแล้วที่นี่ไม่ได้ทำกันเล่นๆ

     บรรยากาศสบายๆ ในพื้นที่ขนาดชวนอบอุ่นที่ฉาบด้วยความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนอยู่บางๆ ร้านลา ดอตต้าตกแต่งด้วยสีฟ้าเทอร์ควอยส์อย่างลงตัว แซมด้วยสีขาวนวลตา แลดูโปร่งและสว่างไสวด้วยแสงธรรมชาติโดยเฉพาะหากได้มาเยือนช่วงกลางวัน ด้านล่างคือบริเวณที่รับแขกวอล์กอิน มีบาร์ที่นั่งชมวิวริมหน้าต่าง (มองร้านขายยาที่ทุกคนต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าร้านที่อยู่ตรงข้าม) และมีบริเวณนั่งรับประทานอาหารติดครัวเปิด เผยให้เห็นการทำเส้นพาสต้าสดๆ แต่ที่คลาดสายตาไม่ได้คือ ตู้โชว์เส้นพาสต้าทั้งแบบทำสดๆ และแบบแห้ง (dry pasta) ที่มีให้เลือกกว่า 10 ชนิด

     ส่วนบนชั้น 2 ของร้านเป็นที่นั่งสำหรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่ม โดยมีบาร์ตั้งอยู่ด้านหลัง

 

 

 

The Dishes

     ความอร่อยรสบ้านๆ แบบอิตาเลียนนี้ได้เชฟเจ้าสำราญจากแคว้นซาร์ดิเนียอย่าง ฟรานเซสโก เดียอานา (Francesco Deiana) มาเป็นหัวเรือหลักในการรังสรรค์เมนูที่เขามั่นใจว่าต้องอร่อยเด็ด (แบบที่เขาบอกว่าคุณแม่เลือดอิตาเลียนเข้มข้นของเขามาชิมแล้วจะต้องไม่เบ้ปาก) ร่วมกับ เนลสัน อะโมริม (Nelson Amorim) เชฟชาวโปรตุเกสจากร้าน อิล ฟูโม และ เกียมปิเอโร กัวร์ตาราโร (Giampiero Quartararo) เชื้อสายซิซิเลียนเป็นกองหน้าประจำการหน้าครัว

 

     

     อาหารอิตาเลียนของลา ดอตต้า ชูความคิดที่ว่าพาสต้าโฮมเมดดีๆ ในบรรยากาศเป็นกันเองนั้นเป็นไปได้ และมีเมนูเส้นพาสต้าสดๆ สูตรต้นตำรับที่เราอยากแนะนำจนออกหน้าคือ Carbonara (360 บาท) เมนูที่ชาวโรมต้นตำรับแอบเคือง เพราะคนค่อนโลกเข้าใจผิดว่าแสนจะครีม แต่เปล่าเสียหน่อย เพราะความเข้มข้นนั้นมาจากชีสและไข่แดงล้วนๆ ไม่มีครีมหรือนมสักหยด… นี่คือเมนูพิสูจน์ฝีมือเชฟว่ารู้จักอาหารแดนรองเท้าบู๊ตได้ดีเพียงไหน ซึ่งลา ดอตต้า ก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการใช้แก้มหมูหรือกานชาเล (Cancale) แทนเบคอนที่หอมยั่วยวนสุดๆ ตั้งแต่นำลงกระทะ ไข่แดงออร์แกนิกจากฟาร์มที่เขาใหญ่ และชีสเพโกริโน โรมาโน* (Pecorino Romano) เมนูนี้สามารถเลือกเส้นแห้งที่นำเข้าได้คือ แบบบูกาตินี (Bucatini) และริกาโตนี (Ricatoni) และมีแบบกลูเตนฟรีให้เลือก

 

     

     Pici (360 บาท) เส้นพาสต้าขนาดไม่เท่ากันที่ให้รสชาติหนุบหนับเต็มคำในปาก กับซอสเป็ดรสเข้มข้นที่เคี่ยวนาน 8 ชั่วโมง กับเครื่องเทศ 5 ชนิด และ Tortelloni Bolognese (370 บาท) พาสต้าเวอร์ชันเกี๊ยวอิตาเลียนทำมือสดๆ อัดแน่นด้วยพาร์มาแฮม และชีสพาร์มิจีอาโน เรกกิอาโน (Parmigiano-Reggiano) หอมอร่อยดีด้วยเนยอิตาเลียน และซอสใส่ใบเสจ และมีกลิ่นเฮเซลนัตจางๆ ขนมอย่าง Almond Cake (190 บาท) ของที่นี่อร่อยแบบไม่หวานติดลิ้น โรยด้วยแยมส้มและเบอร์รีสด เมนูนี้น่าจะมัดใจคนไม่ชอบขนมหวานได้ไม่ยาก

 

 

The Drinks

     ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ บาร์เมเนเจอร์มากประสบการณ์ เจ้าของรางวัล Diageo World Class Thailand 2012 เมินน้ำผลไม้สำเร็จรูป แล้วใช้น้ำผลไม้สดๆ คุณภาพดีมาเสกเป็นเมนูเครื่องดื่มให้เข้ากับอาหารอิตาเลียนกินง่าย การันตีความสดด้วยการคั้นทุกวัน La Dotta Martini (340 บาท) เหล้าสีหวาน ใช้จินอินฟิวส์ผสมกับสตรอว์เบอร์รีเข้มข้นคู่กับมะเขือเทศ เหล้าเวอร์มุท เหยาะด้วยบิตเตอร์ส แต่รสชาติกลับหอมและหวานกลมกล่อมยาว ขมอ่อนๆ ตอนจบ ปิดรสชาติด้วยรสมะเขือเทศที่เข้ากันได้ดิบดีจนแทบไม่รู้สึกถึงรสแอลกอฮอล์ แก้วนี้เป็นตัวแทนของความหอมหวานยวนใจที่กลับไร้รสชาติหวานจนเหนียวมือ สาวกจินโทนิกควรลอง G & T & Tea (320 บาท) เหล้าจินอินฟิวส์กับชา Ronnefeldt 3 ชนิด ที่ให้รสผลไม้ตอนจบ ท็อปด้วยน้ำโทนิกของ Fever Tree

     นอกเหนือจากค็อกเทลที่มิกโซโลจิสต์อยากอวดแล้ว น่าสนใจตรงที่ยังมีไวน์ออร์แกนิกที่กำลังเป็นที่พูดถึงในหมู่นักดื่มไวน์ให้เลือกหลากหลายชนิดให้ละเลียดคู่กับพาสต้าด้วย

 

 

What Else You Should Know  

     – บรรยากาศของชั้น 2 คึกคักสนุกสนาน ฉีกแนวจากความเนิบสบายหูสบายตาของโทนโดยรวมตรงที่เพิ่มจังหวะดนตรีให้มีความป๊อปบ้าง ร็อกสไตล์ท็อป 40 จากหลากยุคบ้าง เพิ่มความรู้สึกบ้านๆ สบายตัวให้ไม่เคอะเขิน ย้ำเตือนว่านี่ไม่ใช่ร้านอิตาเลียนไฟน์ไดนิ่ง แต่เป็นอาหารอิตาเลียนคอมฟอร์ตฟู้ดที่ใครๆ ก็สามารถกินได้ แม้คุณจะเพิ่งขุดร่างจากเตียงในชุดลำลองก็ตาม

 

La Dotta

Open: อังคาร-อาทิตย์ 11.00-14.30 น. และ 17.30-23.00 น.

Address: ทองหล่อ ซอย 9 สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Budget: 60-2,700 บาท เครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 60 บาท ค็อกเทลเริ่มต้นที่ 320 บาท และอาหารเริ่มต้นที่ 160 บาท

Contact: 0 2392 8688

Website: www.ladotta.co

Page: www.facebook.com/ladottapasta

Map: 

FYI
  • ลา ดอตต้า (La Dotta) เป็นหนึ่งในชื่อเล่นของแคว้นโบโลญญา (Bologna) แปลว่า The Wise One หรือ เจ้าปัญญา อีกชื่อที่เป็นที่รู้จักคือ ลา กราซซา (La Grassa) ที่แปลว่า The Fat One หรือ เจ้าอ้วน นั่นเอง
  • เทคนิคทำกานชาเลให้กรอบจนไม่เหนียวสักนิด และหอมอบอวลในคาโบนาราของเชฟอยู่ที่การใช้กระทะที่ต้องร้อนจัดก่อนนำเนื้อลงไป โดยไม่ต้องใส่น้ำมันมะกอก
  • เชฟฟรานเซสโกกระซิบว่าอาวุธลับที่ทำให้อาหารอร่อยของเขาคือ น้ำสต็อกผักที่ดึงรสชาติอาหารออกมาได้อย่างเด็ดดวง
  • ควรรับประทานพาสต้าภายใน 20 นาทีที่เสิร์ฟ เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด
  • *เพโกริโน โรมาโน (Pecorino Romano) คือชีสที่ทำจากนมแกะที่อายุไม่มาก

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X