×

ยกฮาวายมาไว้ที่อารีย์! Pakalolo Tikibar & Dining ร้านอาหารและค็อกเทลสไตล์หมู่เกาะทะเลใต้

05.06.2017
  • LOADING...
Pakalolo Tikibar & Dining

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • ที่นี่เสิร์ฟอาหารลูกผสมระหว่างอาหารญี่ปุ่นและวัฒนธรรมอเมริกันในแถบฮาวาย เช่น Tuna Poke ยำสลัดทูน่าแบบฮาวายรสหวาน เปรี้ยว เผ็ดกำลังดี หอมกลิ่นน้ำมันงา
  • องค์ประกอบที่บ่งบอกถึงความเป็นติกิ (Tiki) ได้แก่ ไม้ไผ่ หน้ากากไม้แกะสลักลวดลาย มุงหลังคาใบไม้ หินลาวา ต้นปาล์ม นางระบำฮูลา ฯลฯ
  • ค็อกเทลสไตล์ติกิส่วนใหญ่มักจะเบสด้วยเหล้ารัม แต่ก็ใช่ว่าค็อกเทลที่ใส่รัมทุกตัวจะเป็นติกิ มีบางตัวที่ใช้เหล้าจิน สก็อตวิสกี้ บรั่นดี หรือเตกีลาเป็นเบสอยู่บ้างพูดง่ายๆ คือค็อกเทลสไตล์ติกิได้รับแรงบันดาลใจมาจากเขตร้อน ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ Mai Tai และ Zombie
  • โปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใส่เสื้อฮาวายไปที่ร้านจะได้รับ Gin Tonic with Thai Bitter (จินโทนิกใส่น้ำยาอุทัยทิพย์) หรือจะเลือกเป็นจินโทนิกธรรมดา 1 แก้วก็ได้ และถ้าบอกว่ามาจากรีวิวของ THE STANDARD ก็จะได้รับเครื่องดื่มดังกล่าว 1 แก้วเช่นกัน

     ท่ามกลางบรรยากาศแบบสปีกอีซี บาร์ (Speakeasy Bar) ซึ่งเราเห็นว่าเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นติดต่อมานานหลายปี และดูเหมือนว่าจะเริ่มซาลงแล้ว เพราะทุกที่ก็ดูสลัวๆ จะต่างกันก็เพียงคอนเซปต์ใหญ่ องค์ประกอบที่ใช้ในการตกแต่ง และกิมมิกต่างๆ เท่านั้น THE STANDARD จึงรู้สึกค่อนข้างตื่นเต้นอยู่พอสมควรเมื่อรู้ว่ามีติกิ บาร์ (Tiki Bar) ที่เพิ่งเปิดใหม่ในซอยอารีย์ จึงถือโอกาสไปเยี่ยมเยือน แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองเดินเข้าไปในบาร์ริมชายหาดแถบมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ก็ไม่ปาน

 

 

The Vibe

     ตรงข้ามกับร้าน เราจะเห็นกราฟฟิตี้รูปค็อกเทลในแก้วติกิ ซึ่งบ่งบอกถึงบุคลิกอันมีสีสัน สนุกสนาน และเป็นกันเอง ของ Pakalolo Tiki Bar & Dining (พาคาโลโล่ ติกิ บาร์ แอนด์ ไดนิ่ง) ได้เป็นอย่างดี ด้านนอกริมถนนมีโต๊ะตั้งอยู่ไม่กี่ตัว ให้นั่งจิบเครื่องดื่มละเลียดบรรยากาศแบบโอเพนแอร์ ซึ่งโชคดีว่าซอยอารีย์ 4 นี้รถไม่พลุกพล่านเท่าไร อากาศจึงโล่งสบาย เมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในร้านก็จะพบกับบาร์หินอ่อนยาวเหยียดสีเขียวลายน้ำตาล บุด้านล่างด้วยไม้ไผ่ เช่นเดียวกับระแนงไม้ไผ่ที่ตกแต่งบนเพดาน เฟอร์นิเจอร์เน้นสีน้ำตาลอ่อนจากหวายสาน และที่ขาดไม่ได้คือ หน้ากากไม้แกะสลัก

 

The Dishes

     อาหารของที่นี่เป็นลูกผสมของอาหารญี่ปุ่นและวัฒนธรรมอเมริกันในแถบฮาวาย Tuna Poke (180 บาท) ยำสลัดทูน่าแบบฮาวายรสหวานเปรี้ยว เผ็ดกำลังดี หอมกลิ่นงา Baked Miso Eggplant (170 บาท) มะเขือม่วงอบชีสมิโซะ ถือเป็นส่วนผสมที่น่าลอง

     โรลหรือข้าวปั้นมีให้เลือก 2 ไซส์ 2 ราคา ขอแนะนำ So Salmon (จานใหญ่ 530 บาท จานเล็ก 240 บาท) ข้าวปั้นไส้อะโวคาโดพันด้วยแซลมอน เพิ่มรสสัมผัสกรุบกรอบด้วยแป้งเทมปุระทอดกรอบและไข่กุ้ง กินกับซอสสไปซีและซอสหวาน หรือจะเลือกเป็น Holy Crab Rolls (จานใหญ่ 690 บาท จานเล็ก 370 บาท) โรลปลาไหลครีมชีสเนื้อปู รสชาติครีมมีนุ่มนวล แต่ถ้าอยากจะหนักท้องขึ้นมาหน่อยก็สั่งพาสต้า Chili Garlic Rock Shrimp (340 บาท) สปาเกตตีกั้งพริกกระเทียม ซึ่งถ้าใครที่ชอบกินแซ่บ จานนี้เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง เพราะรสจัดจ้าน เด็ดได้ใจ แถมกั้งที่สั่งตรงมาจากเกาะช้าง จังหวัดตราด ก็เนื้อสดรสหวาน

 

The Drinks

     ดริงก์ลิสต์ส่วนใหญ่ของที่นี่มาจากสูตรในหนังสือ Smuggler’s Cove: Exotic Cocktails, Rum, And the Cult of Tiki แต่ปรับสูตรเล็กน้อยให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เน้นค็อกเทลที่เป็นรัมเบสและน้ำผลไม้เขตร้อน บางรายการมีการผสมสาเกเข้าไปเพื่อให้เข้ากับคอนเซปต์ฮาวาย ซึ่งเป็นเกาะที่มีการหลอมรวมกันระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นและอเมริกัน ที่นี่จึงมีวิสกี้ญี่ปุ่นอย่าง Suntory Whisky White ให้ลองจิบด้วย (ขวดละ 1,600 บาท) ด้านค็อกเทลที่ขอแนะนำคือ Lilia (320 บาท) แก้วสีชมพูรสสดชื่น มีส่วนผสมของวอดก้ากลิ่นลูกแพร์, จิน, น้ำเชื่อม, ใบไทม์, เอลเดอร์ฟลาวเวอร์, น้ำฝรั่งสีชมพู และน้ำมะนาว ส่วนอีกแก้วนั้นเราชอบทั้งรสชาติและชื่อของแก้วนี้จริงๆ นั่นคือ Maodi (320 บาท) ในแก้วทรงติกิ รสชาติเข้มขึ้นมาหน่อยด้วยส่วนผสมของดาร์กรัม, บรั่นดี, แอปริคอต, Angostura Bitters, น้ำส้ม, น้ำสับปะรด, น้ำมะนาว และเกรนาดีน แต่ถ้าเป็นคอรัมตัวจริงน่าจะชื่นใจกับแบรนด์รัมชั้นดีอย่าง Diplomatico Rum (380 บาท)

 

What else you should know:

     –  โปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใส่เสื้อฮาวายไปที่ร้านจะได้รับ Gin Tonic with Thai Bitter (จินโทนิกใส่น้ำยาอุทัยทิพย์) หรือจะเลือกเป็นจินโทนิกธรรมดา 1 แก้วก็ได้ และถ้าบอกว่ามาจากรีวิวของ THE STANDARD ก็จะได้รับเครื่องดื่มดังกล่าว 1 แก้วเช่นกัน

     –  มีดนตรีสดเล่น 6 วันตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์ มีทั้งอูคูเลเล่ แซกโซโฟน เรกเก้ แจ๊ซ ไปจนถึงเพลงตลาดฟรีสไตล์หลากหลายแนว ส่วนวันจันทร์นั้นมีดีเจมาเปิดแผ่น

     –  ร้านไม่ใหญ่มาก จุได้ประมาณ 30 คน แนะนำอย่างยิ่งว่าควรจะจองโต๊ะไว้ล่วงหน้า

 

Pakalolo Tiki Bar & Dining

Open: วันอาทิตย์-วันพุธ 17.00-24.00 น., วันพฤหัส-วันเสาร์ 17.00-01.00 น.

Address: ซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท

Budget: 450-1,000 บาท โดยราคาค็อกเทลเริ่มต้นที่ 280 บาท คราฟต์เบียร์เริ่มต้นที่ 200 บาท และอาหารเริ่มต้นที่ 150 บาท

Contact:  08 0258 8361

Website: pakalolobkk.com

Page: www.facebook.com/pakalolotikibar

Map:

 

FYI
  • ติกิบาร์ – มีต้นกำเนิดมากว่า 80 ปีแล้ว เมื่อเออร์เนสต์ เรย์มอนด์ โบมองต์ แกนตต์ (Ernest Raymond Beaumont Gantt) ผู้ซึ่งใช้ชีวิตวัยเยาว์ในแถบหมู่เกาะแคริบเบียนและแปซิฟิกใต้ เดินทางกลับมายังสหรัฐอเมริกาและเปิดร้าน Don the Beachcomber ขึ้นที่ลอสแอนเจลิส ในปี ค.ศ. 1934 โดยตกแต่งบรรยากาศร้านในสไตล์หมู่เกาะที่เขาคุ้นเคย เสิร์ฟอาหารจีนกวางตุ้ง และมีส่วนผสมของอาหารฮาวายกับอาหารโพลินีเชียน ต่อมาไม่กี่ปี ร้าน Trader Vic’s ที่โด่งดังจากการสร้างสรรค์ค็อกเทลระดับโลกอย่าง Mai Tai และมีสาขาทั่วโลกก็เปิดตามมา เป็นการจุดกระแสติกิบาร์ที่ฮิตและกระจายไปทั่วโลกในช่วงทศวรรษ 1930-1950
  • ติกิสไตล์ – องค์ประกอบที่บ่งบอกถึงความเป็นติกิสไตล์ ได้แก่ ไม้ไผ่ หน้ากากไม้ ไม้แกะสลักลวดลาย มุงหลังคาใบไม้ หินลาวา ต้นปาล์ม นางระบำฮูลา (Hula Girl) ลายผ้า หรือภาพติดผนังตามวัฒนธรรมพื้นที่เขตร้อน โดยเฉพาะแถบแปซิฟิกใต้อย่างหมู่เกาะโพลินีเซีย ไปจนถึงน้ำพุ และน้ำตกจำลอง ติกิบาร์บางแห่งจัดให้มีเวทีแสดงสดสำหรับแสดงดนตรี และมีฟลอร์เต้นรำด้วย
  • ค็อกเทลสไตล์ติกิ – ส่วนใหญ่มักจะเบสด้วยเหล้ารัม แต่ก็ใช่ว่าค็อกเทลที่ใส่รัมทุกตัวจะเป็นสไตล์ติกิ มีบางตัวที่ใช้เหล้าจิน สกอตวิสกี้ บรั่นดี หรือเตกีลาเป็นเบสอยู่บ้างเหมือนกัน พูดง่ายๆ ว่าค็อกเทลสไตล์ติกิได้รับแรงบันดาลใจมาจากเขตร้อน และรัมก็เป็นแชมเปียนสำหรับเหล้าที่ผลิตในเขตศูนย์สูตรอยู่แล้ว อีกอย่างที่สำคัญคือมิกซ์ด้วยน้ำผลไม้สดๆ อาจมีการใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดจันทน์เทศหรืออบเชยบ้าง ตกแต่งในแก้วติกิหรือร่มอันจิ๋ว ค็อกเทลสไตล์ติกิที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ Mai Tai และ Zombie
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising