×

ตามหาล็อกเกอร์รูมให้พบ! แล้ววาร์ปไปเจอบาร์ลับแห่งใหม่ กับค็อกเทลจากอดีตสู่อนาคต

18.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ค็อกเทลของบาร์ลับแห่งใหม่ล่าสุดในย่านทองหล่อมาในคอนเซปต์ ‘อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต’ แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของค็อกเทลที่เดินทางผ่านกาลเวลา นอกจากนี้ยังเป็นการผนึกกำลังกันของบาร์เทนเดอร์ชื่อดังในระดับเอเชียถึง 4 คน
  • Nut Over Michelin เวอร์ชันอนาคตของ French Connection ค็อกเทลที่ใช้เทคนิค Fat Wash นำสปิริตมาผสมกับน้ำมันฟัวกราส์ เพื่อซึมซับรสชาติและกลิ่น แล้วนำไปแช่เย็นเพื่อแยกไขมันออก กลายเป็นเครื่องดื่มแก้วสีดำอันน่าตื่นเต้น

     THE STANDARD ได้ยินมาสักพักแล้วว่ากำลังจะมีสปีกอีซีบาร์ลับแห่งใหม่ล่าสุดเกิดขึ้นในย่านทองหล่อ ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นกับโปรเจกต์ดังกล่าวมากพอสมควร เพราะเป็นการรวมดาวผนึกกำลังกันระหว่างเหล่าบาร์เทนเดอร์ชื่อดังระดับเอเชียถึง 4 คน และในที่สุดการตั้งตารอคอยก็สิ้นสุดลง เพราะบาร์ลับไม่มีชื่อแห่งนี้ เพิ่งเปิดตัวไปอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

 

 

     เมื่อไปถึง Arena 10 สิ่งที่คุณจะต้องทำคือ หาห้องครัวของร้าน Ping’s Kitchen ให้เจอ และทางด้านข้างของห้องครัวแห่งนั้นให้มองหามุมล็อกเกอร์สำหรับพนักงานของร้านดังกล่าว คุณจะเจอกับตู้ล็อกเกอร์ที่ขนาบอยู่ 3 ด้าน ทั้งซ้ายและขวา แต่การจะหาบาร์ลับแห่งนี้ให้เจอได้นั้น คุณต้องออกแรงเลื่อนตู้ล็อกเกอร์เบื้องหน้าไปทางซ้ายมือเสียก่อน   

 

 

The Vibe

     ทันทีที่เลื่อนประตูล็อกเกอร์แล้วก้าวเท้าเข้าไปภายใน ก็ดูเหมือนเราจะวาร์ปหลุดออกมายังอีกโลก เมื่อได้พบกับแสงสลัวตามคอนเซปต์สปีกอีซีบาร์ ซึ่งแลดู (ประหนึ่ง) ว่าลึกลับ และมันก็ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจเช่นนั้นจริงๆ เสียด้วย เพราะไม่คาดคิดว่าจะมีบาร์ลับที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังตู้ล็อกเกอร์ ที่นี่คือ Locker Room (ล็อคเกอร์ รูม)

 

 

     สีเทาหม่นของผนังปูนเปลือยและเฟอร์นิเจอร์หนังยิ่งทำให้บรรยากาศของที่นี่ดูขรึมขลัง หากภาพวาดติดผนังที่เลือกมาก็ช่วยเพิ่มเติมบุคลิกให้ที่นี่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ แต่สิ่งที่น่าพูดถึงของที่นี่ที่สุดคือ เคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้เข้ากับสรีระของบาร์เทนเดอร์ชาวไทย โดยมีระดับความสูงที่ไม่มากนัก ทั้งยังสะดวกสำหรับการใช้งาน แถมสปิริตบางชนิดยังถูกแช่อยู่ในตู้ที่ควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้ชงเครื่องดื่มออกมาให้ได้รสชาติยอดเยี่ยมที่สุด

 

 

The Drinks

     ค็อกเทลของที่นี่มาในคอนเซปต์ ‘อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต’ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เราว่าน่าสนใจมาก เพราะมันแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของค็อกเทลที่เดินทางผ่านกาลเวลา พูดอย่างนี้หลายคนอาจจะยังนึกสงสัยอยู่ แต่ถ้าบอกว่านอกจากทางร้านมีค็อกเทลสูตรคลาสสิก (จากอดีต) แต่ละตัว ซึ่งเป็นดังตัวแทนของสปิริตชนิดต่างๆ เช่น White Lady ที่เป็นตัวแทนของเหล้า Gin แล้ว นำไปปรับสูตรให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ซึ่งจะอยู่ในหมวดเครื่องดื่มเวอร์ชันปัจจุบัน และในส่วนค็อกเทลล้ำๆ หรือหมวดอนาคตนั้นมีจุดเด่นคือ ได้มีการหยิบยืมนำเอาเทคนิคในการประกอบอาหารมาใช้ในการสร้างสรรค์ค็อกเทล

 

 

     ยกตัวอย่างหมวดปัจจุบันที่เราได้ชิมแล้วชอบมากคือ แก้วที่ชื่อว่า Harakiri (390 บาท) เป็นเวอร์ชันปัจจุบันของ Bloody Mary ซึ่งนอกจากจะมีการปรับจากวอดก้ามาใช้ Tequila Blanco แล้ว ที่ปากแก้วยังเคลือบด้วยผงบ๊วยและผงเครื่องเทศให้รสแซบๆ คล้ายกับมีกองทัพมดมากัดในปากเบาๆ แต่รสชาติดี

 

 

     ส่วนเวอร์ชันอนาคตนั้นมาในแก้วที่ชื่อ Bloodless Maria (390 บาท) เทคนิคการทำอาหารที่นำมาใช้คือ การเอามะเขือเทศแห้งไปซูวีกับเหล้าเวอร์มุธ แล้วนำไปชงให้ออกมาอยู่ในรูปแบบของมาร์ตินี ซึ่งให้กลิ่นและรสบางๆ ของมะเขือเทศ เคลือบปากแก้วด้วยมิโซะ

     และอีกแก้วที่เราประทับใจคือ เวอร์ชันอนาคตของคลาสสิกค็อกเทลสายคอนญักอย่าง French Connection ที่ใช้เทคนิค Fat Wash นำสปิริตมาผสมกับน้ำมันฟัวกราส์เพื่อซึมซับรสชาติและกลิ่น แล้วนำไปแช่เย็นเพื่อแยกไขมันออก กลายเป็นเครื่องดื่มแก้วสีดำอันน่าตื่นเต้นชื่อ Nut Over Michelin (390 บาท) ที่เวลาดื่มต้องจิบติดงาดำคั่วที่โรยลงไปด้วย จึงจะได้กรุ่นกลิ่นและรสชาติที่พอดิบพอดี

 

 

   นอกจากนี้บาร์ลับแห่งนี้ยังมีทั้งค็อกเทลสูตรคลาสสิก และเวอร์ชันทวิสต์อีกหลายแก้วที่น่าลอง ซึ่งน่าจะมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่นักดื่มได้อย่างแน่นอน

 

Locker Room

Address: Arena 10 ซอยทองหล่อ 10

Budget: 360 บาท/แก้ว  

Contact: 09 2895 3689

Website / Page: ไม่มี

Map: ให้แผนที่ไปก็ไม่ใช่บาร์ลับสิ เราบอกได้แค่ว่า #findthelockerroom

 

 

FYI

บาร์ลับแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างบาร์เทนเดอร์ชื่อดังถึง 4 คนได้แก่ โคลิน เชีย (Colin Chia) จาก ‘Nutmeg & Clove’ ซึ่งติดอยู่ในลำดับที่ 72 ของ World’s Best Bars ประจำปี 2016 และอันดับที่ 30 ในลิสต์ Asia’s 50 Best Bars, ฮิเดสึกุ อูเอโนะ (Hidetsugu Ueno) แห่ง ‘Bar High Five’ ในโตเกียว ผู้ทำให้ Japanese Bartending เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ, นิก วู (Nick Wu) เจ้าของบาร์ East End แห่งเมืองไทเป และ หนึ่ง-รณภร คณิวิชาภรณ์ แห่ง ‘Backstage’ ผู้ชนะการแข่งขัน Diageo World Class ระดับประเทศถึง 2 ปี

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising