ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านความชื่นชอบส่วนบุคคล หรือคิดหมายมั่นจะปั้นตนเป็น ‘เด็กฮิป’ ก็ตามที แต่จากเดิมที่กลุ่ม ‘นักล่าคาเฟ่’ หรือ ‘Cafe Hoppers’ ผู้แชร์ประสบการณ์ในการไปเยือนคาเฟ่ต่างๆ ผ่านภาพถ่ายโดยการโพสต์ลงเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมในสมัยก่อนมักจะมีจุดหมายเดียวกัน ซึ่งก็คือกรุงเทพมหานคร หรือไม่ก็จังหวัดเชียงใหม่ สองเมืองใหญ่ที่อุดมไปด้วยคาเฟ่มีสไตล์
แต่ในปัจจุบัน ‘วัฒนธรรมคาเฟ่นิยม’ หรือ ‘Cafe Hopping’ กับกระแสสังคมที่เน้นความ ‘สโลว์’ นั้นได้กระจายตัวออกไปกว้างขวางกว่าเดิม ด้วยกลายเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงคุณภาพชีวิต โชว์ไลฟ์สไตล์ผ่านความติสท์ ความสร้างสรรค์ (สำหรับใครหลายคนที่คิดจะนำเสนอสิ่งดังกล่าว)
อีกทั้งคาเฟ่ยังเป็นเสมือนสถานที่ทำงานหลักของผู้ประกอบอาชีพอิสระในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ความนิยมในการประกอบธุรกิจคาเฟ่นั้นขยับขยายออกเป็นวงกว้างไปจนถึงตามหัวเมืองต่างๆ ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศตามกระแสสังคม เกิดเป็นการแข่งขันทางธุรกิจที่น่าดูชม เพราะบรรดาผู้ประกอบกิจการที่เปิดคาเฟ่ ต่างฝ่ายต่างก็งัดไอเดียออกมาต่อสู้กันอย่างเต็มที่
ดังเช่น 6 คาเฟ่แดนอีสานที่ถูกหยิบยกมานำเสนอในที่นี้ ซึ่งเราคิดว่าคงจะเป็นการดี หากคุณผู้อ่านได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือน
1. Yellow Submarine Coffee Tank จังหวัดนครราชสีมา
คาเฟ่อภิมหาฮิตประจำเขาใหญ่ ได้รับแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อมาจากบทเพลง Yellow Submarine ของ The Beatles ตั้งอยู่ ณ ประตูสู่ภาคอีสาน ไม่ไกลจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียง 2 ชั่วโมงเศษจากกรุงเทพฯ จึงทำให้ได้รับการอุดหนุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่งจากบรรดา Cafe Hoppers รวมทั้ง Instagramers ที่ต้องการหาโลเคชันเก๋ๆ เพื่อรัวชัตเตอร์ โพสท่าเหมือนกำลังเผลอ หรือทำหน้าเบลอๆ ขณะคนช้อนวนอยู่ในถ้วยอเมริกาโน
จุดเด่นของ Yellow Submarine Coffee Tank คือการออกแบบที่ชาญฉลาดและเต็มไปด้วยวิสัยทัศน์ของกลุ่มนักออกแบบ Second Floor Architects ที่ผนวกความโมเดิร์นอย่างสุดโต่งเข้ากับสภาพแวดล้อมรอบข้าง ซึ่งก็คือต้นยางหอมที่ขึ้นอยู่เรียงรายมานานนับสิบปีได้เป็นอย่างดี ด้วยตัวอาคารสีดำทึบในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซ่อนตัวอยู่เป็นชั้นสลับกับสีเขียวของใบไม้ หย่อมหญ้า และสีน้ำตาลเทาของก้อนหินธรรมชาติกับพื้นดิน
TO DO: หากต้องการรูปภาพที่สวยงามไปลงอินสตาแกรม จงพยายามไปให้ถึงเป็นลูกค้ารายแรกของร้าน เพราะยิ่งสาย คนจะเยอะมากจนนึกว่ามางานกาชาดกันเลยทีเดียว คุณอาจจะอารมณ์ห่อเหี่ยวเนื่องจากรอกาแฟและขนมนาน อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ความผิดของทางร้าน
TO ORDER: Black Honey Toast ขนมปังชาร์โคลราดซอสคาราเมลและน้ำผึ้ง โปะทับด้วยสตรอว์เบอร์รีกับไอศกรีมรสวานิลลา
Open: ศุกร์-อาทิตย์ เวลา 9.00-19.00 น.
Address: ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
Contact: 09 6981 0682
Page: www.facebook.com/yellowsubmarinecoffee
Map:
2. 382space จังหวัดนครราชสีมา
หากจะให้นำผู้ประกอบการธุรกิจคาเฟ่มานั่งเรียงกัน 10 คนแล้วทยอยตั้งคำถามให้ตอบทีละคนว่า ‘คาเฟ่ในฝันนั้นควรจะเป็นอย่างไร’ แน่นอนว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่ทุกเสียงจะตอบอย่างพร้อมเพรียงไปในทิศทางเดียวกันแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เท่าที่ได้สำรวจจากกลุ่มเพื่อนนักล่าคาเฟ่ รวมทั้งเจ้าของร้านกาแฟ คอลัมนิสต์ หรือแม้แต่สถาปนิกหลายๆ คน ล้วนแล้วแต่แซ่ซ้องสดุดีคาเฟ่กลางเมืองนครราชสีมาแห่งนี้กันแทบจะทั้งสิ้น
382space เป็นบ้านกึ่งปูนกึ่งไม้ขนาดสองชั้นที่ถูกออกแบบและค่อยๆ สร้างจากน้ำพักน้ำแรงของเจ้าของสถานที่ บวกกับความรักที่มีให้กับต้นไม้ กลายเป็นคาเฟ่ในบรรยากาศบ้านสวนอันอบอุ่นกรุ่นไอดินให้ลูกค้าได้พักกายและสายตา รวมทั้งยังได้เล่นกับน้องหมาตัวใหญ่เป้งที่เดินไปมาอยู่ภายในร้านอย่างเป็นมิตร (อาจจะแลดูน่ากลัวเมื่อเดินเข้าไปในทีแรก แต่คอนเฟิร์มว่าไม่กัด ถ้าไม่อุตริทำพฤติกรรมประหลาดใส่น้องๆ เข้า)
บรรยากาศของ 382space เน้นความเงียบสงบ เหมาะสำหรับการมานั่งคิดหาไอเดียและเคลียร์งานเป็นอย่างยิ่ง มีการจัดโซนที่นั่งที่หลากหลาย ทั้งโซนห้องแอร์เย็นสบาย หรือเก้าอี้ไม้กับโต๊ะอินดัสเตรียลทางด้านนอกไว้ผ่อนคลายกับบรรดาต้นเฟิร์นและสระน้ำ
TO DO: ทางร้านไม่มีที่จอดรถ ลูกค้าสามารถจอดชิดติดผนังรั้วที่ล้อมรอบตัวบ้านได้เลย และไม่ต้องห่วงถ้า GPS เหมือนจะนำทางเข้าไปในซอยเล็กๆ ซึ่งผ่านทะลุชุมชนข้างวัดศาลาลอย -คุณไปถูกที่แล้ว
TO ORDER: เครื่องดื่มที่นี่ราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ประมาณ 50-60 บาทเท่านั้น และอย่าลืมลองเบเกอรีที่ทางร้านตั้งใจอบแบบสดใหม่ทุกวัน
Open: อังคาร-เสาร์ เวลา 9.30-17.00 น.
Address: ซอยท้าวสุระ 3/3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
Contact: 09 5609 3082
Page: www.facebook.com/382space
Map:
3. กะขม 2 จังหวัดขอนแก่น
กะขม 2 เป็นคาเฟ่ที่ใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมได้อย่างคุ้มค่าที่สุด คาเฟ่สุดธรรมชาติแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองขอนแก่นไปประมาณเกือบ 10 กิโลเมตร ขึ้นไปตามถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าสู่จังหวัดอุดรธานี
อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คาเฟ่ไกลปืนเที่ยงแห่งนี้มีนักศึกษา รวมทั้งบรรดา Cafe Hoppers มากมายตะเกียกตะกายขับรถมาเช็กอิน? คำตอบก็คือความเขียวขจีของต้นข้าว ก้อนเมฆบนฟ้าสีสดใส (ในวันที่ฝนไม่ตก) บรรยากาศชายทุ่งนา ซึ่งวันดีคืนดีก็จะมีควายเดินไปเดินมาเป็นนักแสดงประกอบฉาก อีกทั้งตัวอาคารที่เปิดโล่งโปร่งรับลมโชยทั้งวัน ซึ่งเมื่อเทียบกับการที่ลูกค้าอาจจะต้องจ่ายเงินเพื่ออุดหนุนซื้อชาเขียวปั่นเพียงแก้วละไม่ถึง 50 บาท แลกกับการได้ใช้สถานที่นั่งคิดแคปชันรูปเก๋ๆ หรือบังคับคุณแฟนให้เดินแบกกล้องมิลเลอร์เลสตามมาเพื่อเก็บภาพตนเองกับรวงข้าวและท้องฟ้า ถือเป็นสิ่งที่คุ้มค่าเสียนี่กะไร
TO DO: ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการไปร้านกะขม 2 ที่เราขอแนะนำคือประมาณ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป เพราะจะสามารถถ่ายภาพได้ทั้งแบบแสงสีสวยสด ตะวันเต็มดวง ยาวไปจนถึงช่วงตะวันเริ่มง่วง สาดแสงสีทองกันเลยทีเดียว
TO ORDER: อย่างไรก็ดี จะนั่งแช่ตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึงร้านปิดเฉยๆ ก็คงไม่งามเท่าไร จึงขอแนะนำให้สั่งนมปั่นปีโป้ เมนูธรรมดา ไม่ไฮโซ แต่รสชาติโดยรวมค่อนข้างโอเค มีปีโป้มาให้ในปริมาณที่เหมาะสม กินคู่กับบราวนี (ที่มีเป็นบางวัน) รสชาติเข้มข้น อร่อยมาก
Open: ทุกวัน 9.00-18.00 น.
Address: ถนนมิตรภาพ บ้านซำจาน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
Contact: 08 6584 4022
Page: www.facebook.com/kakhom.society (ดำเนินการโดยร้านกะขม ซึ่งร้านกะขม 2 ไม่มีเพจ)
Map:
4. Wolf’s Den Artelier & Meetspace จังหวัดอุดรธานี
เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากการปลุกกระแสการแต่งร้านโทนรัสติกอินดัสเทรียล ในประเทศไทยจากอิทธิพลของคาเฟ่เจ้าดังอย่าง Casa Lapin ที่เหมือนหลุดออกมาจากพินเทอเรสต์นั้น คาเฟ่ที่เปิดใหม่มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ล้วนเหมือนถูกสาปให้ใช้สถาปนิกออกแบบภายในคนเดียวกัน เช่น ล้วนมีการโปะปูนเปลือย ใช้ไม้เลื้อย แค็กตัส หรือเฟิร์นห้อยแขวนระโยงระยาง ซึ่งเจ้าของสถานที่มักจะโดนถากถางว่าการตกแต่งแนวที่เห็นอยู่นี้ จริงๆ คืองบทำร้านหมดหรือว่าจงใจให้ดูเก๋กันแน่
Wolf’s Den คือคาเฟ่ซึ่งตั้งอยู่ ณ ใจกลางเทศบาลนครอุดรธานี ที่ได้รับการยอมรับจากผู้มาเยือนอย่างกว้างขวางว่ามีการออกแบบภายใต้โทนรัสติกอินดัสเทรียลที่ ‘ถึง’ จริง โดยผู้ที่มาเยี่ยมเยือนรังหมาป่าแห่งนี้จะสามารถสัมผัสได้ถึงรายละเอียดทางการตกแต่งตั้งแต่หน้าซุ้มประตูทางเข้าจนถึงมุมโปรดของหลายๆ คน ซึ่งก็คือในส่วนหน้าบาร์ที่เหมาะแก่การไปนั่งจิกหน้าถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง ที่นี่มีบริการทั้งอาหารคาว-หวาน พร้อมพรีเซนเทชันการจัดจานและเครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อการโพสต์ลงอินสตาแกรมที่น่าจะทำให้เรียกไลก์ได้มากโข
TO DO: อย่าลืมเดินสำรวจให้ทั่วร้าน อาจจะดูไม่ใหญ่โต แต่มีการบริหารจัดการพื้นที่ให้มีหลายโซน รวมถึงเก้าอี้โซฟาที่นั่งสบายแบบดูดวิญญาณมากๆ
TO ORDER: อยากให้ลองชิมพิซซ่าซีฟู้ดของทางร้าน ซึ่งใช้แป้งที่ได้จากการนำยีสต์โฮมเมดหมักพิเศษด้วยผลมัลเบอร์รีเป็นเวลาถึง 4 วัน โปะด้วยกุ้ง ปลาหมึก แซลมอนดำ ฟินทุกคำยันผงออริกาโน
Open: ทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
Address: ตรงข้ามสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ถนนศรีสุข ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
Contact: 08 5221 0330
Page: www.facebook.com/w.wolfsden
Map:
5. Jammie’s Recipe จังหวัดอุดรธานี
การที่เจ้าของร้านเป็นหญิงสาวผู้มีฝีมือระดับฉมังในการทำขนมหวาน เปิดเบกกิงสตูดิโอพร้อมทั้งห้องดื่มชาแบบส่วนตัวที่บ้านสวนชานเมืองอุดรธานี นับเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งเหลือเกินสำหรับ Jammie’s Recipe จนไม่น่าแปลกใจว่าทำไมจึงมีคนยอมนั่งเครื่องบินมาไกลหลายชั่วโมงเพื่อที่จะได้สัมผัสบรรยากาศซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นมาภายในเคหะสถานอันรายล้อมไปด้วยความเขียวขจีของนาข้าว รวมไปถึงคอกควาย ซึ่งเจ้าของร้านตั้งชื่อน้องควายได้อย่างน่ารักน่าชังว่า ‘เจ้าใบบุญ’
สิ่งหนึ่งที่เปรียบเสมือนมนต์เสน่ห์ของคาเฟ่แห่งนี้ ซึ่งยังไม่มีที่ไหนในภาคอีสานเหมือน (และไม่แน่ใจว่าจะมีอีกสักกี่แห่งในประเทศเหมือน) คือการทำให้ลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการรู้สึกเหมือนแขกระดับ ‘ซูเปอร์วีไอพี’ โดยไม่มีการแบ่งแยกทางชนชั้นใดๆ เนื่องจากในทุกๆ ครั้งที่ทางร้าน Jammie’s Recipe จัดอาฟเตอร์นูนทีตามที่ได้รับจอง บริเวณทั้งหมดของเบกกิงสตูดิโอแห่งนี้จะมีเพียงแค่ลูกค้ากลุ่มนั้นเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น
ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะโพสท่าไหน จะดูดนิ้วเลียช็อกโกแลตแสนอร่อยเข้าปากเสียงดังแล้วจะทำให้ลูกค้าของร้านคนอื่นๆ ระคายสายตา เพราะที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขแบบ ‘เอ็กซ์คลูซีฟ’ โดยแท้
TO DO: แขกผู้ต้องการจองอาฟเตอร์นูนทีต้องบอกกล่าวไว้ล่วงหน้าก่อนเป็นเวลา 2 วัน แต่ถึงกระนั้น เชื่อเถอะว่าการรอคอยนี้มันคุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มัดจำไป
TO ORDER: ทางร้าน Jammie’s Recipe จะเป็นฝ่ายจัดแจงเนรมิตขนมขึ้นตามจำนวนผู้เข้าร่วมอาฟเตอร์นูนที อย่างไรก็ตาม ลูกค้าสามารถระบุความต้องการพิเศษได้ว่าอยากจะให้ทางร้านจัดโต๊ะและห้องจิบชาในรูปแบบไหน
Open: ร้านจะเปิดสำหรับลูกค้าที่จองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน ในระหว่าง 13.00-18.00 น.
Address: ตำบลหมูม่น อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
Contact: 09 5456 1546
Page: www.facebook.com/jammiesrecipe
Map:
6. ร้านกาลครั้งหนึ่ง (Once Upon a Time) จังหวัดอุบลราชธานี
หนึ่งในไลฟ์สไตล์เทรนด์ที่มาแรงที่สุดสำหรับช่วงสองปีหลังมานี้คงจะหนีไม่พ้นการสอดแทรกรูปแบบจารีตประเพณี รวมไปถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าไปในแผนธุรกิจ ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจจริงที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรมให้คงอยู่เคียงคู่ไปกับการเติบโตของเยาวชนรุ่นใหม่ หรือเพียงแค่จะหาเอกลักษณ์เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจของตนเองก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้มักจะออกมาดีงามเสมอ
ร้านกาลครั้งหนึ่ง โขงเจียม เป็นคาเฟ่กึ่งศูนย์รวมการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่นอกจากจะบริการเครื่องดื่มและของกินอร่อยๆ ให้กับแขกผู้มาเยือน ทางร้านยังมีบริการห้องพักขนาดกะทัดรัด แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น พร้อมกับกิจกรรมการทำผ้าย้อมคราม และสาธิตวิธีการทอผ้าจากชาวบ้านในท้องถิ่น เคล้าด้วยเสียงแคน เครื่องดนตรีอีสานยอดนิยม ซึ่งเป่ากันสดๆ อยู่บนชั้น 2 โดยหมอแคนฝีมือเยี่ยมขับกล่อมแขก แทนที่จะเป็นดนตรีบอสซาโนวาอย่างที่ร้านกาแฟทั่วไปมักนิยมเปิดกัน
TO DO: ไหนๆ ก็ขับรถมาตั้งไกล เราจึงแนะนำให้นอนที่นี่เสียเลย เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวบ้านผ่านการนำเสนอแบบร่วมสมัยในสไตล์ ‘ฮิปๆ’ แล้ว แขกทุกท่านยังจะมีโอกาสได้เรียนรู้วิธีทำผ้าย้อมครามสีสวย และเลือกซื้อเพื่อนำไปสวมใส่อวดเพื่อนๆ อีกด้วย
TO ORDER: อาหารเช้าสไตล์โขงเจียมที่มาในรูปแบบของไข่กระทะคุ้นตา แต่ประยุกต์ด้วยการใช้แหนมหมูมาแทรกให้มีรสเปรี้ยวนัว
Open: ทุกวัน เวลา 7.00-21.00 น.
Address: หมู่ 1 ถนนแก้วประดิษฐ์ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
Contact: 0 4521 0324
Page: www.facebook.com/Once-Upon-a-Time-Khongchiam-Tourist-Information-Center
Map:
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสของวัฒนธรรม ‘คาเฟ่นิยม’ ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมานี้ได้ส่งอิทธิพลให้กับผู้ประกอบการเลือดใหม่เริ่มหันมาสนใจธุรกิจประเภท Lifestyle & Leisure กันมากขึ้น จนทำให้กลายเป็นธุรกิจที่มีการฟาดฟันไอเดียกันอย่างออกรส รายไหนตีโจทย์ลูกค้าแตกกว่าก็คือผู้อยู่รอด รายไหนสวยแต่รูป จูบไม่หอม ก็อาจจะจอดในระยะเวลาอันสั้น
อย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นสีสันและกำไรให้กับลูกค้าอย่างเราได้มีตัวเลือกใหม่ๆ ที่หวือหวา น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งอาจจะช่วยแก้เบื่อได้ในวันที่รู้สึกว่าไม่อยากใช้ชีวิตวนเวียนอยู่แต่กับแก้วกาแฟสตาร์บักส์เพียงอย่างเดียว