มีคำกล่าวว่า ‘บ้านคือวิมานของเรา’ นอกจากบ้านจะเป็นสถานคุ้มภัยซึ่งต้องมีความแข็งแรงปลอดภัย เพื่อที่จะให้สมาชิกในบ้านสามารถอยู่อาศัยได้อย่างเปี่ยมสุขไปได้นานๆ แล้ว คงไม่ใช่เรื่องสนุกเป็นแน่ถ้าบ้านของเราเกิดเหตุให้เสียหายชำรุดจนต้องลงมือซ่อมแซมกันบ่อยๆ เพราะหากไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะนำมาซึ่งอุบัติเหตุและอันตรายได้อีกสารพัด
เพื่อให้บ้านยังคงเป็นวิมานสำหรับเราทุกคน THE STANDARD จึงได้รวบรวมทิปส์ต่างๆ ในการช่วยดูแลรักษาบ้านมาให้ทุกคนได้นำไปใช้ก่อนที่บ้านจะเกิดความเสียหายจนต้องวิ่งไปหาและพึ่งพาช่าง
1. คิดให้ดีทุกครั้งก่อนที่จะต่อเติมบ้าน
เพราะการต่อเติมบ้านที่ไม่ถูกต้องตามหลักโครงสร้างจะเป็นการเพิ่มภาระและน้ำหนักให้กับตัวอาคาร ซึ่งได้รับการคำนวณมาให้รับน้ำหนักได้ตามแบบโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบมาเท่านั้น ดังนั้น หากอยู่ๆ ไปแล้วคิดอยากจะต่อนั่นเติมนี่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่คุณควรที่จะปรึกษาคนที่มีความรู้อย่างสถาปนิกให้มั่นใจเสียก่อนที่จะลงมือต่อเติม ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
2. หมั่นตรวจสอบการรั่วซึมของหลังคาบ้าน
หลังคาบ้านเป็นปราการด่านแรกในการสู้ลมและฝน หากหลังคาเกิดชำรุดเสียหายและรั่วซึมก็จะทำให้เกิดความเสียหายตามมายังส่วนต่างๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคราบเลอะเทอะเล็กๆ น้อยๆ ไปถึงขั้นตะไคร่น้ำเกาะตามเพดาน ซึ่งนอกจากจะไม่น่ามองแล้ว ยังทำให้บ้านของเราหมดสง่าราศีได้ถึงขั้นสุดอีกต่างหาก ซ้ำร้ายยังอาจจะทำให้ฝ้าเพดานผุพังจนหล่นครืนลงมา และทำให้น้ำหยดซึมจนสร้างความเสียหายให้กับข้าวของภายในบ้านได้ ดังนั้น หากพบว่าหลังคาบ้านมีความเสียหายชำรุด ก็ควรจะรีบซ่อมแซมและเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาเสียใหม่
3. ทำให้บ้านปราศจากปลวกอยู่เสมอ
หลายคนทราบกันดีว่าปลวกนั้นเป็นศัตรูตัวร้ายของบ้าน เจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ ชนิดนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับบ้านได้อย่างร้ายกาจจนเราคาดไม่ถึง สิ่งที่ควรทำคือจัดการสภาพแวดล้อมให้ไม้ในบ้านไม่ชื้นจนเกินไป เพราะนั่นจะยิ่งเข้าทางของปลวก ควรหมั่นดูแลตรวจสอบอยู่เป็นระยะ หากพบว่าบ้านมีปลวก ควรหาทางจัดการด้วยการฉีดกำจัด การเลี้ยงใส้เดือนฝอย โดยนำมาปล่อยบริเวณสนามรอบบ้านก็เป็นอีกวิธีทางนิเวศวิทยาที่จะช่วยป้องกันปลวกได้ นอกจากนี้การทำระบบป้องกันบ้านจากปลวกโดยการวางท่อ (Pipe Treatment) อัดน้ำยา ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องกันปลวกได้
4. ดูแลรักษากระเบื้อง
กระเบื้องเป็นวัสดุท็อปฮิตยอดนิยม เนื่องจากมีให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งยังสวยงาม สามารถปูได้ทั้งพื้นและผนัง มีให้เลือกหลากหลายระดับและราคา วิธีการดูแลรักษากระเบื้องสามารถทำได้ง่ายๆ อย่างแรกคือ ระวังอย่าให้ของที่มีน้ำหนักตกกระทบ ซึ่งจะทำให้กระเบื้องแตก หัก หรือร้าวได้ ด้านการทำความสะอาด ระวังอย่าใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรงจนเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้ยาแนวกระเบื้องเสียหาย จนทำให้น้ำซึมไปใต้กระเบื้องได้
5. ระวังไม่ให้ท่อน้ำอุดตัน
ไม่ทิ้งเศษอาหารและเศษขยะลงในท่อระบายน้ำ อันจะนำมาซึ่งปัญหาทำให้ท่ออุดตัน เพราะนอกจากจะไม่สามารถระบายน้ำหรือทำให้ท่อแตกเสียหายได้แล้ว ยังทำให้ต้องเสียทั้งค่าใช้จ่ายและเวลาในการซ่อมแซมอีกด้วย ทั้งนี้เรามีทิปส์ง่ายๆ ในการแก้ไข ซึ่งหากไม่เหลือบ่ากว่าแรงแล้วล่ะก็ คุณสามารถจัดการกับท่อตันได้ด้วยตนเอง โดยการใช้น้ำยาล้างจานหรือเบกกิ้งโซดา เพื่อละลายหรือกำจัดคราบอุดตันให้หมดไป รวมถึงวิธีถอดท่อน้ำออกมาล้างทำความสะอาด ในส่วนของห้องน้ำที่ท่อมักจะตันเพราะเศษผม คุณก็สามารถติดตั้งตะแกรงกรองเศษผมเพื่อไม่ให้หลุดออกไปอุดตันได้
6. ระวังอย่าให้พื้นไม้ชื้น
ไม้เป็นวัสดุท็อปฮิตตลอดกาลอีกอย่างที่ใช้สำหรับออกแบบตกแต่งบ้าน โดยนิยมนำมาปูพื้น เพื่อป้องกันพื้นไม้เสียหาย จึงไม่ควรที่จะลากเฟอร์นิเจอร์หรือของหนักๆ ซึ่งจะทำให้ไม้เป็นรอย หากจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนย้ายข้าวของ ควรจะใช้วิธีการยกแทน นอกจากนี้ยังต้องระวังไม่ให้พื้นไม้ชื้น หากฝนสาดหรือทำน้ำหกใส่ก็ควรที่จะเช็ดให้แห้งทันที เพราะหากปล่อยทิ้งเอาไว้ ความชื้นก็จะทำให้เนื้อไม้บวม ทั้งยังทำให้วัสดุที่ยึดพื้นเสื่อมสภาพอีกด้วย จนในที่สุดพื้นไม้อาจจะหลุดล่อนออกมาเป็นปัญหาได้
7. ติดตั้งกันสาด
ดังที่กล่าวไปแล้วว่าเวลาฝนตกและมีน้ำฝนไหลเข้ามาทางรอยต่อของประตูและหน้าต่าง ความชื้นก็จะทำให้เกิดทั้งรอยคราบ เชื้อรา และตะไคร่ วิธีหนึ่งที่สามารถป้องกันได้คือ การติดตั้งกันสาดเพื่อกันไม่ให้ฝนสาดเข้ามาภายในบ้าน นอกจากนี้การติดตั้งกันสาดยังช่วยยืดอายุการใช้งานวัสดุอื่นๆ เช่น บานประตู หน้าต่าง และพื้นไม้ได้อีกด้วย
8. ทาสีบ้าน อย่าคิดว่าไม่สำคัญ
นอกจากความสวยงามซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาแล้ว คุณควรที่จะเลือกใช้สีทาบ้านให้ถูกต้องเหมาะสำหรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสีสำหรับใช้ทาภายในหรือภายนอก ทาเหล็กหรือทาคอนกรีต ก็ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมสำหรับการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สีลอก หลุด ล่อน จนต้องทาซ้ำใหม่ให้เสียทั้งเงินและเวลา ทั้งนี้สีบางชนิดอย่างสีน้ำพลาสติกหรือสีอะคริลิก ยังมีการผสมสารอื่นๆ เข้าไปเพื่อช่วยป้องกันสภาพอากาศภายนอก เช่น กันฝน เชื้อรา ตะไคร่น้ำ กันแดด กันความเป็นกรด-ด่าง ทั้งยังสามารถกันปลวกได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสีกันสนิมสำหรับทาวัสดุโลหะก่อนที่จะทาสีน้ำมันลงทับ ซึ่งคุณควรที่จะเลือกชนิดของสีให้เหมาะสำหรับการใช้งาน เพื่อที่บ้านของเราจะได้สวยน่ามองไปนานๆ
9. ตัดกิ่งไม้ใหญ่ใกล้บ้าน
ต้นไม้ใหญ่หรือกิ่งไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาอยู่ในรัศมีใกล้บ้านของคุณนั้น หากในหน้าฝนซึ่งมักจะเกิดพายุหรือลมกระโชกรุนแรง อาจทำให้กิ่งไม้นั้นฟาดหรือหักลงมาทับตัวบ้านจนเกิดความเสียหายเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้กิ่งไม้ใหญ่ยังเป็นทางผ่านให้สัตว์เลื้อยคลานเดินทางเข้าสู่ตัวบ้านได้อีกด้วย ดังนั้น หากมีกิ่งไม้ใหญ่อยู่ในบริเวณใกล้ตัวบ้านก็ควรจะตัดออกเสีย เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
ทั้งนี้ 9 ข้อดังกล่าว เป็นเพียงแค่หลักและทิปส์เบื้องต้นในการดูแลรักษาบ้านเท่านั้น แต่ถ้าหากคุณประสบปัญหาในการดูแลบ้าน จนนึกอยากจะพึ่งพาช่างแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณมองหาช่างมืออาชีพที่ไว้วางใจได้จะดีที่สุด
- เพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้าน และไม่ต้องการที่จะทอดทิ้งลูกค้า SC Asset จึงเปิดธุรกิจด้านบริการหลังการขายขึ้นมาภายใต้ชื่อบริษัท เอสซี เอเบิล จำกัด (SC Able Co., Ltd.) ซึ่งนอกจากจะช่วยดูแลในเรื่องบริการหลังการขายให้กับลูกบ้านแล้ว ยังก่อตั้ง SC Able Academy หรือสถาบันอบรมพัฒนาบุคลากรด้านช่างและทีมรักษาความปลอดภัย โดยสถาบันดังกล่าวจะช่วยตอบโจทย์ปัญหาการขาดแคลนช่างฝีมือ นับเป็นการช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของสังคมไทยด้วยการยกระดับช่างฝีมือในประเทศไทย ทั้งยังร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพรุ่นใหม่พัฒนาแอปพลิเคชันให้บริการช่าง และการบริการเกี่ยวกับบ้านอย่างครบวงจรภายใต้ชื่อ ‘Fixzy’ ซึ่งหากคุณประสบปัญหาและต้องการความช่วยเหลือจากช่างที่มีฝีมือได้มาตรฐาน ก็สามารถพึ่งพาแอปพลิเคชันดังกล่าวได้
