×

The Art of Letting Go: สมาธิบำบัดใจ ปล่อยวางความกังวลเพื่อความสุขที่ยั่งยืน

15.08.2025
  • LOADING...

ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความวุ่นวาย การหาช่วงเวลาแห่งความสงบจึงกลายเป็นสิ่งที่มีค่า และบางครั้งคำตอบที่เราตามหาอาจอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด นั่นคือการเข้าใจและควบคุมจิตใจของเราเอง”

 

UOB Privilege Banking ร่วมมือกับ THE STANDARD LIFE ขอพาทุกท่านไปสำรวจ The Secret of Longevity ในมิติใหม่ผ่านแนวคิดหลักที่เราเชื่อมั่นว่า “Health is Wealth” เพราะความมั่งคั่งที่แท้จริงคือการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ทั้งกายและใจ โดยใน Episode นี้ เราขอนำเสนอการเดินทางสู่ความเข้าใจตัวเองผ่านพลังแห่งสมาธิ โดยได้รับเกียรติจาก ดุจดาว วัฒนปกรณ์ นักจิตบำบัดผู้เชี่ยวชาญและผู้ก่อตั้งบริษัท Empathy Sauce และ Soulsmith ที่จะพาเราไปค้นพบว่าการทำสมาธิไม่ใช่เพียงแค่การนั่งนิ่งๆ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังในการจัดการความเครียด การรับมือกับอารมณ์เชิงลบ และการสร้างความแข็งแกร่งภายในที่จะช่วยให้เราเผชิญหน้ากับความท้าทายในชีวิตได้อย่างมั่นคง

 

การเต้น การฝึกซ้อม การแสดง คือสมาธิในแบบที่เคลื่อนไหวได้ ทำให้ดาวเป็นคนสติดี มีสมาธิมาตั้งแต่เด็ก และช่วยให้วางใจว่า เดี๋ยวอะไรจะเกิดขึ้น มันก็จะผ่านไป

 

ดุจดาว วัฒนปกรณ์ การค้นพบสมาธิจากการเต้น 

“ตอนเด็กๆ สมาธิมักจะหมายถึงการนั่งนิ่งๆ ในวิชาพุทธศาสนา แต่ดาวได้สมาธิจากการเต้น รู้ว่าต้องไปทางไหน จัดการร่างกายตัวเองยังไง และโฟกัสอยู่กับปัจจุบัน พอโตมาก็รู้ว่าจริงๆ แล้วการเต้น การฝึกซ้อม การแสดง คือสมาธิในแบบที่เคลื่อนไหวได้  พอเป็นนักแสดงละครเวทีอาชีพ ทุกการฝึกซ้อมก็คือการฝึกสมาธิ สิ่งที่ได้กลับมาจากการฝึกสมาธิคือเรารู้ตัวว่าเป็นคนสติดีสมาธิดีมาตั้งแต่เด็ก บางทีมันจะมีโมเมนต์ที่ทำให้เรามีความเชื่อและวางใจในตัวเอง วางใจในปัจจัยที่ตัวเองอยู่ด้วย คือเรายังเป็นเจ้าของลมหายใจของเรา รู้สึกถึงร่างกายทั้งหมด และรู้ว่าทั้งหมดมันอยู่ตรงไหน กำลังจะทำอะไร พอเราเห็นอย่างชัดเจนและรู้สึกเชื่อมโยงกับมันด้วยสติที่เต็มกับพื้นที่ที่เราครอบครอง ก็จะวางใจว่าเดี๋ยวอะไรจะเกิดขึ้น มันก็จะผ่านไป” 

 


 

สมาธิในชีวิตจริง และการปล่อยวาง

ดาวชอบคำว่า ‘ฝึกสมาธิ’ เพราะการฝึกสมาธิเป็น ‘Practice’ มันคือการฝึกซ้อม เหมือนซ้อมเดินทางไปสู่จุดที่มีสมาธิ หรือซ้อมที่จะปั้นอะไรบางอย่างให้มันอยู่แค่ตรงนี้ แต่การ ‘Letting Go’ หรือการปล่อยวางสำหรับดาวรู้สึกเหมือนเป็น ‘Choice’ ที่จะปล่อยก็ได้ จะไม่ปล่อยก็ได้ จะยึดก็ได้ จะวางมันลงก็ได้ เพราะฉะนั้นมันคือการตกลงและการตัดสินใจอีกระลอกหนึ่ง ไม่ได้แปลว่าคนที่มีสมาธิแล้วจะ Letting Go ได้เสมอไป ถ้าเขาตัดสินใจว่าจะยึดไว้ก็สามารถมีสมาธิได้เหมือนกัน มันอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด” 

 

สมาธิช่วยให้เรา ‘รวบสมาธิ’ ให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้ไว และเมื่อมีสติจะเห็นทุกอย่างกระจ่างชัดขึ้น จึงช่วยให้เรา Cope กับความเครียดได้ดีขึ้น

 

“ตอนทำสมาธิอาจมีหลายคนพยายามจะกดเรื่องลบๆ เอาไว้ แต่ดาวจะไม่ทำแบบนั้นเลย ไม่กด แต่จะอนุญาตให้มันออกมา คือถ้าเป็นสมาธิเพื่อทำความเข้าใจ ก็จะอนุญาตให้มันออกมา แล้วมันพาไปได้ไกลแค่ไหน พาไปได้ไกลเท่าที่เราอนุญาตเลย ถ้ามันอยู่ในตัวเรา เราก็เลือกได้ว่าจะอนุญาตให้มันดำเนินต่อไป หรือจะเฝ้ามองมันว่ามันกำลังจะพูดอะไร ถ้าเราปล่อยให้มันครอบงำเราโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นความคิดลบ พลังทำลายล้างมันก็พาเราไปไหนก็ได้ที่เราอาจจะไม่ได้อยากไปด้วยซ้ำ” 

 

ไขความเข้าใจผิดเรื่อง ‘การปล่อยวางเท่ากับความอ่อนแอ’

“จริงๆ การที่คุณจะปล่อยวางอะไรบางอย่าง จริงๆ มันใช้ความกล้าหาญของใจคุณเยอะมากเลย ที่จะอนุญาตให้หลายสิ่งหลายอย่างมันเป็นในวิถีที่มันเป็น โดยที่เราอาจจะไม่ต้องกระโจนเข้าไปรีบบริหารจัดการทั้งหมด ดาวรู้สึกว่าการปล่อยวางต้องอาศัยความวางใจในตัวเอง การวางใจในผู้คนที่อยู่รอบๆ ตัว และการวางใจในโลกกับธรรมชาติ ซึ่ง Trust เป็นทักษะที่สำคัญและป้องกันความเครียดได้ด้วย การมี Trust เหมาะกับทุกคน ไม่ใช่แค่ผู้บริหารหรือคนรับผิดชอบสูง ดาวมองว่า Trust เป็นพื้นฐานของการมีความสัมพันธ์ที่ดี ผู้บริหารบางคน Micromanagement ทุกอย่าง ไม่วางใจคนอื่นให้ทำ ก็เลยอยากเข้าไปบริหารจัดการ ทั้งที่บางทีมันก็เวิร์กในแบบของมันได้แค่ Trust มันก็ Healthy สำหรับทุกความสัมพันธ์อยู่แล้ว และยังป้องกันการ Overwork สำหรับผู้บริหารด้วย ดาวมองว่าการเรียนรู้ที่จะ Trust คนที่ทำงานด้วย Trust ที่จะให้ทีมได้โชว์ศักยภาพก็สำคัญเช่นกัน”

 

 

สมาธิช่วยแก้ความเครียดได้ผลแค่ไหน ขึ้นอยู่กับอะไร?

“สำหรับดาว สมาธิช่วยให้เรา ‘รวบสมาธิ’ ให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้ไว ด้วยความที่ดาวเต้นและเล่นละครเวทีมาตลอด ทำให้ไม่มีเวลามาเวิ่นเว้อ ต้องรวบตัวเองกลับมาตั้งหลักได้ทันที ในจังหวะที่รู้สึกว่ามันท่วมท้นไปหมด เราแค่รวบตัวเองหนึ่งครั้ง กลับมาอยู่ในเนื้อในตัว แล้วค่อยๆ ดูว่าจริงๆ แล้วมีอะไรที่ต้องจัดการจริงๆ มันก็จะน้อยลงและเหลือแค่ไม่กี่อย่าง ถ้าเรากลับมารวบตัวเองให้เหมือนเป็นก้อน เราก็จะเห็นทุกอย่างกระจ่างชัดขึ้น และจะเหลือแค่แก่นแท้”  

 

“ถ้าอยากจัดการความเครียด ดาวก็จะหายใจเข้าหนึ่งครั้ง รีเซ็ตสมาธิให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว กับลมหายใจ แล้วค่อยๆ ปรับสภาพข้างในให้พ้นจากความบีบคั้น และเจอกับความโล่ง แม้สถานการณ์ข้างนอกยังเหมือนเดิม แต่ความบีบคั้นมันอยู่ข้างในเรา เพราะฉะนั้นแทนที่จะไปจัดการข้างนอก เราก็เปลี่ยนเป็นการปรับอุณหภูมิและบรรยากาศข้างในให้กลับมาสู่ความโล่ง ก็จะหายเครียดแล้ว สมาธิจึงช่วยให้เรา ‘Cope’ กับความเครียดได้ดีและไวขึ้น”

 

สมาธิไม่ใช่การเปิด-ปิดสวิตช์ เหมือนเราใช้ชีวิตเป็นสโนว์บอลที่ปั่นมาตลอด พอเราวาง มันก็ต้องคอยให้หิมะค่อยๆ ตกลงมา มันมีโมเมนต์ของมันกว่ามันจะค่อยๆ สงบลง

 

เทคนิคง่ายๆ ของการใช้สมาธิในชีวิตประจำวัน  

“ถ้ามีช่วงเวลาที่ใจเราไม่อยู่กับตัว การใช้ร่างกายช่วยก็เป็นวิธีที่ดี ลองเอนหลังไปพิงพนัก เพื่อให้แผ่นหลังเราเกิด Sensation ความรู้สึกอะไรบางอย่างว่า มันกลับมาอยู่ตรงนี้แล้ว หรือเอามือขึ้นมาประกบกัน เพื่อให้ใจอยู่ในขอบเขตของร่างกาย ซึ่งจะประกอบด้วย 3 เลเยอร์ คือ Front Layer ที่เชื่อมต่อกับโลกข้างนอก, Middle Layer ที่อยู่ในเนื้อในตัว ถูกห่อหุ้มด้วยผิวหนังทั้งหมด มีของเหลว กล้ามเนื้อ กระดูก อวัยวะภายใน เวลาเรากลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว คือการที่เรากลับเข้ามาอยู่ Middle Layer และ Back Layer ที่อยู่ด้านหลังตัวเราทั้งหมด ตั้งแต่หลังศีรษะ หลังคอ หลังบ่าไหล่ หลังสะโพก หลังขา ตรงไปจนถึงส้นเท้า ที่เชื่อมกับโลกที่อยู่ข้างหลังเรา”

 

 

การฝึกสมาธิ นำไปสู่ทักษะการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ

“ตอนฝึกคือการ Practice แต่ตอนจะใช้ในชีวิตประจำวัน คือการใช้เลย ถ้าเราอ่อนซ้อม ไม่ค่อยได้ฝึกสมาธิ ตอนใช้มันจะใช้ไม่อยู่มือ บางครั้งทำให้ลนลานตัดสินใจผิดๆ ถูกๆ เพราะฉะนั้นการฝึกสมาธิคือการซ้อม ซ้อมเหมือนจะไปวิ่ง แล้วพอลงสนามจริง มันก็จะวิ่งสั้นมาก และมี Performance สูงมาก การตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการที่สภาวะของคนคนนั้น ‘เสถียร’ และ ‘สอดคล้อง’ ความคิด ความรู้สึก และสภาวะทุกอย่างที่เป็นปัจจุบัน ทุกอย่างมี Alignment มันอยู่ที่เดียวกัน ไม่ได้มีอะไรสะเปะสะปะ เช่น ความคิดไปถึงตรงนั้น อารมณ์ไปอยู่ตรงนั้น ตัวฉันอยู่ตรงไหนไม่รู้ การที่จะรวบทุกอย่างในร่างกายหรือในสติให้มา Alignment อยู่ที่เดียวกันในเวลาอันสั้น ดังนั้นมันเรียกร้องการซ้อมและการ Practice เยอะมาก ไม่อย่างนั้นคุณทำไม่ได้” 

 

ความเชื่อผิดๆ คือสมาธิต้อง ‘นั่งอย่างเดียว’ จริงๆ ไม่ต้องนั่งอย่างเดียวก็ได้ นอนอยู่ก็ทำได้ เดินอยู่ก็ทำได้ ถ้าต้องการทำมันที่นี่เดี๋ยวนี้ ทำได้เลยเมื่อเราต้องการ

 

ความเข้าใจผิดๆ เรื่องการนั่งสมาธิ

ความเชื่อผิดๆ คือต้อง ‘นั่งอย่างเดียว’ จริงๆ ไม่ต้องนั่งอย่างเดียวก็ได้ คุณทำอย่างอื่นก็ได้ คุณนอนอยู่ก็ทำได้ เดินอยู่ก็ทำได้ มี Walking Meditation ได้ คุณจะทำอะไรอยู่ก็ทำสมาธิได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ว่างโล่ง ถ้าเราต้องการทำมันที่นี่เดี๋ยวนี้ ทำได้เลยเมื่อเราต้องการ เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นที่ไหนก็ได้ และอาจจะคิดว่าการทำสมาธิต้องเริ่มปุ๊บ ว่างปั๊บ นั่งปุ๊บ นิ่งปั๊บ แต่มันไม่ใช่ธรรมชาติของการฝึกสมาธิ เราใช้ชีวิตเหมือน Snowball ที่ปั่นตลอดเวลา เมื่อวางลงมันก็ต้องใช้เวลาให้เกล็ดหิมะค่อยๆ ตกลงมา บางครั้งมันก็ยังปั่นอยู่ ก็แค่รับรู้และตั้งอยู่แบบนั้น สมาธิก็อาจจะค่อยๆ ตามมาก็ได้” 


 

คนที่อยู่กับปัจจุบันไม่เป็น เริ่มจาก “ฝึก” คำเดียวเลย 

“มีทางเดียวคือ ‘ฝึก’ แล้วก็ ‘ฝึก’ ไม่มีทางอื่น ถ้าระหว่างทางรู้สึกว่ายาก เราจะบอกว่า อ่อนโยนกับตัวเอง และมี Empathy ต่อตัวเองหน่อยว่าเออ ใช่ มันยาก ดูโลกปัจจุบันสิ มันกระตุ้นให้เรากลัวที่จะอยู่กับปัจจุบันมากเลย แค่อยู่กับปัจจุบันช้ากว่าคนอื่น 5-10 นาที สำหรับงานบางประเภทก็แทบจะไม่ได้ แล้วมันก็ให้เราไปโฟกัสกับข้างหน้าตลอดเวลามานานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ การแค่ตั้งอยู่หรืออยู่กับตัวเอง สำหรับบางคนนี่ก็เรื่องใหญ่มากแล้ว ถ้าใครอยากทำมันให้ได้และกำลังเริ่มทำ ดาวคิดว่าการยอมรับกับตัวเองจริงๆ ว่า เออ อยากมีมัน อยากอยู่กับ Here and Now ให้ได้แต่มันยังทำไม่ได้ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ ก็แค่ยอมรับ มันใช้เวลา” 

 

“มันเหมือนบางทีเราก็เผลอไปกินอะไรไม่รู้ที่มันไม่ Healthy ก็กลับมาเริ่มใหม่ได้ มันเป็นเรื่องปกติ เราไม่ได้ทำได้ทุกอย่างอย่างที่เราปรารถนาอย่างที่เราคิดว่าเราน่าจะได้ตลอดไปหรอก มันมีปัจจัยแวดล้อมข้างนอกและปัจจัยข้างในในแต่ละวันที่มันไม่เหมือนเดิมเลย ลองอนุญาตให้ตัวเองเป็นธรรมชาติก็ได้ค่ะ เราอยู่กับโลกที่ควรจะเป็นมาเยอะ เราอยู่กับโลกที่น่าจะเป็นมาเยอะ ควรจะต้องมันน่าจะต้อง อยู่กับสิ่งที่มันเป็น สิ่งที่มีแบบที่มันเป็น แล้วก็ยอมรับในแบบที่มันเป็นบ้าง” 



คนที่อยู่กับปัจจุบันไม่เป็น มีทางเดียวคือ ‘ฝึก’ แล้วก็ ‘ฝึก’ ไม่มีทางอื่น อยากให้ อ่อนโยนกับตัวเอง รวมถึงมี Empathy ต่อตัวเอง เพราะมันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา

 

การฝึกสมาธิมันช่างยากจัง

ฝึกอะไรใหม่ๆ มัน ‘ยากแทบจะทุกอย่าง’ แต่มันก็จะยากเหมือนกับเรื่องอื่นๆ ที่ตอนนี้คุณชินแล้วเท่านั้นเอง ดาวมองว่าพอกล้ามเนื้อด้านอื่นๆ ของเราน้อยลง เราวิ่งได้ช้าลง เรายกของได้น้อยลง เราออกไปทำอะไรได้น้อยลง แต่สกิลนี้จะเป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องใช้ในห้วงที่เรียกว่า ในวันที่ร่างกายคุณถดถอย หรือมีสมรรถนะที่มันเสื่อมถอย การฝึกอันนี้ให้มันแข็งแรงขึ้นมา มันแทบจะเป็นอวัยวะใหม่ที่ทำให้เรายังสามารถ ‘โกงสภาวะ’ กับตัวเองได้ เพราะฉะนั้นฝึกไปเถอะค่ะ มันเห็นผลไม่เห็นผลไม่รู้ แต่ว่ามันคือกล้ามเนื้อเหมือนที่เรามักจะบอกว่าสร้างกล้ามเนื้อ ตอนนี้แหละ คุณได้ใช้มันตอนแก่แน่ๆ อันนี้เป็นอีกอันหนึ่งที่แบบทำไปเถอะ โดยเฉพาะมนุษย์ Anxiety ทั้งหลาย”

 

แบบฝึกหัดจากดุจดาว สำหรับผู้เริ่มต้นฝึกสมาธิ 3 นาทีต่อวัน

“ลองทำ ‘อะไรก็ได้ที่กำลังจะทำอยู่แบบสโลว์โมชั่น’ ขอแค่นี้เลย สมมติแค่กำลังจะแปรงฟัน ก็เหมือนมีคนมากดปุ่มสโลว์โมชั่น ค่อยๆ บีบยาสีฟัน ไม่ต้องแบ่งแยกรูทีนไปทำอย่างอื่น แค่มีโมเมนต์ที่รู้ตัวอยู่กับตัวเอง แล้วถ้าเริ่มจากการหายใจช้าๆ ทุกอย่างมันจะช้าลงได้อย่างใจ เท่านี้เลยค่ะ”

 

UOB

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising