×

The Art of Eating Well ถอดรหัสการกินที่ ‘ครบถ้วน-มีความสุข’ เพื่อชีวิตยืนยาวโดย ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์

16.12.2025
  • LOADING...
The Art of Eating Well ถอดรหัสการกินที่ ‘ครบถ้วน-มีความสุข’ เพื่อชีวิตยืนยาวโดย ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์

“การกินเพื่ออายุยืนยาวและมีความสุขไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่คือศิลปะแห่งความสมดุลและความสุข อะไรคือ The Art of Eating Well ที่แท้จริง ต่อไปนี้คือการถอดรหัสหลักการกินที่ถูกต้องและยืดหยุ่น เพื่อสร้างวิถีชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพสำหรับทุกคน”

 

UOB Privilege Banking ร่วมกับ THE STANDARD LIFE ชวนคุณสำรวจ The Secrets of Longevity ใน Episode ที่ 6 นี้ เราได้สัมภาษณ์ ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและศาสตร์ชะลอวัย ชวนเราค้นพบหลักการกินง่ายๆ ที่ “ครบถ้วน หลากหลาย และมีความสุข” ซึ่งจะมาถอดรหัสเคล็ดลับการกินดีที่ยืดหยุ่นและนำมาปรับใช้ได้จริง ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรือใช้ชีวิตแบบไหน หลักการเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มากขึ้นแน่นอน

 

“ ‘กินดี’ ไม่ว่าจะยุคไหนก็คล้ายกัน สำหรับผมนิยามของ ‘กินดี’ มี 4 องค์ประกอบหลักคือ ครบถ้วน หลากหลาย รู้จักร่างกายตัวเอง และกินแล้วมีความสุขหรือรู้สึกฟินด้วย”

 

นิยามของการ “กินดี” สำหรับคนยุคนี้เป็นอย่างไร?

 

“จริงๆ แล้วการ ‘กินดี’ ไม่ว่าจะยุคไหนก็คล้ายๆ กันครับ สำหรับผมมองว่าการกินดีคือการกินที่ ครบถ้วน หลากหลาย รู้ว่าร่างกายเราต้องการอะไร อีกอย่างที่สำคัญคือต้องกินแล้วมีความสุขด้วย ผมมองว่า 4 องค์ประกอบนี้คือนิยามคำว่า ‘กินดี’ ของผม กินครบ ก็คือกินให้ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ ไม่ได้มีอะไรแฟนซีหรือยากไปกว่านั้นเลย คือร่างกายควรได้รับโปรตีน แป้ง ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ ส่วนการกินให้หลากหลาย ก็คือต้องกินอาหารที่ไม่ซ้ำ ไม่จำเจ ยกตัวอย่างเช่น อยากได้โปรตีนบางคนกินแต่เนื้อไก่ตลอด หรือผักผลไม้กินได้แค่ 2-3 อย่างซ้ำๆ แบบนี้ก็ไม่ดี เพราะมันไม่หลากหลาย อีกเรื่องสำคัญคือต้อง รู้จักร่างกายตัวเอง ต้องรู้ว่าตัวเองแพ้อะไรหรือเป็นโรคอะไร เพราะแต่ละคนต้องการอาหารที่ตอบโจทย์ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไปฟังกระแสต่างๆ มา บางอย่างอาจจะไม่เหมาะกับเรา ถ้ามันไม่ตอบโจทย์ร่างกายของเราครับ

 

 

The Art of Eating Well ถอดรหัสการกินที่ ‘ครบถ้วน-มีความสุข’ เพื่อชีวิตยืนยาวโดย ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์ 1

 

เป็นความจริงหรือไม่ที่อาหารที่ดีต่อสุขภาพและส่งเสริม Longevity นั้นมักจะมีราคาแพง?

 

“ของดีไม่มีความจำเป็นต้องแพงเลยครับ ผมขอแยกเป็นแบบนี้ให้เห็นภาพ พฤติกรรมการกินในปัจจุบันมี 2 แบบคือ ทำอาหารกินเอง กับต้องไปซื้ออาหารกิน เพราะตัวเองไม่ทำ กรณีคนที่ทำอาหารกินเอง ถ้าใครเป็นพ่อบ้านแม่บ้านอยู่แล้วเราสามารถจะเลือกซื้อวัตถุดิบที่สดแล้วก็สะอาดได้จากที่ที่ราคาถูกนะครับ ถ้าเรารู้จักเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพเหมือนกันเราก็สามารถจะซื้อในราคาที่ย่อมเยากว่าได้ แต่ถ้าเกิดว่าซื้ออาหารกินตามร้านอาหารข้างทางธรรมดา ฟู้ดคอร์ท หรือว่าข้าวแกงที่ราคาไม่แพง ก็มีคุณค่าทางอาหารที่ทำให้เราสุขภาพดีได้ไม่ต่างกับไปกินร้านอาหารแพงๆ ที่อยู่ในห้าง เพราะจริงๆ แล้วราคาที่สูงมันมาจากต้นทุนอื่นๆ ราคาไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าของจะมีคุณภาพหรือเปล่า มันอยู่ที่ความสะอาดของอาหาร แล้วก็วัตถุดิบมันเป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพไหม ซึ่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพก็ไม่จำเป็นต้องแพง ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจะเคยได้ยินว่าเราต้องกินไขมันที่ดีจากปลาทะเลอย่างแซลมอน เอาจริงๆ การกินปลา น้ำจืด ซื้อในตลาดราคาถูก ก็ได้ โอเมก้า 3 ไม่แพ้ปลาทะเล ถ้าเรามีความรู้แล้วก็รู้จักเลือก เราก็จะได้ของที่ดีกับร่างกาย โดยที่ไม่ต้องจ่ายตังค์แพงเลย

 

“อาหารที่ดีไม่มีความจำเป็นต้องแพง หากรู้จักเลือกซื้อวัตถุดิบที่ สดและสะอาดจากแหล่งที่ราคาถูกก็ได้วัตถุดิบทีมีคุณภาพเหมือนกัน ร้านอาหารทั่วไปก็มีคุณค่าทางอาหารที่ทำให้สุขภาพดีได้ สิ่งสำคัญคือเราต้องมีความรู้และใส่ใจมากพอที่จะเลือกของดีโดยไม่ต้องจ่ายแพง”

 

แนะนำหลักการกินอาหารสำหรับคนเมืองที่ต้องพึ่งอาหารนอกบ้าน?

 

“ผมอยากจะตอบเป็นหลักการที่คนควรจะใช้เวลาที่ต้องไปพึ่งอาหารนอกบ้าน หนึ่งคือ การจัดการมื้ออาหาร มื้อเช้าเนี่ย กินของที่ดีที่สุดเข้าไปก่อนเลย กินเยอะๆ คีย์มีแค่นี้ เน้นได้ทุกอย่างเลยครับ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ไฟเบอร์ สิ่งที่ขออย่างเดียวคือมื้อเช้าคืออย่าหวาน เพราะเราไม่อยากให้สมองได้รับน้ำตาลที่พุ่งสูงเกินไป มื้อกลางวันซัดไปเลยของชอบ อะไรที่เรารู้สึกว่าอยากกิน เช่น ขนม ของหวาน เลือกไปลงมื้อกลางวัน ที่อั้นไว้มื้อเช้ามาลงมื้อกลางวัน มื้อเย็นก็ ค่อยๆ เบาลง พยายามกินให้เบาลง แล้วก็ย่อยง่ายหน่อย สองคือ สร้างความหลากหลาย อยากให้เอ็นจอยกับการกินครับ ให้สนุกกับการสั่งหรือว่าเลือกซื้ออาหารที่ไม่ซ้ำ เมนูไม่ซ้ำ ร้านค้า ให้ลองเมนูใหม่ๆ ร้านค้าใหม่ๆ เสมอ การทำเช่นนี้ช่วย 2 อย่าง หนึ่งเราจะได้อาหารจากอาหารที่หลากหลาย และ สองคือเราลดความเสี่ยงที่เราจะได้ของไม่ดีหรือว่าสารพิษจากร้านเดิมซ้ำๆ”

 

 

The Art of Eating Well ถอดรหัสการกินที่ ‘ครบถ้วน-มีความสุข’ เพื่อชีวิตยืนยาวโดย ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์ 2

 

เราควรใช้สัญญาณอะไรของร่างกายมาวัดว่าการกินของเรา “ดี” แล้ว แทนการนับแคลอรี?

 

“การนับแคลอรีในช่วงเริ่มต้นของการทำเป็นประโยชน์นะครับ เราทำเพื่อเรียนรู้ปริมาณอาหาร แต่พอเริ่มกะเองได้ก็ไม่ต้องนับแคลฯ แล้ว วิธีที่ผมใช้เป็นทริคง่ายๆ คือให้เราทดลองกินแล้วชั่งน้ำหนักเอาครับ ลองกินดูว่าแพตเทิร์นที่วันหนึ่งเรากินประมาณนี้ พอครบหนึ่งสัปดาห์น้ำหนักเราเป็นยังไงบ้าง มันเท่าเดิม เพิ่ม หรือมันลดลง ถ้าน้ำหนักมันเพิ่ม อาทิตย์หน้าเราลองลดข้าวนิดหนึ่ง ก็คือให้ฝึกสังเกตความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง แล้วก็ปรับให้มันเข้ากับตัวเอง อีกเทคนิคหนึ่งคือ การหยุดกินก่อนอิ่ม เราควรจะหยุดกินเมื่อเรารู้สึกว่าเรายังกินได้อีกหน่อย แต่ถ้าเกิดว่าหยุดกินตอนเนี้ยก็โอเคนะ ไม่ได้รู้สึกหิวโหย เพราะกว่าเราจะรู้สึกอิ่มสุดๆ สัญญาณมันไปที่สมองช้ากว่าที่ท้องเรารู้สึกอยู่แล้ว การหยุดกินที่อิ่มสัก 80% ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งก็ได้นะครับ”

 

 

“การนับแคลอรีมีประโยชน์ในช่วงเริ่มต้น เพื่อเรียนรู้ปริมาณอาหาร แต่เมื่อกะปริมาณได้แล้วก็ไม่จำเป็น หลักการคือถ้าอยากลดน้ำหนัก ต้องกินให้น้อยกว่าที่ใช้ ให้สังเกตแพทเทิร์นการกินใน 1 อาทิตย์ ว่าน้ำหนักเป็นอย่างไร ถ้าน้ำหนักเพิ่ม อาทิตย์หน้าก็ลดปริมาณข้าวลงนิดหน่อย ให้ฝึกสังเกตและปรับให้เข้ากับตัวเอง”

 

วิธีคัดกรองข้อมูลสุขภาพและการกินที่ท่วมท้นในยุคปัจจุบัน?

 

“ผมแนะนำว่าเวลาได้ข้อมูลอะไรมาก็ตาม อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ 100% ให้เชื่อแค่ 50% ไว้ก่อนเสมอ ฟังแล้วเก็บไว้ในใจก่อน ทดไว้ แล้วก็ยังไม่ต้องคิดว่ามันถูกหรือมันผิดนะครับ สิ่งที่อยากแนะนำคือ หนึ่ง อย่าเชื่อตามแหล่งข้อมูลเดียว สิ่งที่คนพูดเยอะๆ ไม่ได้แปลว่าถูก สิ่งที่คนพูดดูน่าเชื่อถือ หรือแม้ว่าจะเป็นหมอพูดก็ตามไม่ได้แปลว่าถูก สอง กลับสู่พื้นฐาน (Back to Basic) ความรู้เรื่องสุขภาพที่ถูกต้องที่สุดก็คือ Back to Basic เช่น อาหารห้าหมู่ เนี่ยถูกต้อง สาม ระวังข้อมูลที่เวอร์วัง อะไรก็ตามที่มันแบบ ‘too good to be true’ หรือฟังดูแบบ โอ้โหสุดยอด ดูเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ดูเป็นซูเปอร์ฟู้ดอะไรอย่างนี้ ให้ปักธงแดงไว้ก่อนเลย พวกนี้คือ Red Flag ทั้งหมด สุขภาพจะดีมันไม่ได้มีอะไรที่มันเว่อร์วังเลย มันควรจะเป็นอะไรที่ Simple, ธรรมดา, เรียบง่าย, ไม่เวอร์ ครับ”

 

The Art of Eating Well ถอดรหัสการกินที่ ‘ครบถ้วน-มีความสุข’ เพื่อชีวิตยืนยาวโดย ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์ 3

 

 

วิธีจัดการเมื่อต้องรับประทานอาหารนอกบ้านกับเพื่อนหรือลูกค้าโดยที่ไม่รู้สึกผิด?

 

“หนึ่งคือเราต้องปรับมายด์เซตตัวเองก่อนว่าต้อง กินแล้วมีความสุขและสนุกด้วย การกินอาหารที่ไม่ Healthy หรือไม่คลีนเพียงมื้อเดียว ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณแย่หรอก ไม่ได้ทำให้สุขภาพมันพังทันทีหรอก สองคือ วิธีการจัดการ ให้แชร์ๆ กันไป สั่งที่เพื่อนชอบด้วย เราชอบด้วย แล้วเราก็กินของที่เรารู้สึกว่าตอบโจทย์เราเยอะหน่อยก็ได้ มันคือการ ยืดหยุ่น (Win-Win) ที่ทำให้ทุกคนแฮปปี้ และใช้ศิลปะนิดหนึ่ง เช่น ถ้าเพื่อนสั่งมามีแต่ของทอดเลย ก็ลองเลือกเพิ่มเป็นผักสลัดอะไรแบบนี้ไหม”

 

 

“ลำดับการกินอาหาร: กินไฟเบอร์ (ผัก) หรือเนื้อสัตว์ก่อนคำแรก ๆ ส่วนพวกแป้ง (ข้าว, เส้นก๋วยเตี๋ยว, ขนมปัง) และของหวานให้เก็บไว้ท้ายๆ ไฟเบอร์และเนื้อสัตว์จะทำหน้าที่เป็นกำแพงไปบล็อกให้น้ำตาลดูดซึมเข้าสู่เลือดช้าลง”

 

เคล็ดลับการกินในชีวิตประจำวัน (ลำดับการกินอาหารและเทคนิคอื่นๆ)

 

“ผมใช้เทคนิคนี้ทุกมื้อเลยครับ หนึ่งคือ ลำดับการกินอาหาร เราสามารถจะกินอาหารจานเดียวกันหมดเหมือนกัน แต่แค่เลือกลำดับการกินของที่อยู่ในจานนั้นมันส่งผล ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เหมือนกัน แล้วก็สุขภาพไม่เหมือนกัน กินไฟเบอร์ (ผัก) หรือว่าเนื้อสัตว์ก่อน คำแรกๆ พวกแป้ง พวกเส้นก๋วยเตี๋ยว พวกขนมปังคำแรกๆ อย่าเพิ่งกินเยอะ เก็บไว้ท้ายๆ หลักการคือทั้งพวกไฟเบอร์จากผัก หรือแม้กระทั่งเนื้อสัตว์ มันจะทำให้เหมือนกับเป็น กำแพงไปบล็อกให้น้ำตาลดูดซึมเข้าสู่เลือดช้าลง สองคือ ใช้ความเปรี้ยวช่วย อะไรก็ตามที่มันเปรี้ยว ก็กินเข้าไปก่อน มันช่วยทำให้น้ำตาลดูดซึมช้าลงได้ มันทำให้การย่อยแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตเนี่ย มันทำงานได้ช้าลง สามคือ การปรุงรส ในเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยว มี 2 อย่างเท่านั้นที่เราควรจะเติม คือ น้ำส้ม กับพริก ถ้าเรากินอาหารไปแล้วแล้วเรารู้สึกว่ามันยังไม่เค็มเลย อย่าเพิ่งเติมน้ำปลา แต่ให้ลองเติมน้ำส้มก่อน เพราะลิ้นและสมองเรารับรู้ความเปรี้ยวกับความเค็มพร้อมกัน การเติมเปรี้ยวจะช่วยให้รู้สึกเค็มขึ้นโดยไม่ต้องเติมเกลือ”

 

The Art of Eating Well ถอดรหัสการกินที่ ‘ครบถ้วน-มีความสุข’ เพื่อชีวิตยืนยาวโดย ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์ 4

 

วิธีจัดการกับความอยากของหวาน เบเกอรี หรือของไม่ดี?

 

“ถ้าอยากกินก็ต้องกินเลยครับ คนเราจะรู้สึกว่าเราอาหารมื้อนั้นเรากินแล้วรู้สึกอิ่ม ก็ต่อเมื่อร่างกายได้แคลอรีเพียงพอ กับเราได้รับ ความสุขมากเพียงพอ ก็คือฟินจากการกิน วิธีจัดการคือ หนึ่ง ย้ายไปกินมื้อกลางวัน ถ้าอยากกินน้ำตาล ของหวาน หรือของที่ไม่ดี กินมื้อกลางวันไปเลย เหตุผลคือ เรายังต้องใช้ร่างกายตอนบ่าย แล้วก็เป็นช่วงที่สมองเราตื่นแล้ว สมองจะไม่ค่อยงอแง สอง ลดปริมาณ (Portion Control) ถ้าเป็นมื้ออื่นๆ กินได้แต่ว่า ลดปริมาณลง ลดพอร์ชั่นลง เช่น เค้กหนึ่งสไลด์ ถ้ามันอยู่มื้ออื่นก็เหลือครึ่งหนึ่ง หรือ 1/3 เพื่อให้ได้ความรู้สึกว่า ‘ฉันก็ได้กินแล้วนะ’ สาม เพิ่ม Activity ถ้าเรารู้สึกว่าเรากินของหวานเยอะ (เช่น มื้อเย็น) ก็แค่ ทำตัวให้ Active ขึ้นมาหน่อย ก่อนหรือหลังมื้อนั้นที่เรากิน การ เดินเล่น 5 ถึง 10 นาที อะมันก็ช่วยเบิร์นน้ำตาลที่เข้าไปในเลือดแล้ว”

 

“ของหวาน ถ้าอยากกินก็ต้องกิน เพราะเราต้องได้รับทั้งแคลอรีและความสุขจากการกิน หากอิ่มแต่ไม่ฟินคุณจะอยากกินจุกจิบต่อ วิธีจัดการคือ ย้ายไปกินมื้อกลางวัน หรือลดปริมาณลงเหลือครึ่งหนึ่งหรือ 1/3 เพื่อให้ได้ความรู้สึกว่าได้กินแล้วเป็นการให้รางวัลตัวเอง”

 


วิธีแก้ปัญหาการกินจุกจิบตอนกลางคืน?

 

“ระบบย่อยอาหารเนี่ย ทำงานดีที่สุดตอนเช้ากับตอนกลางวัน หลังประมาณ 6 โมงเย็น ทุ่มหนึ่งระบบย่อยอาหารจะไม่ทำงานและปิดโรงงานแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากกินอะไรในตอนกลางคืน ก็เลือกอะไรที่มันย่อยง่ายๆ อย่ากินอะไรที่มันมีแคลอรีเยอะเกินไป หลักการ Snack ยามดึก ควรจะมีลิสต์เลยว่า Snack ประมาณไหนที่เราตอบโจทย์เราด้วยแล้วก็อิ่มไม่ทำร้ายระบบย่อยอาหาร ตัวอย่างเช่น ผมจะชอบกินโยเกิร์ตผสมกล้วยกับข้าวโอ๊ต เพราะว่ามันเป็นมีแต่วัตถุดิบที่ช่วยในการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและก็หลับง่าย แต่ถ้าเป็นคนชอบกินของกรอบๆ ก็ต้องไปหาว่า Snack อะไรที่กรอบได้เหมือนกัน แต่ว่า Healthy กว่าติดบ้านไว้ เช่น ถั่วกรอบ หรือถ้าชอบของหวาน ทริคหนึ่งก็คือ กินเวย์ช็อกโกแลต ที่ใช้สารทดแทนความหวานแทน ซึ่งไม่มีแคลอรี น้ำตาลไม่พุ่ง แต่ก็ฟินเหมือนกัน ทริคสุดท้ายถ้าอยากตัดความอยากเลย ผมแนะนำให้ไปแปรงฟันครับ”

 

“การกินแบบยืดหยุ่นแบบ Calorie Cycling ตาม Activity ที่ชอบทำ หลักการคือ กินเยอะ กินน้อยตาม Activity ของวันนั้น ถ้าวันที่ Active ออกกำลังกาย ใช้แรงเยอะก็กินเยอะกว่าวันอื่นๆ ได้ ส่วนวันที่ Inactive อยู่บ้าน ทำงานนั่งโต๊ะ ก็แค่ลดการกินลงมาหน่อย”

 

ควรเลือกใช้หลักการ “Cheat Day” หรือ “ความยืดหยุ่นรายวัน” (Calorie Cycling)?

 

“Cheat Day ผมทำประจำ ผมมีเทคนิคหนึ่งให้เรียกว่า Calorie Cycling มันคือการหมุนเวียนแคลอรีในแต่ละวัน เราคิดเป็นอาทิตย์ก็ได้ หลักการคือ กินเยอะกินน้อยตาม Activity ของวันนั้นครับ วัน Active (ออกกำลังกาย/ใช้แรงเยอะ) กินเยอะกว่าวันอื่นๆ ได้เลย เอาโควต้ากินแซ่บไปลงได้เลย วันที่เราออกกำลังกาย วัน Inactive (อยู่บ้าน/ทำงานนั่งโต๊ะ) ก็แค่ลดลงมาหน่อย เพราะว่าร่างกายเราไม่ได้ Active เราไม่ได้ต้องการใช้ กินลดลงมา มันก็ตอบโจทย์ชีวิตคนเราด้วย หนึ่งคือมันยืดหยุ่น และ สองคือ วันที่เราออกแรงเยอะ เรากินเยอะได้”

 

มีมุมมองอย่างไรต่อการกินแบบสุดโต่ง เช่น มังสวิรัติ วีแกน หรือคีโต?

 

“ผมเชื่อว่าดีที่สุดคือการกินอะไรที่มัน บาลานซ์ กินมันทุกอย่างที่มีบนโลกนี้ พอดีๆ จริงๆ แล้วผมเชื่อว่ามันไม่มีไดเอตไหนที่เป็นไดเอตที่ดี มันมีแต่แค่ไดเอตที่เหมาะกับเราแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ครับ ตัวอย่าง คีโต ถ้าเป็นคนน้ำหนักเยอะ หรือเป็นเบาหวาน การกินคีโตช่วงเวลาสั้นๆ (1-3 เดือน) เป็นประโยชน์นะครับ แต่ถ้าทุกอย่างมันเริ่มดีขึ้น ผมก็แนะนำให้กลับมากินทุกอย่างให้บาลานซ์เหมือนเดิม สำหรับผู้ที่อยากลอง ถ้าอยากลองกินก็ลองได้ หากรู้สึกแฮปปี้และตอบโจทย์ร่างกาย ก็แค่ต้องหาความรู้เพิ่มเติมว่าเราอาจขาดสารอาหารอะไรไปหรือไม่ เช่น มังสวิรัติ อาจจะขาดวิตามินบี หรือได้กรดอะมิโนไม่ครบ ก็ต้องรู้วิธีแก้ เช่น เลือกกินผักให้มันหลากหลาย ถ้าทำไดเอตแบบไหนแล้วรู้สึก แฮปปี้ รู้สึกดีกับร่างกาย และไม่ทรมาน ก็อาจจะตอบโจทย์คุณได้”

 

The Art of Eating Well ถอดรหัสการกินที่ ‘ครบถ้วน-มีความสุข’ เพื่อชีวิตยืนยาวโดย ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์ 5

 

คำแนะนำในการอ่านฉลากอาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกเรื่อง “No Sugar” หรือ “Natural”

 

“หนึ่งคือ ระวัง Serving Size (ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค) ดูแคลอรีแล้วต้องระวัง Serving Size เพราะฉลากจะบอกแคลอรีต่อการบริโภค 1 หน่วย เค้าอาจจะกำหนดว่า ขนมถุงนี้ เธอต้องแบ่งกิน 3 ครั้งนะ ไม่ใช่กินรวดเดียวหมด สอง ตรวจสอบคาร์โบไฮเดรต ดูไฟเบอร์ (ถ้ามีถือว่าดี) ดูน้ำตาล ว่ามันมีเยอะ หรือมันมีน้อย และดูว่าผลิตภัณฑ์นั้นใช้ สารทดแทนความหวาน หรือไม่ ถ้าเรากังวลเรื่องน้ำตาล สาม ระวังคำโฆษณา คำว่า ‘No Sugar Added’ (ไม่มีการเติมน้ำตาลเพิ่ม) ไม่ได้แปลว่าวัตถุดิบนั้นไม่มีน้ำตาล มันมีอยู่แล้ว แต่เค้าไม่ได้เติมเพิ่ม ยกตัวอย่างเช่น นม หรือน้ำผลไม้”

 

อาหารที่ดีส่งผลต่อการตัดสินใจและความสามารถในการทำงานของผู้บริหารอย่างไร?

 

“ยิ่งเป็นผู้บริหาร ควรต้องให้ความสำคัญกับมื้อเช้าครับ หลักการ sync นาฬิกาชีวิต (Circadian Rhythm) นาฬิกาที่สมองเชื่อมกับแสงแดด แต่อวัยวะอื่นๆ (กระเพาะ ลำไส้ ตับ) จะดูได้ว่าตอนนี้คือตอนเช้าคืออาหารที่ตกถึงท้อง สุขภาพที่ดีคือการทำให้นาฬิกาของสมองกับนาฬิกาของอวัยวะอื่นๆ มันเดินตรงกัน (Sync) มื้อเช้าต้องรีบกิน (ไม่เกิน 2 ชั่วโมงหลังตื่นนอน) เพื่อให้นาฬิกามัน sync กัน และ มื้อเย็นต้องกินเร็ว เพื่อให้อวัยวะเตรียมตัวพักผ่อน ถ้าใช้ชีวิตแย่จนนาฬิกาเดินห่างกันเกิน 4 ชั่วโมง ระบบเผาผลาญก็จะพัง แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการมีวินัยครับ”

 

“เมื่ออ่านฉลากอาหารต้องระวัง Serving Size เพราะแคลอรีที่ระบุอาจเป็นเพียงต่อหนึ่งหน่วยบริโภคไม่ใช่ทั้งถุง ตรวจสอบคาร์โบไฮเดรตว่ามีไฟเบอร์และน้ำตาลเยอะหรือน้อย ถ้ากังวลเรื่องน้ำตาลให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารทดแทนความหวาน และระวังคำโฆษณา ‘No Sugar Added’ ไม่ได้แปลว่าไม่มีน้ำตาลเลย”

 

การกินกับการลดการอักเสบ (Inflammation) ในร่างกายและสุขภาพอารมณ์

 

“สิ่งที่ทำให้ร่างกายเราอักเสบหลักๆ คือ ไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันที่อยู่ในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบขึ้น วิธีการกินคือต้องกินอย่างไรก็ได้ให้เรามีไขมันสะสมในร่างกายน้อย โดยการเลือกกิน ไขมันที่ดีมากกว่าไขมันที่ไม่ดี สุขภาพอารมณ์ อยากอารมณ์ดี คือกินมื้อเช้าให้ใหญ่ กับดูแลลำไส้ให้ดี การดูแลลำไส้ (Gut Health) หนึ่ง กิน Probiotics (จุลินทรีย์ดี) อย่างสม่ำเสมอทุกวัน สอง กิน Prebiotics (อาหารของจุลินทรีย์) ให้ ไฟเบอร์ จากผักผลไม้เป็นอาหารเสริม จุลินทรีย์จะเปลี่ยนไฟเบอร์ให้เป็นสารดีๆ ที่ช่วยปรับทั้งเรื่องอารมณ์และฮอร์โมนของเราได้ครับ”

จะเห็นว่าการกินเพื่อชีวิตยืนยาวอย่างมีความสุข ไม่ใช่เรื่องของการอดอาหารหรือการตามกระแส แต่คือศิลปะแห่งความสมดุลและความยืดหยุ่น หัวใจสำคัญอยู่ที่การ “กินให้ครบถ้วน หลากหลาย และรู้จักร่างกายตัวเอง” ควบคู่ไปกับการจัดลำดับอาหารให้เหมาะสม ขอเพียงปรับ Mindset ให้การดูแลสุขภาพเป็นการให้รางวัลตัวเอง และลดความเครียดจากการนับแคลอรีที่มากเกินไป เพราะที่สุดแล้ว ความมั่งคั่งที่แท้จริงคือการมีสุขภาพที่ดี พร้อมใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในทุกช่วงวัยตามวิถีของคุณ

 

UOB Privilege Banking เราใส่ใจทุกเรื่องที่สำคัญสำหรับคุณ

บทความนี้ได้รับการสนับสนุนโดย ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)

 

UOB

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising