หลังจากสนุกสนานกับเทศกาลสงกรานต์ หลายคนอาจพบว่าผิวกำลังส่งสัญญาณอันตราย ‘ร้อนจี๋ แสบๆ คันๆ แดงๆ เหมือนจะลอก’ อาการเหล่านี้คือภาวะ Sunburn หรือผิวไหม้แดด ซึ่งเป็นสัญญาณว่ารังสี UV ได้สร้างความเสียหายลึกถึงระดับเซลล์ผิว แต่หากรู้จักวิธีรับมือก็สามารถบรรเทาและฟื้นฟูสภาพผิวให้ค่อยๆ กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง แต่ต้องทำด้วยด้วยวิธีการที่ถูกต้อง THE STANDARD LIFE จึงมาแนะนำ 6 เคล็ดลับที่จะช่วยปลอบประโลมผิวให้กลับมาชุ่มชื้นซึ่งทำตามได้จริง
วิธีปฐมพยาบาลผิวไหม้แดดเบื้องต้น
เมื่อสังเกตเห็นว่าผิวของคุณเริ่มมีอาการแสบร้อนหรือแดงผิดปกติ สิ่งแรกที่ควรทำคือการประคบเย็นทันทีโดยใช้น้ำอุณหภูมิห้อง ตามด้วยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่อักเสบ ข้อควรระวังคือไม่ควรใช้น้ำแข็งโดยตรงกับผิว เพราะความเย็นจัดอาจทำให้ผิวช็อกและเกิดการอักเสบรุนแรงยิ่งขึ้น การประคบเย็นจะช่วยลดอุณหภูมิของผิวหนังชั้นนอกและบรรเทาอาการแสบร้อนได้
ปรับเปลี่ยนกิจวัตรการดูแลผิว
ในช่วงที่ผิวกำลังไหม้แดดจำเป็นต้องหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ได้แก่ โฟมล้างหน้าฟองฟู สครับ สบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรง หรือมาสก์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เพื่อไม่เพิ่มการอักเสบให้กับผิวที่บอบช้ำอยู่แล้ว
เติมความชุ่มชื้นอย่างเร่งด่วน
ผิวที่ถูกแดดเผาต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ควรเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตร Calming หรือ Soothing ที่มีส่วนผสมของสารปลอบประโลมผิว เช่น Aloe Vera (ว่านหางจระเข้), Panthenol (Vitamin B5), Madecassoside (สารสกัดจากใบบัวบก) หรือ Beta-Glucan ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูผิวได้ดี ควรทาทันทีหลังล้างหน้าและทาซ้ำระหว่างวันหากรู้สึกว่าผิวแห้งหรือตึง
ดูแลร่างกายจากภายใน
ไม่เพียงแต่ผิวเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากแดด แต่ร่างกายโดยรวมก็ขาดน้ำด้วยเช่นกัน ในช่วงนี้ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน และควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะยิ่งทำให้ร่างกายและผิวขาดน้ำมากขึ้น หากรู้สึกเบื่อน้ำเปล่า สามารถดื่มน้ำแตงกวา น้ำมะพร้าว หรือชาเขียวเย็นแบบไม่หวาน เพื่อช่วยคืนสมดุลให้กับผิวได้
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจเพิ่มการระคายเคือง
แม้จะเกิดความกังวลเกี่ยวกับความหมองคล้ำหลังจากผิวไหม้แดด แต่ไม่ควรรีบใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร Whitening เช่น Vitamin C, AHA, BHA หรือ Retinol เนื่องจากสารเหล่านี้อาจกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น ควรรอให้ผิวฟื้นตัวเต็มที่ก่อนแล้วจึงค่อยๆ เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ปกป้องผิวอย่างต่อเนื่อง
หลังจากผิวไหม้แดด ชั้นผิวจะบางลงและมีความไวต่อแสงมากกว่าปกติ แม้จะอยู่ในบ้านก็ควรทากันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป ไม่มีน้ำหอม และควรเป็นสูตร Physical Sunscreen เนื่องจากรังสี UVA สามารถทะลุผ่านกระจกเข้ามาในบ้านได้ การปกป้องผิวอย่างต่อเนื่องจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวได้รับความเสียหายเพิ่มเติม
อย่าลืมว่าการฟื้นฟูผิวจากภาวะไหม้แดดไม่ต้องการวิธีการที่รุนแรง แต่ต้องการความอ่อนโยน ความสม่ำเสมอ และเวลาในการฟื้นตัว การให้โอกาสผิวได้ฟื้นฟูตามธรรมชาติ ประกอบกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมโดยไม่เร่งรัดมากเกินไป จะช่วยให้ผิวกลับมานุ่ม เด้ง ใส และแข็งแรงได้ดังเดิม หรืออาจจะดียิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ ความอดทนและการดูแลที่ถูกวิธีคือกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูผิวหลังไหม้แดดอย่างมีประสิทธิภาพ
ภาพ: Shutterstock